11 พ.ย. 2566 421 0

การ์ทเนอร์เผยผลสำรวจ CIO ทั่วโลกกว่า 2,400 ราย ชี้ 45% กำลังเปลี่ยนแปลงบทบาทไปสู่การเป็นเจ้าของร่วม (Co-Ownership) ของความเป็นผู้นำทีมดิจิทัล

การ์ทเนอร์เผยผลสำรวจ CIO ทั่วโลกกว่า 2,400 ราย ชี้ 45% กำลังเปลี่ยนแปลงบทบาทไปสู่การเป็นเจ้าของร่วม (Co-Ownership) ของความเป็นผู้นำทีมดิจิทัล

โดยซีไอโอและผู้บริหารด้านเทคโนโลยีเห็นตรงกันว่า GenAI เป็นเทคโนโลยีที่มาเปลี่ยนเกม

ผลสำรวจความคิดเห็นประจำปีกับซีไอโอและผู้บริหารด้านเทคโนโลยีทั่วโลกของการ์ทเนอร์ เผยว่า 45% ของ CIO กำลังเริ่มทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับ C-Level ต่าง ๆ ในองค์กรเพื่อนำเจ้าหน้าที่ไอทีและทีมฝั่งธุรกิจมารวมกันเพื่อส่งมอบงานดิจิทัลในสเกลระดับองค์กร

แมนดิ บิสชอป รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “CIO ทั้งหลายเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนทัศน์และการแบ่งบทบาทความรับผิดชอบในการเป็นผู้นำร่วมกับผู้บริหาร C-Level ท่านอื่น ๆ เพื่อสร้างความสำเร็จทางดิจิทัล ขณะเดียวกันยังต้องรับมือกับแรงกดดันด้านงบประมาณและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และร่วมมือกับฝ่ายบริหารทางธุรกิจเพื่อออกแบบ ส่งมอบ และจัดการความสามารถทางดิจิทัลกับทีมให้อยู่ในจุดที่สร้างมูลค่ามากที่สุด”

นักวิเคราะห์การ์ทเนอร์นำเสนอผลสำรวจที่น่าสนใจระหว่างงาน Gartner IT Symposium/Xpo ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยผลสำรวจ The 2024 Gartner CIO and Technology Executive ได้รวบรวมข้อมูลผู้ตอบแบบสำรวจจากผู้บริหาร CIO จำนวน 2,457 ในอุตสาหกรรมหลัก ๆ จาก 84 ประเทศทั่วโลก ที่มูลค่ารายได้ทั้งในฝั่งภาคเอกชนหรือมีงบประมาณในฝั่งภาครัฐรวมกันประมาณ 12.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นมูลค่าใช้จ่ายไอทีราว 163 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

CIO ยังคงเน้นการส่งมอบบริการดิจิทัลแบบเสรีด้วย GenAI 

ผู้บริหาร CIO วางรากฐานให้กับการส่งมอบทางดิจิทัลอย่างเท่าเทียมกันด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ แพลตฟอร์ม Low-Code โดย 64% ของ CIO กล่าวว่าพวกเขาได้นำมาปรับใช้หรือวางแผนจะใช้ในอีก 24 เดือนข้างหน้า ในด้านของ Generative AI (GenAI)  70% ของซีไอโอระบุว่า GenAI คือเทคโนโลยีสำคัญที่จะมาพลิกเกม ที่จะพัฒนาการส่งมอบบริการดิจิทัลให้เป็นไปตามหลักเสรีได้อย่างรวดเร็วนอกเหนือจากฟังก์ชันไอที แม้จะมี CIO เพียง 9% เท่านั้นที่หันมาใช้เทคโนโลยี GenAI แล้ว แต่มากกว่าครึ่ง (55%) บอกว่าพวกเขาจะนำ Generative AI มาใช้ในอีก 24 เดือนข้างหน้านี้

การสำรวจยังเผยประเด็นสำคัญด้านการลงทุนในอนาคตของ CIO ในปีหน้า ที่ประกอบด้วย ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล และด้านแพลตฟอร์มคลาวด์ (ดูรูปที่ 1)

ภาพที่ 1. คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงการลงทุนทางเทคโนโลยีของ CIO ในปี 2567


ที่มา: การ์ทเนอร์ (ตุลาคม 2566) 

จากการสำรวจพบว่า ความเป็นเลิศด้านประสบการณ์ลูกค้าหรือพลเมือง ช่วยเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานและสร้างรายได้ ซึ่งเป็นผลลัพธ์สำคัญที่สุดจากการลงทุนเทคโนโลยีดิจิทัล (ดูรูปที่ 2)

ภาพที่ 2: ผลลัพธ์ระดับองค์กรที่สำคัญสุดของ CIO มาจากการลงทุนเทคโนโลยีดิจิทัล


ที่มา: การ์ทเนอร์ (ตุลาคม 2566) 

“ปัจจุบัน CIO ตั้งเป้ามากกว่าการส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ไอที โดย 42% ของ CIO บอกว่าพวกเขาต้องการเติบโตภายในขอบเขตการทำงานในปัจจุบัน และอีก 43% หวังว่าจะขยายความรับผิดชอบของความเป็นผู้นำไปอีก โดย CIO จะต้องอยู่ในตำแหน่งบนสุดของการส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจเพื่อก้าวไปอีกระดับ” บิชอปกล่าวเพิ่มเติม

CIO สามารถเสริมศักยภาพและเตรียมทีมงานธุรกิจส่งมอบบริการดิจิทัลด้วยโมเดลแฟรนไชส์


การสำรวจยังเผยรายละเอียดด้านโปรไฟล์ของ CIO ที่แตกต่างกัน 3 แบบ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงวิธีการที่ CIO ใช้ในการเร่งความเร็วและปรับขนาดการส่งมอบบริการดิจิทัล: 

  • Operator Mindset มี CIO ประมาณ 55% ที่มีแนวคิดแบบ Operator Mindset โดยรับผิดชอบในด้านดิจิทัลและทำงานร่วมกับผู้บริหาร C-Level อื่น ๆ ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการดิจิทัลเชิงธุรกิจ
  • Explorers ประมาณ 33% ของ CIO อยู่ในประเภท Explorers โดย CIO ในโปรไฟล์นี้มีการทำงานร่วมกับผู้บริหาร C-Level อื่น ๆ และทีมงานธุรกิจในกิจกรรมการส่งมอบบริการดิจิทัลแล้ว
  • Franchisers CIO 12% ที่เหลืออยู่ในกลุ่ม Franchisers ซึ่งมีบทบาทเป็นทั้งผู้นำร่วม (Co-Lead) ผู้ส่งมอบร่วม (Co-Deliver) และผู้กำกับดูแลร่วม (Co-Govern) ในโครงการดิจิทัลที่ต้องทำงานคู่ขนานกับผู้บริหารระดับ C-Level อื่น ๆ โดยจะแบ่งความรับผิดชอบของการส่งมอบกับเจ้าหน้าที่ไอทีและทีมงานธุรกิจที่ทำงานสอดประสานกันอยู่ในทีมที่หลอมรวมจากหลากหลายสาขาความเชี่ยวชาญ
  • Franchiser CIOs มีแนวโน้มตอบสนองหรือจัดการกับความคาดหวังของผลลัพธ์ทางดิจิทัลได้มากกว่า CIO ในกลุ่ม Operator และ Explorer โดย 63% ของโครงการดิจิทัลใหม่ ๆ ขององค์กรจะบรรลุหรือสำเร็จเกินเป้าหมายเมื่อ CIO นำโมเดลการทำงานแบบแฟรนไชส์มาปรับใช้ เทียบกับ 43% หากยังทำงานอยู่ในโมเดล Operator แบบเดิม ๆ นอกจากนี้ Franchiser ยังช่วยให้การทำงานด้านการจัดการไอทีแบบทั่วไปมีประสิทธิภาพดีขึ้นมาก อาทิ การพัฒนาความเป็นผู้นำของผู้บริหาร และกลยุทธ์ธุรกิจดิจิทัล

จาเนล ฮิลล์ รองประธานนักวิเคราะห์หลักของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “การดำเนินงานด้านการส่งมอบดิจิทัลอย่างเท่าเทียมอย่างต่อเนื่องแสดงถึงความพยายามในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางธุรกิจ ความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด และความคล่องตัว เนื่องจาก CEO มีความคาดหวังว่า CIO จะสามารถจัดการผลลัพธ์ขององค์กรได้ ดังนั้น CIO จึงต้องบูรณาการและปรับแนวความคิดดิจิทัลใหม่ ๆ ที่ได้รับการเสนอมาจากผู้บริหาร C-Level ในองค์กร โดยการทำงานร่วมกันแบบ Co-Ownership ระหว่างผู้บริหาร CIO และ CXO เพื่อส่งมอบบริการดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนสำคัญขององค์กรที่จะแยกจากกันไม่ได้ และไม่ใช่แค่การทำงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเป้าหมายความสำเร็จอีกด้วย”

การทำงานในลักษณะแฟรนไชส์ ทั้ง CIO และผู้บริหาร C-Level อื่น ๆ ยังต้องแบ่งความรับผิดชอบในการกำกับดูแลเทคโนโลยีด้วย เกือบครึ่งหนึ่งของ Franchiser CIO (47%) ยอมรับว่าธุรกิจควรแบ่งความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและความเสี่ยง เทียบกับประเภท Operator ที่มีเพียง 19%

“Franchisers ที่พัฒนาแนวคิดการกำกับดูแลร่วม หรือ Co-Governance Mindset จะทำงานร่วมกับผู้บริหาร C-Level อื่น เพื่อจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล แม้ว่าแต่เดิม 2 ประเด็นนี้เคยอยู่ในความรับผิดชอบของ CIO โดยผู้บริหาร C-Level ตระหนักดีว่า CIO มีหน้าที่หลักสร้างมาตรฐานการกำกับดูแล แต่ยังไม่รับรู้ว่าต้องแบ่งความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านั้นด้วย” ฮิลล์ กล่าวปิดท้าย