13 ธ.ค. 2566 733 6

‘ดีอี’ จับมือ ‘Meta’ เสริมแกร่งความปลอดภัยไซเบอร์ โครงการความร่วมมือด้านความปลอดภัยออนไลน์ประเทศไทย 2566 ดันเศรษฐกิจดิจิทัล

‘ดีอี’ จับมือ ‘Meta’ เสริมแกร่งความปลอดภัยไซเบอร์ โครงการความร่วมมือด้านความปลอดภัยออนไลน์ประเทศไทย 2566 ดันเศรษฐกิจดิจิทัล

‘ดีอี’ จับมือ ‘Meta’ สร้างความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดำเนินโครงการความร่วมมือด้านความปลอดภัยออนไลน์ประเทศไทย 2566 เสริมทักษะ ยกระดับความสามารถของประเทศ พัฒนาต่อยอดทุนมนุษย์ สร้างเศรษฐกิจดิจิทัล



ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานกล่าวเปิดการจัดงาน ‘ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยหลอกลวงออนไลน์’ (Anti-Scam and Integrity Forum : Strengthening Collaboration Against Scams for a Safer Digital Future)  ซึ่งโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงดีอีกับ META , ETDA , ตำรวจไซเบอร์และ สอท. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งมีการอบรมบุคลากรร่วมกับ META ในปี 2566 ถึง 5,000 คน ว่า วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน เครือข่ายประชาสังคมและองค์กรพันธมิตร ที่จะร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ทักษะดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการรวมถึงส่งเสริมนวัตกรรมผ่านการทำงานร่วมกันที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ในการเสริมทักษะทางดิจิทัล (digital literacy) การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (digital transformation) และเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy) เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมที่สนับสนุนการสร้างโลกดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัล ซึ่งกระทรวงดีอีได้ผลักดันเป็นนโยบาย The Growth Engine of Thailand ประกอบด้วยการยกระดับขีดความสามารถของประเทศ ความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัล การสร้าง พัฒนาต่อยอดทุนมนุษย์  

ประเสริฐ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุนประชาชนคนไทยเพื่อเตรียมพร้อมการเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ ด้วยนโยบายและแผนระดับชาติที่มุ่งเน้นการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจนที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนทุกคนและการสร้างโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงโลกดิจิทัลมากยิ่งขึ้น กระทรวงดีอี มีส่วนสำคัญในการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เพื่อการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัล อาทิ National Blockchain โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลระดับประเทศ , Digital Government เป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการต่างๆ ของภาครัฐและสามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น , Go Cloud First การวางกรอบในการขยายระบบคลาวด์เชิงโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน Public Cloud และ Private Cloud ที่มี มาตรฐานในการดูแลข้อมูลภาครัฐการลงทุนด้าน Cloud Data Center ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค (Hub) ในเรื่องนี้ และ Digital ID ขณะนี้กฎหมายได้มีมาตรฐานที่รับรองไว้แล้ว ในด้าน การบริการทั้ง ThaID และ NDID (หรือ National Digital ID) เป็นการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการบนโลกดิจิทัล ที่สามารถทำธุรกรรมทางโลกออนไลน์ต่างๆ รวมทั้งการติดต่อและดำเนินงานผ่านระบบรัฐและการติดต่อค้าขายทำได้ง่ายขึ้นและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น




ประเสริฐ กล่าวว่า นอกจากนี้กระทรวงดีอียังให้ความสำคัญกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการแก้ไขปัญหาภัยหลอกลวงออนไลน์ซึ่งมีการพัฒนารูปแบบกลโกงอย่างรวดเร็ว และเป็นข้อจำกัดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างความเสียหายแก่ประชาชนชาวไทย รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ Anti Online Scam Operation Center : AOC สายด่วน 1441 เพื่อให้มีการบูรณาการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ให้บริการ one stop service แก่ประชาชน ช่วยดำเนินการ ระงับ/อายัดบัญชี ได้ทันที รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับภัยออนไลน์ต่างๆ ทั้งยังมีการกำหนดแนวทางที่สำคัญ โดยเน้นไปที่การจัดการและป้องกันภัย หลอกลวงออนไลน์ และส่งเสริมความน่าเชื่อถือผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์กร ภาครัฐที่มีบทบาทในแต่ละภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และ แพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อแบ่งปันทรัพยากร ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และหาแนวทาง ส่งเสริมนวัตกรรมใหม่เพื่อเตรียมพร้อมให้แก่ประชาชน คนไทยรับมือกับความท้าทาย ทางไซเบอร์อย่างรู้เท่าทัน

ประเสริฐ กล่าวต่อว่า กระทรวงดีอีและหน่วยงานภายใต้สังกัด ได้มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับภัยหลอกลวงออนไลน์ร่วมกับ Meta โดยในปี 2566 ที่ผ่านมาได้มีการจัดอบรมให้ความรู้ ประชาชนภายใต้โครงการ We Think Digital มากกว่า 5,000 คน และมีช่องทางเฉพาะสำหรับทำงานร่วมกับ Meta เพื่อระบุหรือติดตามบุคคล หรือองค์กรที่ก่ออาชญากรรม เหล่านี้รวมถึงการจัดการกับเนื้อหาสื่อที่เป็นอันตรายต่อสังคม โดยทาง Meta ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีสำหรับในปี 2567 ซึ่งกระทรงงดีอีและหน่วยงานภายใต้สังกัดมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมส่งเสริมบทบาทพลเมืองดิจิทัล สนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล และร่วมเป็นพันธมิตรกับทาง Meta เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนชาวไทย


“ขอขอบคุณ Meta , ETDA , สำนักงานสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และผู้มีส่วนร่วมทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรพันธมิตรและผู้เข้าร่วมงานทุกท่านที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด แม้ความสำเร็จและความปลอดภัยของข้อมูลอาจไม่มีระบบใดป้องกันได้ 100% จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งสิ่งสำคัญในการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ การหลอกลวงออนไลน์ นอกจากจะเป็นการให้ความรู้ ความตระหนักแก่ประชาชนแล้ว ยังเป็นการย้ำเตือนกับพี่น้องประชาชนขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารจากโลกออนไลน์ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและทุกคนในสังคม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว 



สำหรับงาน ‘ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ ภัยหลอกลวงออนไลน์’ (Anti-Scam and Integrity Forum: Strengthening Collaboration Against Scams for a Safer Digital Future) เป็นส่วนหนึ่งในโครงการความร่วมมือด้านความปลอดภัยออนไลน์ประเทศไทย 2566 : รู้เท่าทันการหลอกลวงทางออนไลน์ ‘Integrity Partnership for Thailand 2023 : Staying Safe Online from Fraud and Scam’  ซึ่งเป็นความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) และองค์กรภาคีอื่นๆ เพื่อต่อยอดกิจกรรม ‘1212 ETDA : สร้างภูมิคนไทยรู้ทันปัญหาออนไลน์’ ที่จัดขึ้นกว่า 20 จังหวัด ทั่วประเทศไทยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและสนับสนุน เป้าหมายร่วมในการเสริมสร้างความรู้แก่ประชาชนไทย เกี่ยวกับการป้องกันและรับมือปัญหามิจฉาชีพบนโลกออนไลน์ ผ่าน 2 กิจกรรมหลัก 1.การพัฒนาโซเชียลแคมเปญ ‘จุดจบสแกมเมอร์’ 2.จัดงาน ‘Anti-Scam and Integrity Summit 2023’