3 พ.ค. 2567 292 0

กระทรวงดีอี - ดีป้า หนุน Techsauce ดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Tech Gateway พร้อมลุยจัดงานใหญ่ Techsauce Global Summit 2024 ส.ค.นี้

กระทรวงดีอี - ดีป้า หนุน Techsauce ดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Tech Gateway พร้อมลุยจัดงานใหญ่ Techsauce Global Summit 2024 ส.ค.นี้

กระทรวงดีอี - ดีป้า ร่วมงาน ‘Techsauce: Bridging Thailand to Global Impact ขับเคลื่อนไทยสู่เวทีโลก’ ชี้การดำเนินงานภายใต้โครงการ Tech Gateway ต้องเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เผย Techsauce จะทำหน้าที่เป็น Marketing Arm ในการเชิญชวนนักลงทุน สอดคล้องการพัฒนาโครงการ Thailand Digital Valley จุดนัดพบของบริษัทเทคชั้นนำจากทั่วโลกกับบริษัทเทคของไทยเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป พร้อมกันนี้ยังประกาศความพร้อมจัดงาน Techsauce Global Summit 2024 ระหว่างวันที่ 7 - 9 สิงหาคมนี้


ธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานกรรมการกำกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมด้วย ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ และ ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น ดีป้า ร่วมพิธีเปิดงาน ‘Techsauce: Bridging Thailand to Global Impact ขับเคลื่อนไทยสู่เวทีโลก’ ที่จัดโดย บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด (Techsauce) โดยได้รับเกียรติจาก ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ณ โรงแรมคอนราด

ประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการตามแผนงาน The Growth Engine of Thailand ด้านการเร่งสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันไทยไปเวทีโลกจากเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมดิจิทัลสตาร์ทอัพ โดยมุ่งเน้นการสร้างแพลตฟอร์มการส่งเสริมสตาร์ทอัพไทย (Digital Startup Nation) การสร้างกองทุนดิจิทัสสตาร์ทอัพเพื่อสนับสนุนนักลงทุนในรูปแบบ Co-Investment กับภาคเอกชน การส่งเสริมบัญชีบริการดิจิทัล ตลอดจนการสร้างประตูและโอกาสการขยายตลาดในต่างประเทศผ่านคู่ค้าระหว่างประเทศ


แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับความร่วมมือระหว่าง กระทรวงดีอี โดย ดีป้า Techsauce และเครือข่ายพันธมิตรในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Tech Gateway หรือศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยร่วมมือของ Techsauce ดีป้า บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย บริษัท ทรูดิจิทัล พาร์ค จำกัด บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) และ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)



“กระทรวงดีอี เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ของประเทศ เพราะปัจจุบัน AI เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ดังนั้น กระทรวงดีอี โดย ดีป้า และเครือข่ายพันธมิตรจึงร่วมกันขับเคลื่อน National AI Strategy” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว


ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวในช่วงเสวนาภายใต้หัวข้อ Thailand’s Path Forward: Unity and Action Through Collaboration ว่า การดำเนินงานภายใต้โครงการ Tech Gateway นั้น ดีป้า มองว่า กระบวนการขับเคลื่อนประเทศในปัจจุบันต้องเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่ง ดีป้า เล็งเห็นถึงศักยภาพของ Techsauce ที่จะทำหน้าที่เป็น Marketing Arm ในการเชิญชวนนักลงทุน โดยเป็นการทำงานเสริมกับที่ภาครัฐดำเนินการอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับสิ่งที่ ดีป้า กำลังดำเนินงาน นั่นคือการพัฒนาโครงการ Thailand Digital Valley พื้นที่ที่จะเป็น Friendly Community ให้กับประเทศไทย อีกทั้งเป็นศูนย์กลางสำหรับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลกที่จะได้พบกับบริษัทเทคโนโลยีไทยเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในระยะต่อไป



นอกจากนี้ ภายในงานยังมีพิธีลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง (MOI) การส่งเสริมและสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศระหว่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ Techsauce รวมถึงการประกาศจัดงาน Techsauce Global Summit 2024 ภายใต้แนวคิด The World of Tomorrow with AI ระหว่างวันที่ 7 - 9 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และมีกำหนดจัดงาน Techsauce Global Summit ที่ประเทศอินโดนีเซียในเดือนกันยายน และที่ประเทศเวียดนามในเดือนตุลาคม 


โดยความร่วมมือกับ บริษัท กสิกร บิชิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็น Tech Ecosystem Builder เชื่อมโยงความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเดินหน้าสู่เป้าหมายการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็น Tech Gateway ของภูมิภาคต่อไป