8 พ.ย. 2566 413 3

Dimensity 9300 รุ่นใหม่ของ MediaTek ใช้คอร์ขนาดใหญ่ทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพสมาร์ทโฟนด้วยชิปเซ็ตเรือธง

Dimensity 9300 รุ่นใหม่ของ MediaTek ใช้คอร์ขนาดใหญ่ทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพสมาร์ทโฟนด้วยชิปเซ็ตเรือธง

SoC พลังแรงรองรับ generative AI ในอุปกรณ์เพื่อประสบการณ์ AI Edge ที่ปลอดภัยและราบรื่น

วันนี้ MediaTek เปิดตัว Dimensity 9300 ซึ่งเป็นชิปมือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการออกแบบโดยใช้คอร์ขนาดใหญ่ทั้งหมดหรือ All Big Core ที่ไม่เหมือนใคร การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ผสานรวมประสิทธิภาพขั้นสุดยอดพร้อมกับประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานชั้นนำในวงการของ MediaTek จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ไม่มีใครเทียบได้ในด้านการเล่นเกม การบันทึกภาพวิดีโอ และการประมวลผลด้วย Generative AI บนอุปกรณ์


คุณ Joe Chen ประธาน MediaTek กล่าวว่า “Dimensity 9300 เป็นชิปเรือธงที่ทรงพลังที่สุดของ MediaTek โดยนำพลัง Raw Computing มาสู่สมาร์ทโฟนเรือธงด้วยการออกแบบแบบ All Big Core สุดล้ำของเรา และเมื่อสถาปัตยกรรมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะผสานรวมเข้ากับหน่วยประมวลผล AI บนชิปที่ดีขึ้นกว่าเดิมจะยิ่งช่วยปูทางให้เข้าสู่ยุคใหม่ของการใช้งาน Generative AI เพราะนักพัฒนาสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการใช้ความสามารถของ Edge AI และ AI ไฮบริดได้”

โปรเซสเซอร์ APU 790 AI เจนเนอเรชั่นล่าสุดของ MediaTek ผสานรวมเข้ากับชิป Dimensity 9300      โดยมุ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Generative AI และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานเพื่อการประมวลผล Edge ที่เร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น  และหากพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพด้านการดำเนินงานแล้ว     APU 790 จะช่วยเพิ่มค่า Integer และ Floating Point เป็นสองเท่าพร้อมทั้งลดการใช้พลังงานลง 45% อีกทั้งยังมีการนำโมเดล Transformer มาปรับใช้เพื่อเร่งความเร็วของการดำเนินงาน ดังนั้นจึงทำให้ความเร็วการประมวลผลของ APU 790 เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 8 เท่า พร้อมทั้งสามารถสร้างภาพได้ภายในหนึ่งวินาทีโดยใช้ Stable Diffusion รวมถึง MediaTek ได้พัฒนาเทคโนโลยีการวัดปริมาณ INT4 (INT4 quantization) แบบ mixed-precision ซึ่งเมื่อผสานรวมเข้ากับการบีบอัดฮาร์ดแวร์ของหน่วยความจำ NeuroPilot ของบริษัทด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้สามารถใช้แบนด์วิดท์ของหน่วยความจำมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดปริมาณการใช้หน่วยความจำสำหรับโมเดล AI ขนาดใหญ่ได้อย่างมาก  APU 790 ยังรองรับ NeuroPilot Fusion ซึ่งช่วยให้สามารถปรับใช้ LoRA ในระดับต่ำได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งรองรับโมเดล Large Language ที่มีพารามิเตอร์ 1B, 7B และ 13B ที่มาพร้อมกับความสามารถในการปรับขนาดได้สูงสุดถึง 33B นอกจาก MediaTek Dimensity 9300 จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ AI ที่สมบูรณ์แบบแล้ว ชิปเซ็ตรุ่นนี้ก็รองรับโมเดล Large Language กระแสหลักที่ล้ำสมัย ได้แก่ Meta Llama 2, Baichuan 2, Baidu AI LLM และอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถประยุกต์ใช้งานแอปพลิเคชัน Generative AI แบบหลายรูปแบบได้ทันทีและมีประสิทธิภาพ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งาน Generative AI เช่น ข้อความ รูปภาพ และเพลง เป็นต้น

เติมเต็มประสบการณ์การเล่นเกมบนมือถือด้วยชิป Dimensity 9300 ที่มี Immortalis-G720 ซึ่งเป็น GPU เรือธงรุ่นล่าสุดของ Arm  โดยมีประสิทธิภาพ GPU สูงขึ้นเกือบ 46% แต่ใช้พลังงานในระดับเดียวกับ Dimensity 9200 เท่านั้น และอีกคุณสมบัติหนึ่งที่น่าประทับใจก็คือ Dimensity 9300 ใช้พลังงาน GPU ลดลง 40% โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับชิปเซ็ตรุ่นก่อน ผู้ใช้จึงได้ใช้งานชิปที่มีประสิทธิภาพที่ล้ำขึ้นเป็นพิเศษโดยไม่ลดทอนอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ด้วยการผสานรวมการออกแบบ CPU ที่ใช้ octa-core ที่แรงสุดขีดเข้ากับเอนจิ้น Raytracing ที่ใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นที่สองของ MediaTek สมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนโดย Dimensity 9300 จะสามารถใช้เอฟเฟกต์การสร้างมิติแสงเงา Global Illumination ที่คอนโซลได้ที่ 60 FPS ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ชิปเซ็ตอันทรงพลังรุ่นนี้ยังช่วยให้ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างไม่มีสะดุด ดังนั้นจึงสามารถเล่นเกมและสตรีมวิดีโอได้พร้อมกันหรือดูวิดีโอไปพร้อมกับการเล่นเกมก็ได้

Dimensity 9300 พลิกโฉมการถ่ายภาพบนมือถือและการถ่ายวิดีโอโดยการรวม AI-ISP ที่ใช้พลังงานต่ำและ HDR ที่พร้อมใช้งานตลอดเวลาซึ่งมีความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที (fps) ชิปเซ็ตยังรองรับโหมดภาพยนตร์ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมการจับโฟกัสโบเก้ห์แบบเรียลไทม์เพื่อให้ภาพโบเก้ห์ระดับมืออาชีพ เช่นเดียวกับระบบการลดนอยส์ 4K AI Noise Reduction (AI-NR) และการประมวลผล AI ในภาพถ่ายและวิดีโอ RAW นอกจากนี้ Dimensity 9300 ยังรองรับรูปแบบความละเอียด Ultra HDR รุ่นใหม่ใน Android 14 สำหรับสมาร์ทโฟนเจเนอเรชันรุ่นถัดไป ความละเอียด Ultra HDR ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการถ่ายภาพด้วยมือถือซึ่งจะทำให้ภาพถ่ายดูมีชีวิตชีวามากขึ้น พร้อมทั้งรูปแบบไฟล์สามารถรองรับ JPEG ที่ใช้กันในระดับสากลเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ Dimensity 9300 จะช่วยยกระดับการถ่ายภาพแล้ว ยังรองรับเทคโนโลยีการกู้คืน HDR ที่ล้ำสมัยโดยปรับแสงตามสภาพแวดล้อมโดยรอบ

ระบบแสดงผลหน้าจอของ Dimensity 9300 ใช้ความสามารถ AI อันทรงพลังในชิปเซ็ตเพื่อตรวจจับวัตถุหลักและภาพพื้นหลังแบบเรียลไทม์ เมื่อใช้ร่วมกับเอนจิ้น MiraVision Picture Quality (PQ) ด้วยแล้ว จะยิ่งช่วยปรับแก้คอนทราสต์ ความคมชัด และสีของวัตถุหลักให้ดียิ่งขึ้นตามแต่ละสถานการณ์ ทั้งช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพโดยรวมด้วยการสร้างระยะลึกที่ให้ประสบการณ์การรับชมวิดีโอที่เหมือนจริง เทียบได้กับ DTV รุ่นเรือธงในปัจจุบัน

เนื่องจากการเชื่อมต่อเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์การใช้งาน  Dimensity 9300 จึงรองรับ Wi-Fi 7 ความเร็วสูงถึง 6.5 Gbps และผสานรวมเทคโนโลยี MediaTek Xtra Range เพื่อการเชื่อมต่อระยะไกลที่ดียิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Multi-Link Hotspot ของ MediaTek ทำให้ Dimensity 9300 ทำความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับโซลูชันของคู่แข่ง


โดยคุณสมบัติหลักอื่น ๆ ของ MediaTek Dimensity 9300 ยังมี

  • พลังจากคอร์ขนาดใหญ่ : Dimensity 9300 ผลิตขึ้นโดยใช้กระบวนการผลิต 4nm รุ่นที่สามของ TSMC โดยมีคอร์ Arm Cortex-X4 สี่คอร์ที่มีความเร็วในการทำงานสูงถึง 3.25GHz และคอร์ Cortex-A720 สี่คอร์ที่ทำงานสูงถึง 2.0GHz เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ถึงขีดสุด
  • ความเร็วในการแสดงผลที่เร็วขึ้น : ชิปเซ็ตรองรับ WQHD ที่ 180Hz และ 4K สูงถึง 120Hz เพื่อมอบภาพที่น่าตื่นตาพร้อมรองรับการแสดงผลแบบ Dual Active สำหรับฟอร์มแฟคเตอร์แบบพับได้
  • การเชื่อมต่อ 5G ที่ลื่นไหล : โมเด็ม 5G R16 รองรับ 4CC-CA Sub-6GHz และ 8CC-CA mmWave พร้อมเทคโนโลยี UltraSave 3.0+ ของ MediaTek เพื่อประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่ดีขึ้น
  • หน่วยความจำที่ว่องไว: Dimensity 9300 รองรับ หน่วยความจำ LPDDR5T 9600Mbps ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน

Dimensity 9300 ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยที่เหนือกว่าใครสำหรับอุปกรณ์ Android รุ่นเรือธง พอ ๆ กันกับคุณสมบัติที่เน้นประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ การออกแบบการรักษาความปลอดภัยที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวสามารถต่อต้านการโจมตีทางกายภาพต่อการเข้าถึงข้อมูลโดยจะปกป้องกระบวนการที่สำคัญต่าง ๆ ระหว่างการบูทเครื่องและเมื่อดำเนินการประมวลผลที่มีความปลอดภัย ชิปเซ็ตดังกล่าวจึงรองรับ เทคโนโลยี Memory Tagging Extension (MTE) ขั้นสูงของ Arm ด้วยโปรเซสเซอร์ Cortex-X4 และ Cortex-A720 ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม v9 ล่าสุดของ Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาค้นหาข้อบกพร่องที่เกี่ยวข้องกับหน่วยความจำได้ง่ายขึ้นก่อนและหลังการใช้งาน โดยเทคโนโลยี MTE ซึ่ง Google มุ่งมั่นที่จะให้ใช้งานกับสแต็กของ Android ได้ทั้งหมดจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและเร่งกระบวนการพัฒนาเพื่อให้ผู้ผลิต OEM สามารถเร่งเวลาออกสู่ตลาดได้

สมาร์ทโฟนที่มีชิปเซ็ต Dimensity 9300 รุ่นแรกจะวางจำหน่ายในตลาดภายในสิ้นปี 2566

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dimensity ของ MediaTek ได้ที่: https://i.mediatek.com/mediatek-5g