ยุคดิจิทัลที่หลายๆ คน
อาจจะไม่ได้จ้องหน้าจอคอมพ์ เพียงอย่างเดียว นอกจากเราใช้มือถือ เรายังใช้แท็บเล็ต
ที่รองรับการใช้งานแบบ Multi-Function ที่สำคัญคือ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และแบตใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานกว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
ไม่ต้องแบกคอมพ์ให้หนัก หากคุณกำลังมองหา แท็บเล็ต
ที่มีหน้าจอใหญ่ รองรับ 5G อาจจะคิดว่า ต้องมีงบเท่าไหร่กันนะ?
สำหรับ ADSLThailand ขอนำเสนอแท็บเล็ตดีไซน์สวย เพรียว บาง ตัวเครื่องเป็นโลหะ นั่นก็คือ Galaxy Tab A9+ ตอบโจทย์ คนที่เรียน ทำงาน ที่กำลังมองหาผู้ช่วยในการทำงานที่คล่องตัวในการพกพาไปใช้งานและเสพความบันเทิงได้ทุกที่
ทำไมถึงอยากแนะนำให้ใช้
Galaxy Tab A9+
อันดับแรกเลยคือ หากมองแท็บเล็ตทั่วไปในตลาด
Galaxy Tab A9+ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 695 ทำให้ได้เครื่องที่เร็ว แรง
และถือเป็นครั้งแรกที่ใช้ Snapdragon ใน Galaxy Tab A Series ดังนั้นเรื่องสเปค
ที่อาจจะเคยฝังใจว่า สเปคของ Galaxy Tab ในตระกูลเริ่มต้น A อาจจะไม่ได้รวดเร็วนัก
แต่บอกเลยว่า สำหรับ Galaxy Tab A9+ นี่อัดฟีเจอร์มาให้เต็มๆ โดยเฉพาะ RAM/ROM
ที่ให้มาเยอะแบบมือถือ ถึง 8GB/128GB
ส่วนใครที่เอามาเล่นเกม มั่นใจได้เลยว่า Galaxy
Tab A9+ เล่นเกมได้ลื่นๆ ไม่หน่วง กับ Refresh Rate ที่ให้มาถึง 90Hz ได้จอสวย
เล่นเกมเพลิน หัวไม่ร้อน และตอบโจทย์ ทั้งการเรียน การทำงาน ความบันเทิง
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 11 นิ้ว ทำให้ดูคอนเทนต์ได้แบบฟินๆ ตรงนี้หลายคนคงจะมีตัวเลือกในใจว่า
สิ่งที่ต้องการในการซื้อแท็บเล็ต ก็คือเรื่อง "จอใหญ่" นั่นเอง
แต่ถ้าจอใหญ่ แต่จอไม่สวย นี่เสียอารมณ์แน่นอน
ปกติเวลาเราซื้อแท็บเล็ต ก็จะมีแบบ รุ่น Wi-Fi
เราก็อาจจะใช้ที่บ้าน ต่อไวไฟ หรืออยู่ข้างนอกก็เอามือถือแชร์เน็ต แต่ แท็บเล็ต
Galaxy Tab A9+ ยังมีรุ่นที่รองรับ 5G ใส่ซิม โทรออก รับสายได้ รับ SMS / OTP ได้ เชื่อเราเถอะ
ลองแล้วมันดี
โจทย์แรกเลย ถ้าอยากได้ แท็บเล็ต มีปากกา ต้องบอกไว้ก่อนว่า Galaxy Tab A9+ ไม่ได้ให้ S Pen มาในกล่อง แต่ก็รองรับการใช้งาน Stylus Pen ที่หาซื้อได้ทั่วไป คือรองรับปากกา แต่หาปากกา Stylus ทั่วไปมาใช้ได้
จุดเด่นของ Galaxy Tab A9+
เป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมชิปเร็วแรง เล่นเกมลื่น จัดเต็มทุกความบันเทิง
ดังนั้นจึงเหมาะกับทุกคน
1.เร็วแรง ลื่นปรี๊ด เล่นเกมลื่น
ใช้ชิปเซ็ตใหม่ Snapdragon 695
ช่วยให้ประมวลผลไวขึ้น 48% Multi Core (CPU) และ Single Core ไวขึ้น 71% (CPU) *
เมื่อเทียบกับ Galaxy Tab A8 รุ่นก่อน
และตอบสนองการเลื่อนหน้าจอได้ลื่นๆ ด้วย Refresh
Rate 90Hz อัปเกรดจากเดิม 60Hz ใน Galaxy Tab A8 รุ่นก่อน
RAM/ROM ที่เพิ่มขึ้นจาก 4/64GB เป็น 8/128GB
(เมื่อเทียบกับ Galaxy Tab A8) ทำให้ได้แท็บเล็ตที่ใช้งานได้คล่องตัว ตอบสนองได้ไว
ช่วยให้ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกม ก็เร็วแรงไม่สะดุด
การเปลี่ยนระหว่างแอปพลิเคชันทำได้ไร้รอยต่อ ไม่หงุดหงิดระหว่างสลับแอป
ดาวน์โหลดเกมได้จุใจ ไม่ต้องกลัวเมมเต็ม เพราะใส่ microSD Card เพิ่มความจำได้สูงสุด 1TB
2.จอใหญ่ ดูหนังฟิน ลำโพงกระหึ่ม
เมื่อเทียบกับ Galaxy Tab A8 แล้ว ในรุ่นนี้อัปเกรดให้มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 11" (จาก 10.5")
ลำโพง 4 ตัว จาก Dolby Atmos ให้เสียงดังชัดเจนและดังกระหึ่ม
จอสว่างขึ้นเป็นสูงสุด 570 nits สู้แสงได้ดีขึ้นแน่นอน (จากเดิม 400
nits เมื่อเทียบกับ Galaxy Tab A8)
3.รองรับ DeX Mode เป็นครั้งแรก แปลงร่างแท็บเล็ตเป็นคอมได้ทันที
ครั้งแรก! กับ Samsung DeX บน Galaxy Tab A
Series เปลี่ยนแท็บเล็ตให้เป็นหน้าตาเหมือนแล็บท็อปได้ทันที (PC Like Experience)
สะดวกในการทำงานเหมือนบนคอม พร้อมกับความสามารถในการแบ่งหน้าจอได้สูงสุด
3 จอ สามารถปรับความยาว ความสูงของแต่ละหน้าจอที่แบ่งได้เองตามความต้องการ
ให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละครั้ง (จากเดิมได้แค่ 2 จอเมื่อเทียบกับ Galaxy Tab
A8)
แก้ Pain Point ใส่ซิมได้ รองรับ 5G โทรออก - รับสายได้ รับส่ง SMS ได้ และรับ OTP ได้
ตรงนี้ หลายคน อาจจะเคยเจอว่า เราพลาด OTP ไป ทำให้จะต้องถอดเอาซิมจากแท็บเล็ต ไปใส่ในมือถือ เพื่ออ่านข้อความ SMS หรือ OTP ดังนั้นการที่แท็บเล็ต รับ OTP ได้ สะดวกกว่า และยังลงแอปธนาคาร ใช้งานได้เหมือนบนมือถืออีกด้วย
แท็บเล็ต กับแอปพลิเคชันธนาคาร
จั่วหัวมาแบบนี้ บอกเลยว่า ลบภาพเดิมๆ ทิ้งไปเลย เพราะ Galaxy Tab A9 และ Galaxy Tab A9+ 5G สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ธนาคารมาใช้งานได้เต็มรูปแบบเหมือนกับในมือถือเลย จากที่ก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นไปได้ว่า ธนาคารทำแอปมาไม่ได้รองรับแท็บเล็ตเต็มตัว
แต่สำหรับใครที่ใช้ Galaxy Tab A9 หรือ Galaxy Tab A9+ 5G ก็คลายกังวลไปได้เลย เพราะว่าใส่ซิมได้ ทำให้โอนเงิน จ่ายบิล
จากแท็บเล็ต ได้เหมือนใช้บนมือถือเลย
Pain Point ของคนใช้แอปธนาคารบนแท็บเล็ต
รองรับซิม รับ OTP ได้
ตอนลงทะเบียนเข้าใช้งานครั้งแรกในทุกแอปฯ ธนาคาร
ต้องเข้าใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตมือถือ ทีนี้ถ้าเราใช้แท็บเล็ตแบบ Wi-Fi
จะใช้แอปธนาคารไม่ได้เลย เพราะลงทะเบียนครั้งแรกด้วยเน็ตมือถือไม่ได้ แต่ถ้าใช้
Galaxy Tab A9+ สบายใจ ใส่ซิมได้ รับ OTP ได้ ก็เลยใช้แอปธนาคารได้ตามปกติเหมือนบนมือถือ
Secure Folder ปกป้องการเข้าถึงเนื้อหาและแอปพลิเคชันส่วนตัว
เช่น ภาพถ่าย ไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงได้ ปลอดภัย รักษาความเป็นส่วนตัวได้
ถึงแม้จะปลดล็อกอุปกรณ์อยู่ก็ตาม
ปลอดภัยมากขึ้นโดยการควบคุมความเป็นส่วนตัว มี Privacy
Dashboard เช่น เราสามารถดูได้ว่าเรากำลังอนุญาตอะไรบ้าง เช่น
ตำแหน่ง/กล้อง/ไมโครโฟน
โดยเฉพาะใครที่ซื้อให้พ่อแม่หรือลูกเล็กจะได้สบายใจได้มากยิ่งขึ้น
Samsung Kids สบายใจหายห่วง
ช่วยให้ลูกของคุณสนุกสนานไปกับดินแดนดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย
กำหนดระยะเวลาการใช้งานในแต่ละแอปฯ หรือให้ดูได้เฉพาะเนื้อหาที่เหมาะสมเท่านั้น
ข้อควรรู้
ใครจะเอาไปดูหนัง ดูบอล หรือนำเสนองาน รายงาน Galaxy Tab A9+ ไม่รองรับการต่อหน้าจอออกจอนอกผ่านสาย HDMI แต่รองรับการต่อแบบไร้สาย (Wireless) ได้ 2 รูปแบบ
ตัวอย่าง : ภาพฟีเจอร์ Wireless DeX จากอุปกรณ์อื่น Samsung ที่ได้รับการอัพเดตเรียบร้อยแล้ว
สำหรับ Wireless DeX จะเชื่อมต่อ Galaxy Tab A9+ ของคุณเข้ากับสมาร์ททีวี ผ่านทาง Wi-Fi ทำให้ใช้ TV เป็นจอที่ 2 แบบไร้สาย ดังนั้นจะใช้ส่วนไหนของบ้านที่สัญญาณไปถึงก็ใช้งานได้สะดวกมากๆ
ทำไมต้อง
Wireless DeX
ก็เพราะว่า ปกติถ้าต่อ มือถือ / แท็บเล็ต กับจอทีวี แบบ Mirror หน้าจอแท็บเล็ตกับจอทีวีจะเหมือนกัน เวลาเรากดไปตอบไลน์ อ่านไลน์ คนอื่นๆ ในบ้านก็จะเห็นจอเหมือนจอเราเลย แต่ถ้าเป็น Wireless DeX เปิด YouTube ขึ้นจอทีวี แล้วเอาแท็บเล็ตไปใช้งานต่ออย่างอื่นได้ ทำให้เรายังตอบไลน์ คุยแชท ได้ตามปกติ คนในบ้านก็ดูทีวีไป ไม่ได้กระทบอะไร ตราบใดที่เรายังอยู่ในระยะสัญญาณไร้สาย
ทำไมต้องเลือกแท็บเล็ตของ Samsung
มั่นใจกับแท็บเล็ต Samsung
และทุกคนในบ้านใช้งานได้ง่าย เรียนรู้ได้เร็ว เพราะซอฟต์แวร์ของ Samsung เสถียร มี
UX/UI Interface ที่ดูง่าย ใช้งานได้ง่าย อายุ Gen ไหนในบ้านก็ใช้ได้
สอนกันได้ไม่ยาก และใช้ได้ยาวๆ มั่นใจ Samsung
เพราะดูแลระบบและซอฟต์แวร์ให้อัปเดตได้ยาวนานถึง 3 ปี
แท็บเล็ตมีขายเยอะ แต่เรื่องศูนย์บริการ นี่มั่นใจ Samsung ได้เลย เพราะมีศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศ ถ้าซื้อแบรนด์ที่ขายตามออนไลน์ จะยุ่งยากตอนเครื่องมีปัญหา อาจส่งซ่อมได้ยาก และหาซื้ออะไหล่ได้ยาก เข้าทำนอง เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
สรุป
Galaxy Tab A9+ เป็นแท็บเล็ตที่เหมาะกับทุกคน
มีให้เลือกทั้งรุ่น Wi-Fi และใส่ซิม 5G หน้าจอใหญ่ มีการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้านี้
ทำให้สเปคดี ชิป เร็ว แรง แรมเยอะ ไม่หงุดหงิดขณะใช้งาน รองรับปากกา Stylus ทั่วไป
หน้าจอสวย รองรับ Refresh Rate 90Hz เชื่อมต่อจอแบบไร้สาย ทำให้ยืดหยุ่นในการใช้งานทั้งการเรียน
ทำงาน และความบันเทิง เล่นเกม ดูหนัง ซีรีส์ ซึ่งมีให้เลือกในรุ่นหลักพัน
จนถึงหลักหมื่นต้นๆ คุ้มค่ามากๆ และด้วยชื่อของ Samsung
รับรองว่าเลือกให้พ่อแม่ ลูก หลาน สบายใจและปลื้มกันทุกคนแน่นอน
การวางจำหน่าย
Galaxy Tab A9 มี 1 สี คือ สี Graphite
Galaxy Tab A9+ มี 2 สี ได้แก่ สี Silver และ
Navy
Galaxy Tab A9 | A9+ วางจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์
samsung.com และ Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้านที่
Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยมีราคาดังนี้
Tag : #Samsung
#GalaxyTabA9 #GalaxyTabA9plus #ซัมซุง #SamsungDeX #DeXMode