23 มี.ค. 2567 275 0

ฟอร์ติเน็ตได้รับการยอมรับจาก Gartner Magic Quadrant 2024 ขึ้นแท่น “ผู้นำ” โครงสร้างพื้นฐาน Wired และ Wireless LAN ระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์

ฟอร์ติเน็ตได้รับการยอมรับจาก Gartner Magic Quadrant 2024 ขึ้นแท่น “ผู้นำ” โครงสร้างพื้นฐาน Wired และ Wireless LAN ระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์

ฟอร์ติเน็ตส่งมอบชุดโซลูชัน WLAN/LAN ที่บูรณาการและปลอดภัย อาทิ ดาต้าเซ็นเตอร์ สมาร์ทแคมปัส ไซเบอร์-กายภาพ (Cyber Physical) SD-Branch ตลอดจน Microbranch ที่มากับ SASE และสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด

“อุตสาหกรรมตระหนักแล้วว่าเน็ตเวิร์กกิ้งกับซีเคียวริตี้จำเป็นที่จะต้องผสานรวมเข้าด้วยกัน ขณะที่ผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์กกิ้งแบบดั้งเดิมพยายามที่จะเสริมเติมซีเคียวริตี้เข้าไปภายหลัง แต่ฟอร์ติเน็ตสร้างผลิตภัณฑ์ WLAN/LAN ที่มาพร้อมซีเคียวริตี้แบบ Built-In ตั้งแต่ต้น แม้กระทั่งกับแอปพลิเคชันเอดจ์ เราได้บูรณาการ FortiSASE ซึ่งเป็นซีเคียวริตี้บนระบบคลาวด์ของเราเพื่อขับเคลื่อนการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยไร้รอยต่อ นอกจากนี้ เราได้ลงทุนอย่างหนักใน AI สำหรับการดำเนินงานด้านไอที (AIOps) เพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินงานและปรับปรุงประสบการณ์ดิจิทัลให้ดีขึ้น” จอห์น แมดดิสัน, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ฟอร์ติเน็ต กล่าว

ฟอร์ติเน็ต ผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลกที่ขับเคลื่อนการผสานรวมของระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัย ประกาศการได้รับการยอมรับในฐานะ “ผู้นำ” Gartner Magic Quadrant ปี 2024 สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน LAN และ WLAN ระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์

ฟอร์ติเน็ตเชื่อว่าการได้รับการยอมรับในครั้งนี้เกิดจากความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Secure Connectivity รวมไปถึงระบบ LAN ทั้งแบบมีสาย (Wired) และไร้สาย (Wireless) ที่บูรณาการอย่างไร้รอยต่อเข้ากับ Fortinet Security Fabric ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของทั้ง Unified Networking และทั้งไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของฟอร์ติเน็ต ด้วยวิธีการอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ติเน็ตในการผสานรวมของระบบเครือข่ายและความปลอดภัย ทำให้ให้องค์กรต่างๆ สามารถจัดการกับความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงานในขณะที่ช่วยลดความซับซ้อน ลดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพในองค์รวมทั้งหมดได้เป็นอย่างดี

โซลูชัน Secure Connectivity ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถจัดการได้ผ่านแพลตฟอร์มเพียงหนึ่งเดียว

ในขณะที่เครือข่ายต่างๆ ได้ปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบการกระจายเพิ่มมากขึ้น องค์กรต่างๆ ย่อมต้องการที่จะขยับขยายการรักษาความปลอดภัยให้ครอบคลุมเครือข่ายที่มีอยู่ทั้งหมดไปพร้อมกับการปรับเปลี่ยนการปฏิบัติการให้เรียบง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ปลายทาง ฟอร์ติเน็ตมอบโซลูชัน LAN ทั้งแบบมีสายและไร้สายขั้นสูงที่ผสานรวมเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัยเข้าด้วยกันเพื่อมอบสิ่งต่อไปนี้ให้กับลูกค้า

  • LAN ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมพร้อมการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง – องค์กรจำนวนมากขึ้นที่กำลังมองความปลอดภัยเป็นเหมือนความเสี่ยงทางธุรกิจ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีโซลูชัน LAN ที่ทั้งปลอดภัยและง่ายต่อการจัดการเพื่อรองรับการดำเนินงานในแต่ละวัน โดยลูกค้าสามารถบูรณาการระบบ LAN ทั้งมีสายและไร้สายเข้ากับแพลตฟอร์ม Fortinet Security Fabric ผ่านระบบปฏิบัติการ FortiOS ที่มีร่วมกัน การบูรณาการดังกล่าวสร้างการมองเห็น (Visibility) ที่เพิ่มขึ้น และให้ความสามารถในการควบคุมฟังก์ชั่นทั้งระบบเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัย อีกทั้งช่วยลดภาระด้านการจัดการและค่าใช้จ่ายค่าไลเซนส์ในการใช้งานซอฟต์แวร์ หรืออื่นๆ ซึ่งการยกระดับการควบคุมและการมองเห็นของเครือข่ายไฟร์วอลล์ช่วยให้ฟอร์ติเน็ตนำเสนอระบบ LAN ทั้งแบบมีสายและไร้สายที่แข็งแกร่งมากกว่าเดิมโดยไม่มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ประโยชน์ที่ได้รับจาก Secure Connectivity สามารถเห็นได้ชัดจากการนำทุกขนาดของโซลูชันไปใช้งาน รวมถึงโซลูชัน Microbranch ที่ทำให้จุดเชื่อมต่อ (Access Points) FortiApp ทำหน้าที่เป็น Endpoints สำหรับ Unified SASE, SD-Branch, แคมปัสต่างๆ ตลอดจนสภาพแวดล้อม OT และดาต้า เซ็นเตอร์
  • ความสามารถในการจัดการแบบรวมศูนย์ - ด้วยการทำงานผ่านทางแพลตฟอร์ม Fortinet Security Fabric องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากกระบวนการติดตั้งแบบ Zero-Touch เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการเปิดใช้งานฟังก์ชันซีเคียวริตี้และเน็ตเวิร์กกิ้งได้อย่างรวดเร็ว องค์กรสามารถจัดการและแก้ไขปัญหาทั้งในส่วนของเครือข่าย การรักษาความปลอดภัย และกระทั่งฟังก์ชัน SD-WAN ผ่านทางคอนโซลเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งพร้อมสำหรับการใช้งานทั้งบน On-Premise และบนคลาวด์ นอกจากนี้ สถาปัตยกรรมที่ง่ายต่อการใช้งานของฟอร์ติเน็ตยังรวมถึงฟีเจอร์ด้านการจัดการและการรักษาความปลอดภัยแบบ Built-in เป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยลดความต้องการขององค์กรในการเพิ่มจำนวนไลเซนส์และการสมัครใช้บริการเสริมอื่นๆ เพื่อจัดการส่วนประกอบของโซลูชันที่แตกต่างกัน เช่น แอคเซสพอยต์ และสวิตช์ต่างๆ
  • ข้อมูลเชิงลึกขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสร้างประสิทธิภาพและมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า - FortiAIOps โมดูลปฏิบัติการพิเศษที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของฟอร์ติเน็ต ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าพื้นฐาน (Baseline) ประสิทธิภาพของเครือข่าย พร้อมทั้งสังเกตการณ์ และวิเคราะห์แนวโน้ม พร้อมเข้าถึงและนำเสนอคำแนะนำเพื่อเสริมความแกร่งให้กับประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของเครือข่ายได้อย่างง่ายดาย โดยตัว AI เอ็นจิ้นมอบกระบวนการในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น (Event Correlation) ตลอดจนการแก้ไขปัญหาบนเครือข่ายทั้งหมดขององค์กรให้กลับมาเป็นปกติ โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ส่งมาจากแต่ละโซลูชันที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม Fortinet Security Fabric
  • รองรับ Microbranches – FortiAP ได้บูรณาการเข้ากับ FortiSASE เพื่อให้องค์กรสามารถเข้าถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพผ่านทางคลาวด์ที่โดดเด่นและเหนือกว่าอย่างง่ายดาย การบูรณาการนี้เหมาะสำหรับรองรับกรณีการใช้งานต่างๆ ของ Microbranch ซึ่งเมื่อผสานเข้ากับการตรวจสอบประสบการณ์ดิจิทัล โซลูชันของฟอร์ติเน็ตมอบการเข้าถึงแบบคอนเวิร์สเพื่อรองรับการทำงานของคนทำงานแบบไฮบริดในปัจจุบัน

ความสามารถเหล่านี้ทั้งหมดเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้งานระบบปฏิบัติการเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือ FortiOS ในการพัฒนา จัดการ อีกทั้งควบคุมดำเนินงานทั้งโซลูชันเน็ตเวิร์กกิ้งและซีเคียวริตี้ผ่านทาง Fortinet Security Fabric

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม