6 ม.ค. 2567 411 0

บอร์ดกองทุนดีอี อนุมัติโครงการที่ได้รับทุนปี 2566 ดันการพัฒนาดิจิทัลประเทศ พร้อมเปิดรับคำขอทุนปี 2567 เริ่ม 1 กุมภา นี้

บอร์ดกองทุนดีอี อนุมัติโครงการที่ได้รับทุนปี 2566 ดันการพัฒนาดิจิทัลประเทศ พร้อมเปิดรับคำขอทุนปี 2567 เริ่ม 1 กุมภา นี้

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 1/2567 โดยมี ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย ภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม ณ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ


ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมได้อนุมัติโครงการหรือกิจกรรมของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 26 (1) และ (2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน หรือให้ความช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐและเอกชนหรือบุคคลทั่วไปในการดำเนินการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ การส่งเสริม สนับสนุน หรือให้ความช่วยเหลือดังกล่าว ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ต่อการให้บริการสาธารณะและไม่เป็นการแสวงหากําไร โดยไม่เป็นการทำลายการแข่งขันอันพึงมีตามปกติวิสัยของกิจการภาคเอกชน และให้ทุนอุดหนุนการวิจัยและพัฒนาแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชนหรือบุคคลทั่วไปในเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำหรับการใช้จ่ายเงินของกองทุนฯ ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ซึ่งการพัฒนาดิจิทัลมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะเรื่อง Digital Divide โดยมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาโครงการที่เสนอขอรับทุนให้ครอบคลุมในทุกมิติ ให้สอดคล้องกับกับนโยบายของรัฐบาลและบริหารจัดการงบประมาณอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นโดยผ่านการดำเนินโครงการที่ได้รับการจัดสรรทุนจากกองทุนฯ ต่อไป


ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ในส่วนโครงการหรือกิจกรรมของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 26 (1) และ (2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ได้รับการอนุมัตินั้น เป็นไปตามกรอบนโยบาย 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) Digital Manpower 2) Digital Agriculture 3) Digital Technology และ 4) Digital Government นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณากรอบนโยบายการให้ทุนสนับสนุนจากกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภายในกรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท ตามกรอบนโยบาย 4 ด้าน เช่นเดียวกับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาการเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2567 รวมระยะเวลาเปิดรับทุน 30 วัน โดยให้ยื่นแบบคำขอรับทุนส่งเสริม สนับสนุน หรือให้ความช่วยเหลือจากกองทุนฯ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ https://defund.onde.go.th


ด้าน ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้ทุนสนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมจากกองทุนดีอี จะพิจารณาความสอดคล้องกับกรอบนโยบายการให้ทุนประจำปีงบประมาณ 2567 ทั้ง 4 ด้าน



1) “Digital Manpower การพัฒนาบุคลากรดิจิทัล” ส่งเสริมและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
2) “Digital Agriculture เกษตรดิจิทัล” ส่งเสริมและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนานวัตกรรมและการวิจัยทางการเกษตร
3) “Digital Technology การพัฒนานวัตกรรม” ส่งเสริมและสนับสนุนการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ไปใช้ในการพัฒนาทุกภาคส่วน เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน การส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และการสร้าง Soft Power
4) “Digital Government การส่งเสริมรัฐบาลดิจิทัล” ส่งเสริม และสนับสนุนการนำนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนาการบริการภาครัฐ เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้บริการทุกภาคส่วน

โดยจะพิจารณาจากความจำเป็นเร่งด่วนหรือสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ความเหมาะสม ระยะเวลาที่ใช้ งบประมาณ ผลกระทบหรือประโยชน์ในวงกว้าง ความพร้อมในการดำเนินการ รวมถึงความยั่งยืนหลังเสร็จสิ้นโครงการ ก่อนนำเสนอให้บอร์ดกองทุน พิจารณาต่อไป


ภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า  ที่ประชุม ยังได้รับทราบผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการตามมาตรา 26 (1) และ (2) ที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าการเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 91.12 % ของจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งโครงการเหล่านั้นได้มีการนำไปใช้งานจริง เป็นประโยชน์ในเชิงสาธารณะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาปรับปรุงระเบียบบริหารกองทุนฯ เพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนฯ มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ