พบกับอีโคซิสเต็มด้านอาหารที่สมบูรณ์แบบด้วยตู้เย็น Bespoke 4-Door Flex™ รุ่นปี 2024 พร้อมเทคโนโลยี AI Family Hub™+ ที่ยกระดับอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี AI Vision Inside และเตาอินดักชั่น Anyplace ที่มีเทคโนโลยี Samsung Food ที่อัพเกรดด้าน AI
ซัมซุงเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้า แอปพลิเคชั่น และฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับห้องครัวที่ทำงานโดยใช้ AI และ SmartThings ในงาน CES 2024 ซึ่งจะช่วยสร้างอีโคซิสเต็มที่จะช่วยมอบประสบการณ์ในห้องครัวและประสบการณ์ด้านอาหารที่ดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์เด่นได้แก่ ตู้เย็น Bespoke 4-Door Flex™ รุ่นปี 2024 พร้อมเทคโนโลยี AI Family Hub™+ และเทคโนยีใหม่ AI Vision Inside ยกระดับตู้เย็นซีรีส์แรกของโลกที่มีเทคโนโลยี IoT มาตั้งแต่ปี 2559 ไปอีกขั้น ซัมซุงยังเปิดตัว เตาอินดักชั่น Anyplace ที่มาพร้อมนวัตกรรมเพื่อยกระดับบริการ Samsung Food
“ซัมซุงรู้สึกภูมิใจและตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอการอัพเกรดต่างๆ ด้าน AI และ SmartThings ซึ่งถือเป็นการใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อช่วยให้ทุกคนยกระดับประสบการณ์ด้านอาหารและประสบการณ์ในครัวไปอีกขั้น” มูยัง ลี รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายประสบการณ์ผู้บริโภค กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน กล่าว “ซัมซุงมุ่งมั่นจะให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับนวัตกรรมอีโคซิสเต็มด้านอาหารที่เรามอบให้จากผลิตภัณฑ์ของเรา”
AI เพื่อแนวคิดและข้อมูลด้านอาหารที่ดีกว่า
ตู้เย็น Bespoke 4-Door Flex™ รุ่นปี 2024 พร้อมเทคโนโลยี AI Family Hub™+ เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมมากมายเพื่อยกระดับประสบการณ์ในครัว หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ AI Vision Inside ซึ่งใช้กล้องอัจฉริยะในตู้เย็นเพื่อตรวจจับสิ่งต่างๆ ที่นำมาแช่หรือนำออกจากตู้เย็น สามารถระบุวัตถุดิบสดได้มากถึง 33 ชนิดโดยอาศัยข้อมูลที่บันทึกในระบบซึ่งพัฒนามาจากชุดภาพถ่ายวัตถุดิบสดกว่า 1 ล้านภาพ[1] ระบบจะช่วยสร้างรายการอาหารหรือวัตถุดิบต่างๆ ที่อยู่ในตู้เย็นให้ที่หน้าจอ AI Family Hub™+ ผู้ใช้สามารถแก้ไขและป้อนวันหมดอายุของอาหารหรือวัตถุดิบต่างๆ ให้ระบบช่วยตรวจสอบให้ได้ด้วยตนเอง ระบบจะช่วยแจ้งเตือนก่อนถึงวันหมดอายุบนหน้าจอแอลซีดีขนาด 32 นิ้ว
รายการอาหารที่สร้างโดย AI Vision Inside บน Family Hub™+
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การจัดการตู้เย็น ซึ่งสามารถช่วยตรวจสอบสถานะของตัวกรองน้ำในตู้เย็นและจะแจ้งเตือนเมื่อตัวกรองน้ำจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ เมื่อการแจ้งเตือนดังกล่าวปรากฎขึ้นบนหน้าจอ AI Family Hub™+ ผู้ใช้สามารถสั่งตัวกรองน้ำได้จากเว็บไซต์ Amazon เพียงแค่คลิกเดียวบนหน้าจอ[2]
ฟีเจอร์ต่างๆ ที่มาพร้อมกับหน้าจอของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เตาอินดักชั่น Anyplace รวมถึงเตาแบบสไลด์อินรุ่นใหม่ล่าสุดของซัมซุงต่างมาพร้อมกับหน้าจอแอลซีดีขนาด 7 นิ้ว ช่วยให้อ่านสูตรอาหารที่บันทึกมาจากหน้าจอ Family Hub™+ เพื่อความสะดวกอีกขั้นขณะประกอบอาหาร เตาอินดักชั่น Anyplace จะให้ความร้อนหม้อหรือกระทะได้ทุกจุดของเตาอย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากซัมซุงใช้เทคโนโลยีคอยล์อินดักชั่นแบบแผ่น และยังใช้กระจกแบบป้องกันรอยขีดข่วนทดแทนกระจกเซรามิกแบบดั้งเดิม จึงไม่ต้องกังวลว่าพื้นผิวของเตาอินดักชั่นจะมีรอยขณะเคลื่อนย้ายหม้อหรือกระทะต่างๆ
แอปพลิเคชั่น Samsung Food ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้งานได้จาก Family Hub™+ เตาอินดักชั่น Anyplace รวมถึงเตาแบบสไลด์อินรุ่นใหม่ล่าสุด ยังได้รับการอัพเกรดฟีเจอร์ด้าน AI อีกหลายอย่าง เช่น ฟีเจอร์การปรับแต่งเฉพาะบุคคล3 นั้นทำงานโดยใช้ Food AI ที่พัฒนาขึ้นอีกขั้น ช่วยให้ปรับแต่งสูตรอาหารตามลักษณะการรับประทานอาหารรูปแบบต่างๆ มากขึ้นกว่ารูปแบบที่มีก่อนหน้า เช่น แบบวีแกนหรือแบบฟิวชั่น โดยจะครอบคลุมลักษณะการรับประทานอาหารทั้งแบบไม่มีส่วนผสมของกลูเตน มังสวิรัติที่รับประทานปลาได้ การรับประทานอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของนม และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เปลี่ยนจากภาพสู่สูตรอาหาร (‘Image-to-Recipe’ feature)[3] ที่ทำงานโดยอาศัย AI Vision รุ่นใหม่เพื่อตรวจจับมื้ออาหารและอาหารหรือวัตถุดิบหลากหลายรายการจากภาพถ่าย ก่อนจะค้นหาสูตรอาหารต่างๆ ที่สามารถประกอบได้จากวัตถุดิบที่ตรวจจับได้ นอกจากนี้ซัมซุงยังนำเสนอฟีเจอร์การวางแผนมื้ออาหารแบบเฉพาะตัว ซึ่งจะวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใช้โดยเชื่อมต่อกับโปรไฟล์ในแอป Samsung Health[4] เพื่อนำเสนอมื้ออาหารต่างๆ ตามความต้องการด้านสุขภาพ
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี AI และรองรับการเชื่อมต่อ รวมไปถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อห้องครัวที่ดีขึ้นในทุกวัน
อีโคซิสเต็มด้านอาหารเมื่อใช้ตู้เย็น Bespoke 4-Door Flex™ รุ่นปี 2024 พร้อมเทคโนโลยี AI Family Hub™+ เป็นศูนย์กลางของครัวจะมีฟีเจอร์ด้าน AI เป็นหัวใจหลัก โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้และบริการ Samsung Food จะสามารถทำงานสนับสนุน ซึ่งกันและกัน ช่วยให้ผู้ใช้มีความเชื่อมโยงกับอาหารหรือวัตถุดิบได้ดีขึ้นตลอดทั้งวัน พร้อมทั้งสัมผัสกับประสบการณ์ห้องครัวที่อัจฉริยะและทุกสิ่งเชื่อมโยงกันมากขึ้น
Samsung Food ยังเชื่อมโยงและผสานการทำงานกับแอป Samsung Health[5] เพื่อมอบสิ่งที่ดียิ่งกว่าให้กับผู้ใช้ โดย Samsung Food จะใช้ข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ใช้จาก Samsung Health เพื่อแนะนำสูตรอาหารที่เหมาะสมและช่วยให้สุขภาพดี หลังจากนั้น ผู้ใช้สามารถส่งสูตรอาหารเหล่านั้นไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในครัวได้เพียงกดไม่กี่ครั้ง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Tap View[6] เพิ่มความสะดวกอีกขั้นโดยสามารถแคสหน้าจอของสมาร์ทโฟนกาแล็คซี่ไปยังหน้าจอ AI Family Hub™+ ได้ จึงสามารถดู YouTube หรือ TikTok[7] ทั้งเพื่อค้นหาข้อมูลหรือเพื่อความบันเทิงในห้องครัวได้
ห้องครัวพร้อมตู้เย็น Bespoke 4-Door Flex™ รุ่นปี 2024 พร้อม AI Family Hub™+
ความก้าวหน้าเหล่านี้ช่วยให้ซัมซุงก้าวสู่เป้าหมายของการให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงมี AI เป็นพื้นฐานของอีโคซิสเต็มด้านอาหาร เพื่อมอบประสบการณ์ในห้องครัวที่ดีกว่าและง่ายกว่าเดิม
สามารถเยี่ยมชมบูธของซัมซุงที่งาน CES 2024 เพื่อสัมผัสประสบการณ์ขั้นกว่าของนวัตกรรมอีโคซิสเต็มด้านอาหารที่เชื่อมโยงกันและมี AI เป็นหัวใจหลัก
[1] การตรวจจับและระบุวัตถุดิบสดอาศัยฐานข้อมูลการเรียนรู้เชิงลึกของซัมซุงที่ใช้ฝึก AIฐานข้อมูลที่นำมาใช้นี้เป็นฐานข้อมูล ที่มีการกำหนดชุดข้อมูลไว้แล้วจึงอาจให้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ และอาจมีการเพิ่มเติมชุดข้อมูลใหม่เป็นระยะเพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำ
[2] บริการนี้มีเฉพาะประเทศสหรัฐฯ
[3] เป็นส่วนหนึ่งของบริการแบบบอกรับสมาชิกของ Samsung Food+ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย
[4] ผู้ใช้ต้องให้ความยินยอมก่อนใช้งาน
[5] ฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้หลังไตรมาส 1/2024 เฉพาะในผลิตภัณฑ์รุ่นที่รองรับ
[6] ฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้หลังไตรมาส 2/2024 เฉพาะในผลิตภัณฑ์รุ่นที่รองรับ
[7] จะอัพเดทซอฟต์แวร์ให้ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้หลังไตรมาส 2/2024