HMD ประเทศไทย เดินเครื่องกลยุทธ์มัลติแบรนด์ ขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ เปิดตัวสมาร์ทโฟนแบรนด์ HMD ใหม่ 2 รุ่น HMD Pulse Pro และ HMD Pulse+ จากตระกูล HMD PULSE FAMILY ประเดิมตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทย พร้อมจำหน่าย 14 พ.ค. นี้ ชูฟีเจอร์กล้องเซลฟี่ 50 MP งานประกอบเนียบ เพียวบาง เรียบหรู เฉดสีสันสดใสทันสมัย แบตเตอรี่อึดทนใช้งานได้นาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้สมาร์ทโฟนคนรุ่นใหม่ เคาะราคาเริ่มต้นในตลาดประเทศไทย 3,790 บาท ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ “โอกาสที่ดีกว่า ในราคาที่เข้าถึงได้” มองตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทยปีนี้คือโอกาส สัญญาณดีจากพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ คาดตลาดสมาร์ทโฟนไทยจะกลับมาคึกคัก
ภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) เผยว่า HMD Global มองตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทยปีนี้คือโอกาส เป็นตลาดที่มีไดนามิกที่ต้องโฟกัสและจับตามอง ด้วยสัญญาณที่ดีจากผู้บริโภค ด้านพฤติกรรมและความต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มเจนเนอร์เรชั่นใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนสมาร์ทโฟน ตามเทรนด์และค่านิยม โดยเฉพาะดีไซน์ตัวเครื่อง ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์มากขึ้น และโปรโมชั่นต่าง ๆ รวมถึงมาตรการต่างๆ จากทางภาครัฐฯ ในการกระตุ้นกำลังการจับจ่าย ส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนมีแนวโน้มกลับมาขยับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะมาพร้อมการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นเช่นกัน
เพื่อคว้าโอกาสดังกล่าว HMD ประเทศไทยจึงเร่งเดินหน้ากลยุทธ์มัลติแบรนด์ ขยายพอร์ตโฟลิโอกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนครั้งสำคัญต่อจากการประกาศทรานส์ฟอร์มธุรกิจและการเปิดตัวสมาร์ทโฟนล่าสุดของ HMD PULSE FAMILY ของ HMD Global ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุด 2 รุ่น คือ HMD Pulse Pro และ HMD Pulse+ บุกตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย ถือเป็นกลุ่มประเทศแรกที่ได้จำหน่าย โดยจะเริ่มจำหน่ายสมาร์ทโฟน HMD Pulse Pro และ HMD Pulse+ วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 นี้ ทั้งนี้ มองกลุ่มเป้าหมายของสมาร์ทโฟนใหม่ทั้ง 2 รุ่น เป็นผู้บริโภคเจนเนอร์เรชั่นใหม่ ด้วยจุดเด่นฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ และดีไซน์ตัวเครื่องที่ทันสมัยกับเฉดสีสดใส ราคาจับต้องได้ที่ตอกย้ำแนวคิด “โอกาสที่ดีกว่า ในราคาที่เข้าถึงได้” ของ HMD
สมาร์ทโฟนใหม่จาก HMD PULSE FAMILY ทั้ง HMD Pulse Pro และ HMD Pulse+ มาพร้อมสเปคคุ้มเกินราคา หน่วยความจำ RAM 6GB สำหรับ Pulse Pro และ 4GB สำหรับ Pulse+ พร้อม Virtual RAM เพิ่มขึ้นสูงสุด 6GB ติดตั้งชิปเซต Unisoc T606 ความเร็วสูงสุด 1.6 GHz หน้าจอคมชัดระดับ HD+ ระบบปฏิบัติการ Android™ 14 กล้องคู่ AF 50 MP โหมด Super Night พร้อมโหมด Tripod, FlashShot, AI HDR และการปรับแต่งโทนผิวที่ใสเป็นธรรมชาติ ระบบเซ็นเซอร์ความเร่ง (G-เซ็นเซอร์) e-Compass เซ็นเซอร์แสงสภาพแวดล้อม และเซ็นเซอร์ระยะห่าง พร้อมกับแบตเตอรี่ 5000 mAh ตอบโจทย์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ยาวนานในยุคที่เร่งรีบและต้องการการเชื่อมต่อที่ต่อเนื่องไม่สะดุด โดยทั้ง 2 รุ่น มีสเปคที่โดดเด่นต่างกันคือ HMD Pulse+ มาพร้อมกล้องหลัง 50 MP เซ็นเซอร์ความลึกที่ช่วยให้ถ่ายภาพที่มีคุณภาพได้อย่างง่ายขึ้น กล้องหน้าความคมชัด 8 MP พร้อม AI Camera ที่ช่วยทำให้ทุกรูปสวยงานมากขึ้น การชาร์จ 10W พร้อมหัวชาร์จ adapter โดยตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สีคือ Midnight Blue (สีน้ำเงินเข้ม) และ Glacier Green (สีเขียว) ในราคา 3,790 บาท
ขณะที่ HMD Pulse Pro มากับกล้องหน้าความคมชัดสูง 50 MP กล้องหลัง 50 MP โหมดเซลฟี่ (Selfie gesture) พร้อมเทคโนโลยีช่วยถ่ายภาพอัจฉริยะด้วยท่าโพส โหมดถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือในเวลากลางคืนที่ตอบโจทย์การโฟกัสภาพทั้งในระยะสั้นและระยะไกล โหมด AI Super Portrait ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพบุคคลที่ให้ความคมชัดระดับอัลตร้า เหมาะกับผู้รักการถ่ายรูปเซลฟี่ พร้อมฟีเจอร์การสั่งถ่ายเซลฟี่ด้วยการโบกมือ หรือสั่งงานแบบแฮนด์ฟรี ด้วยการทำนิ้วเป็นรูปหัวใจ ยกนิ้วโป้ง หรือใช้สองมือทำสัญลักษณ์รูปหัวใจ ด้วยการเริ่มต้นใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวด้วยการชูสองนิ้วให้กล้อง HMD Pulse Pro มีฟังก์ชันการชาร์จเร็ว 20W พร้อมหัวชาร์จ adapter และมากับตัวเครื่องสี Black Ocean (สีดำ) ในราคา 4,790 บาท
ภราดร กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมาร์ทโฟนในตระกูล HMD PULSE FAMILY ได้รับการพัฒนาให้ขานรับเทรนด์การใช้สมาร์ทโฟน กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคเจนเนอร์เรชั่นใหม่ที่ตื่นตัวกับวิวัฒนาการเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนใหม่ๆ โดยพบว่าปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลในการเปลี่ยนหรือเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ของกลุ่มเจนเนอร์เรชั่นใหม่ คือฟีเจอร์การถ่ายภาพ โดยเฉพาะโหมดเซลฟี่อัจริยะ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากที่สุด รองลงมาคือดีไซน์ตัวเครื่องเครื่องและโทนสี เน้นให้มีความโมเดิร์น เรียบหรู สดใส และมีความทันสมัย เข้าได้กับทุกลุคและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันอย่างลงตัว และสุดท้ายคือราคาที่จับต้องได้ สอดรับการยุคเศรษฐกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ยังต้องการสมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์ตอบโจทย์ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตทั้งเรียน ทำงาน ท่องเที่ยว และกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน”
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังอุ่นใจตลอดการใช้งาน ด้วยบริการ HMD Services center Delivery อยู่ที่ไหนก็ซ่อมได้ง่าย ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ มีบริการให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งาน ด้วยบริการค่าส่งซ่อมฟรี! ผ่าน EMS ของไปรษณีย์ไทยกว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ พร้อมบริการ Pick Up Service รับเครื่องซ่อมนอกสถานที่ บริการครบจบที่เดียวผ่านช่องทาง NPK Call Center 02-005-0195 เป็นบริการพิเศษสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ HMD ที่โทรศัพท์ยังอยู่ในระยะเวลาประกัน ในพื้นที่ให้บริการ ทั้งนี้ โทรศัพท์ เอชเอ็มดี โกลบอล มีรับประกันเครื่อง 1 ปี ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กำหนด
HMD มุ่งพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก โดยหนึ่งในเรื่องที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสนใจคือ สมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้คงทนยาวนาน ดังนั้นสมาร์ทโฟน HMD จึงถูกผลิตด้วยวัสดุคุณภาพ พร้อมกระบวนการผลิตที่รองรับการซ่อมแซมในระดับ Gen 1 ผู้ใช้งานสามารถซ่อมแซมด้วยอุปกรณ์เสริมด้วยตนเองได้เมื่อเกิดปัญหา เช่น สมาร์ทโฟนหน้าจอแตก พอร์ตชาร์จเสีย หรือแบตเตอรี่เสื่อม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ลดความสิ้นเปลืองจากการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเพียงเพราะปัญหาในระหว่างการใช้งาน อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้โลก ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ HMD ด้านความยั่งยืนในทุกระดับที่ครอบคลุมวงจรชีวิตทั้งหมดของอุปกรณ์จาก HMD ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริการในแต่ละประเทศ ภราดร กล่าวทิ้งท้าย
สมาร์ทโฟนใหม่ HMD Pulse Pro และ HMD Pulse+ จาก HMD PULSE FAMILY ทั้ง 2 รุ่น พร้อมวางจำหน่าย 14 พฤษภาคม 2567 นี้ ได้ที่ตัวแทนจำหน่าย HMD ทั่วประเทศ ร้าน TG Fone ทั่วประเทศและในช่องทางออนไลน์ HMD Official Shop ใน Shopee Mall และที่ LazMall ใน Lazada
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สมาร์ทโฟนใหม่ HMD Pulse+ และ HMD Pulse Pro: https://www.hmd.com/th_th