ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอลจี ให้นิยามใหม่แก่เทคโนโลยี AI ว่า ‘ความอัจฉริยะอันมีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence)’ และตอกย้ำถึงบทบาทหลักของเทคโนโลยีในการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและสรรค์สร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (แอลจี) จัดงานแถลงข่าว LG World Premiere ณ มัณฑะเลย์ เบย์ คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่รวมทั้งธีมการจัดงานของแอลจีในชื่อว่า ‘พลิกโฉมอนาคตของคุณ’ ภายในงาน CES 2024
มร. วิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของแอลจี ได้กล่าวเปิดงานด้วยการตอกย้ำถึงเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของบริษัทที่ได้ประกาศเมื่อปี 2023 ซึ่งก็คือการมุ่งสู่การเป็นบริษัท Smart Life Solution Company โดยแอลจีมีความเข้าใจกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกและที่พักอาศัยของพวกเขาเป็นอย่างดี มาเป็นเวลาเกือบ 70 ปี และบริษัทกำลังจะก้าวข้ามจากพื้นที่ภายในบ้านไปสู่แง่มุมใหม่ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงด้านอุปกรณ์พกพา การค้า และโลกเสมือนจริง โดยบริษัทยังคงตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในทุกด้าน ผ่านการให้ความสำคัญกับองค์ประกอบหลัก 5 ด้านที่มีชื่อว่า 3C2S ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องความเอาใจใส่ (Care) การเชื่อมต่อ (Connectivity) การปรับแต่ง (Customization) การบริการภิวัฒน์ (Servitization) และความยั่งยืน (Sustainability)
นิยามใหม่ของ AI ‘ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์’
บนเส้นทางของการสร้างนวัตกรรมและการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า แอลจีได้กำหนดว่าเทคโนโลยี AI จะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของความสำเร็จ ซึ่งแอลจีจะไม่จดจ่ออยู่กับแค่นวัตกรรมของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่จะมุ่งไปที่การแสดงให้เห็นว่า AI จะสามารถส่งมอบคุณประโยชน์ที่จับต้องได้สู่โลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร
ทั้งนี้ แอลจี ได้มอบนิยามใหม่ให้กับ AI ว่า “ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence)” ซึ่งเผยให้เห็นถึงความเชื่อที่ว่า AI จะสามารถสรรค์สร้างประสบการณ์ที่มีความใส่ใจ เห็นอกเห็นใจ และให้ความสำคัญกับลูกค้าได้มากกว่าเดิม
ชีวิตอัจฉริยะแบบเรียลไทม์
ในระหว่างงานแถลงข่าว มร. โช ได้ตอกย้ำถึงคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ของโซลูชัน AI ของแอลจี ซึ่งเริ่มจากศักยภาพที่มาจากข้อมูลจำนวนมหาศาล ทั้งในแง่ของปริมาณข้อมูลและคุณภาพของข้อมูล โดยท่ามกลางผลิตภัณฑ์ของแอลจีจำนวนกว่า 500 ถึง 700 ล้านชิ้นทั่วโลกที่ได้รับการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน มีอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์จำนวนมากที่มีเซ็นเซอร์อัจฉริยะซึ่งรองรับการใช้งาน AI และได้รับการปรับแต่งให้เรียนรู้ รวมถึงวิเคราะห์วิถีชีวิตของผู้ใช้งาน ทั้งในแง่ของกายภาพและในแง่อารมณ์ของผู้ใช้
ในขณะที่บริษัทส่วนมากพึ่งข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ในการฝึกฝนเทคโนโลยี AI ของพวกเขา จุดได้เปรียบของแอลจีก็คือ แอลจีสามารถดึงข้อมูล ‘จากชีวิตจริง’ มาได้จากอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อจำนวนมหาศาล ครอบคลุมอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ของแอลจีและอุปกรณ์ประเภท IoT อีกหลากหลายชนิด โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถส่งมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานอุปกรณ์ของลูกค้า สภาพแวดล้อมของลูกค้า รูปแบบพฤติกรรม รวมไปถึงอารมณ์ของพวกเขาในตอนนั้น ข้อมูลเชิงลึกจากหลากหลายแง่มุมจะทำให้แอลจีสามารถมองเห็นภาพที่ครบสมบูรณ์เกี่ยวกับวิถีชีวิตในบ้านของลูกค้า ซึ่งจะทำให้แอลจีสามารถส่งมอบโซลูชันสำหรับไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่ดีขึ้นและชาญฉลาดยิ่งขึ้นได้
เรียงร้อยความอัจฉริยะด้วยมันสมอง LG AI Brain
มร. โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอลจี ยังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยี LG AI Brain ซึ่งเป็นเครื่องประมวลผลอันทรงพลัง ที่ได้ขุมพลังมาจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของแอลจี โดยเทคโนโลยี AI Brain จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลของแอลจี เพื่อคาดการณ์สิ่งที่ลูกค้าต้องการโดยอิงตามพฤติกรรมการใช้งานผลิตภัณฑ์ของพวกเขา รวมถึงการเรียนรู้ผ่านบริบทต่าง ๆ การประมวลผลตรรกะขั้นสูง และสร้างโซลูชันที่เหมาะสมผ่านฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จับต้องได้
ในท้ายที่สุด เทคโนโลยีอัจฉริยะดังกล่าวจะทำให้แอลจีสามารถส่งมอบบริการและประสบกรณ์อัจฉริยะสำหรับทุกพื้นที่ในชีวิตของลูกค้า พร้อมกับความอัฉริยะที่มากขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของแอลจีภายใต้แนวคิด ‘ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์’
พันธกิจในการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างมีความรับผิดชอบ
แอลจีตระหนักดีว่าบริษัทมีหน้าที่ในการใช้เทคโนโลยี AI อย่างมีจริยธรรม และมุ่งมั่นรับผิดชอบต่อผลกระทบและผลลัพธ์ที่ตามมาจากการตัดสินใจและการกระทำต่าง ๆ ของเรา แอลจีตั้งเป้าพัฒนาระบบเทคโนโลยี AI ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานทุกคน ส่งเสริมพฤติกรรมการใช้งานเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการจัดเก็บไว้
เพื่อให้ความสำคัญกับพันธกิจดังกล่าว แอลจีจึงมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งในชื่อว่า LG Shield ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลในทุก ๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บ ไปจนถึงการใช้งานข้อมูลดังกล่าว ด้วยความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างมีความรับผิดชอบ แอลจีตั้งเป้าจะทำให้การใช้เทคโนโลยี AI ของบริษัทอยู่ในระดับที่เหนือกว่ามาตรฐานโดยทั่วไปของอุตสาหกรรม
มร. วิลเลียม โช กล่าวสรุปในช่วงท้ายว่า แนวทางการใช้เทคโนโลยี AI ของแอลจีจะตั้งมั่นอยู่บนแนวคิดที่ว่าผู้บริโภคควรจะควบคุมการใช้เทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ และยังกล่าวเสริมว่า “สโลแกน Life’s Good คือคำมั่นสัญญาที่หนักแน่นและมั่นคงที่จะคอยผลักดันให้เราสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับลูกค้าของเรา รวมถึงในยุคแห่งเทคโนโลยี AI นี้ด้วย”
ภายในงาน นอกจากมร. วิลเลียม โช แล้ว มร. จอง กีฮยอน รองประธานและหัวหน้าศูนย์แพลตฟอร์มธุรกิจ (Platform Business Center) ของแอลจี และ มร. อึน ซอกฮยอน ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ (LG Vehicle Component Solutions (VS) ยังได้มาแนะนำเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ประยุกต์มาจากเทคโนโลยี AI พร้อมเผยแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ อีกด้วย
เริ่มด้วยเทคโนโลยีสำหรับใช้งานในบ้าน มร. จองกีฮยอน ได้นำเสนอพิมพ์เขียวสำหรับสมาร์ทโฮมที่ใช้เทคโนโลยี AI ของแอลจี เพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ในการปรับเปลี่ยนไปสู่การเป็นบริษัท Smart Life Solution Company หรือบริษัทโซลูชันเพื่อชีวิตอัจฉริยะ แอลจีจึงได้ผสมผสานเทคโนโลยี ‘ความอัจฉริยะอันมีเสน่ห์’ (Affectionate Intelligence) อันเป็นเอกลักษณ์ของแอลจีเข้ากับแพลตฟอร์ม ThinQ โดยมร. จองกีฮยอนไม่เพียงแต่เผยโฉมนวัตกรรมการบริการใหม่ ๆ เช่น ChatThinQ แชตบอต AI ที่สามารถโต้ตอบบทสนทนากับผู้บริโภคได้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือ 3D Home View บริการจำลองภาพ 3 มิติของตัวบ้าน เพื่อการควบคุมจัดการพื้นที่ได้อย่างสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังเปิดเผยถึงแผนงานในการเปิดตัวศูนย์รวมบ้านสมาร์ทโฮมแห่งใหม่อีกด้วย
ในด้านยานยนต์ บริษัทได้เปิดเผยวิสัยทัศน์สำหรับรถยนต์ว่าเป็น “ที่อยู่อาศัยติดล้อ” ซึ่งขับเคลื่อนโดยโซลูชัน Software-defined Vehicle (SDV) หรือยานพาหนะที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ โดย มร. อึนซอกฮยอน ประธานบริษัท LG Vehicle Component Solutions (VS) ได้เปิดตัว LG AlphaWare โซลูชันด้านซอฟต์แวร์สำหรับ SDV ของแอลจี โดย LG AlphaWare ประกอบไปด้วยโมดูลซอฟต์แวร์อเนกประสงค์ที่จะมาพัฒนาระบบปฏิบัติการณ์ของยานยนต์ที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันให้ดีขึ้น และยังจะมาช่วยในการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีโซลูชันด้านการปฏิบัติการที่จะมาช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการนำไปประยุกต์ใช้ และยังมีโซลูชันด้านความบันเทิงในรถยนต์ ที่ทำให้สามารถรับชมคอนเทนต์ความคมชัดระดับสูง พร้อมด้วยเสียงคุณภาพสูงได้ ปิดท้ายด้วยโซลูชันอินเทอร์เฟซระหว่างคนและเครื่องยนต์ ที่นำเทคโนโลยี AR, MR และ AI มาประยุกค์ใช้ เพื่อมอบประสบการณ์สุดดื่มด่ำภายในรถยนต์ให้แก่ผู้ใช้งาน
ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข้อมูลข่าวสารจากงาน CES 2024 ได้ที่เว็บไซต์งาน CES ของแอลจี (http://www.lg.com/CES2024) และ YouTube LG Global YouTube channel