26 มี.ค. 2567 312 0

อาละวาดรอบใหม่! ผู้เสียหายร้อง AOC 1441 หลอกลงทุนเทรดทอง-หุ้น 2 เคส สูญเงิน 130 ลบ.

อาละวาดรอบใหม่! ผู้เสียหายร้อง AOC 1441 หลอกลงทุนเทรดทอง-หุ้น 2 เคส สูญเงิน 130 ลบ.

วงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอี) กล่าวว่า จากการรายงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ระหว่าง วันที่ 18 - 22 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา Thai Police Online รับแจ้งคดีออนไลน์ทั้งหมด 4,490 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 508,563,700 บาท และมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวงผ่านเครือข่ายออนไลน์ในหลายรูปแบบจำนวน 5 คดีร้องเรียนมายัง AOC1441 ประกอบด้วย


คดีที่ 1 หลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 60 ล้านบาท รายละเอียดคดี พบว่า ผู้เสียหายได้รู้จักมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook และได้มีการชักชวนให้ลงทุนเทรดทองคำ อ้างว่าได้รับผลตอบแทนสูงจากเปอร์เซ็นต์ที่ร่วมลงทุน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงิน เข้าร่วมกิจกรรมตามที่มิจฉาชีพแนะนำ ในระยะแรกได้ผลตอบแทนจริงและสามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ แต่ภายหลังผู้เสียหายต้องลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 2 หลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 70 ล้านบาท รายละเอียดคดี พบว่า ผู้เสียหายรู้จักมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook และได้มีการเพิ่มเพื่อนทาง Line ชักชวนให้ลงทุนเทรดตลาดหุ้นฮ่องกง https://chhlweb.tfdcdcsite/ อ้างได้รับผลตอบแทนสูง จากเปอร์เซ็นต์ที่ลงทุน ครั้งแรกได้ 20-30% ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเพิ่มวงเงินลงทุนไป ภายหลังจะถอนเงินคืน มิจฉาชีพอ้างมีค่าธรรมเนียมการยกเลิก 50 ล้านเหรียญฮ่องกง ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 3 ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน มูลค่าความเสียหาย 9 ล้านบาท รายละเอียดคดี พบว่า ผู้เสียหายได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ มิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความออนไลน์จากเพจ Facebook แจ้งว่าเงินในบัญชีของผู้เสียหายถูกนำไปฟอกเงิน อยู่ระหว่างการส่งหลักฐานให้ทางทนาย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินและจะโอนเงินคืนให้ภายหลัง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงิน ตามคำแนะนำ แต่สุดท้ายไม่ได้รับเงินโอนคืนและไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 4 หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 109,000 บาท รายละเอียดคดี พบว่า ผู้เสียหายพบโฆษณาชักชวนหารายได้พิเศษจากช่องทาง Line เป็นลักษณะงานกระตุ้นยอดขายสินค้า ผลตอบแทนรายได้ 5-20% ของราคาสินค้า ผู้เสียหายสนใจจึงติดต่อพูดคุยตามคำแนะนำของมิจฉาชีพ โดยให้โอนเงินไปเพื่อเพิ่มยอดสินค้าให้มีความน่าเชื่อถือ ระยะแรกได้รับผลตอแทนจริง ภายหลังเริ่มโอนเงินเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

และ คดีที่ 5 หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ ที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ มูลค่าความเสียหาย 5,370 บาท รายละเอียดคดี พบว่า มิจฉาชีพสร้างเพจ Facebook ปลอม ชื่อว่า Baiyoke Skye Hotel ผู้เสียหายหลงเชื่อคิดว่า เป็นเพจจริงของโรงแรมใบหยกสกายกรุงเทพ ประตูน้ำ จึงได้ติดต่อจองรับประทานอาหาร โดยในครั้งแรกโอนเงินมัดจำ และค่าประกันไป ต่อมามิจฉาชีพแจ้งว่ายังมีค่าประกันเพิ่มเติมที่ต้องชำระอีก แต่ในครั้งหลังผู้เสียหายไม่ได้โอนไปให้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้ง 5 คดี 139,114,370 บาท

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีความเป็นกังวล และขอให้ประชาชนระวังการหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ติดต่อเข้ามาผ่านโทรศัพท์ และสื่อสังคมออนไลน์ หากมั่นใจว่าปลายสายเป็นมิจฉาชีพ ให้วางสายทันที และแจ้งเบาะแสกับหน่วยงานที่ดูแล

“ดีอี ขอเตือนภัยให้ประชาชนระวังการหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ติดต่อเข้ามาในหลากหลายรูปแบบให้สังเกต และงดรับสายจากหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย รวมทั้งไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่รู้จักที่เข้ามาทักทายและขอเป็นเพื่อนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ไม่หลงเชื่อหากมีการชักชวนให้ลงทุนแล้วเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง หรือเร่งรัดให้ตัดสินใจลงทุน ขอให้ท่านอย่าไว้ใจหรือตระหนักเสมอถึงความปลอดภัยของตัวท่านเอง อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า เพื่อป้องกันการถูกกลอกลวงจากมิจฉาชีพ ซึ่งอาจจะทำให้ท่านโอนเงินให้กับมิจฉาชีพจนหมดตัวได้ รวมทั้งช่วยกันแจ้งเตือน และกดรายงานเพจปลอม หรือแจ้งเบาะแสกับหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบด้วย” วงศ์อะเคื้อ กล่าว

ทั้งนี้ หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441