บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (Bangkok Commercial Asset Management PCL.) หรือ BAM ผู้นำธุรกิจด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เป็นองค์กรหลักในการพลิกฟื้นสินทรัพย์เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เดินหน้าการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่องด้วยการร่วมมือกับ ConnectX เพื่อนำกลยุทธ์ MarTech ผ่านการใช้แพลตฟอร์ม Customer Data Platform (CDP) เพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลของลูกค้ามาทำการวิเคราะห์ ส่งผลให้การวางกลยุทธ์และการทำการตลาดดีขึ้น มีความแม่นยำต่อกลุ่มเป้าหมาย และคุ้มทุนมากขึ้น
ดร.ธนกร หวังพิพัฒน์วงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้บริหารสูงสุดฝ่ายสารสนเทศและดิจิทัล บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การร่วมมือกับ ConnectX เพื่อนำเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม MarTech มาใช้กับธุรกิจและการให้บริการ ช่วยให้ BAM ได้แนวทางทำการตลาดยุคใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ โดยใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานสำคัญและหัวใจหลักในการสร้างแคมเปญหรือโปรโมชั่นที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ชัดเจน ช่วยให้ BAM สามารถใช้งบการตลาดได้อย่างคุ้มค่า และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เก็บบนแพลตฟอร์ม CDP นั้นเป็นการรวบรวมและปรับข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งข้อมูลทั้งหมด แล้วนำมาสร้างโปรไฟล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับลูกค้าแต่ละคน (Comprehensive and unique profiles for each customer) ฐานข้อมูลลูกค้าที่มีความต่อเนื่องนี้จึงกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแคมเปญการตลาดที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และเจาะจงพฤติกรรมของลูกค้ารายบุคคลได้มากที่สุด”
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ BAM สร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Customer Data Platform (CDP) นี้ ได้แก่
1. ฐานข้อมูลลูกค้าแบบศูนย์รวม: ความสามารถของแพลตฟอร์ม CDP ในการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทางหรือที่เรียกว่า Omni Channel ที่ไม่ว่าลูกค้าจะมาจากช่องทางไหนก็สามารถเก็บรวบรวมและปรับข้อมูลลูกค้าให้เป็นโปรไฟล์ที่ครอบคลุมรายละเอียดของลูกค้ารายบุคคลนั้น ทำให้ BAM มีมุมมองในภาพรวมของลูกค้าดีขึ้น และสามารถทำความเข้าใจความต้องการ พฤติกรรม และแนวโน้มของกลุ่มลูกค้าได้อย่างละเอียด
2. ให้ความสำคัญกับลูกค้าแบบรายบุคคล: มุ่งเน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์รายบุคคลแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้แคมเปญการตลาดนั้นโดนใจ เพราะลูกค้ารู้สึกว่าข่าวสารและข้อมูลที่ได้รับนั้นเป็นเรื่องที่ตนเองสนใจ และตรงตามความต้องการ
3. เพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมขาย: เมื่อนำแพลตฟอร์ม MarTech และ CDP มาให้ทีมขายใช้แล้ว จะสามารถสรุปได้ว่า รูปแบบและกลยุทธ์การขายแบบใดที่สามารถปิดการขายได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำให้ BAM สามารถนำรูปแบบกลยุทธ์นั้นมาทำซ้ำหรือประยุกต์ใช้ และสร้างเป็นระบบการขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีเครื่องมือช่วยการขายที่ดีขึ้นจนบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
4. การเชื่อมต่อกับระบบ Marketing Automation แบบไร้รอยต่อ: เมื่อรวมพลังของฐานข้อมูลลูกค้าแบบรวมศูนย์บนแพลตฟอร์ม CDP เข้ากับระบบ Marketing Automation เข้าด้วยกันแล้ว ทำให้ BAM สามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้ารายบุคคลได้เป็นจำนวนมาก และสร้างผลตอบแทนจากการใช้เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่ามากที่สุด
วรภัทร ศศิบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท คอนเนคเอ็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบันนี้การนำแพลตฟอร์ม Marketing Automation ไปใช้ในการทำการตลาดมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจประเภทไหนก็ตาม เพราะเมื่อคุณเข้าใจตัวตนและความต้องการของลูกค้าของคุณตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ Consumer Journey แล้ว คุณก็จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ถูกที่ และถูกเวลามากขึ้น งบการตลาดก็ถูกใช้อย่างเป็นระบบและคุ้มค่ามากที่สุด ดังเช่นในกรณี BAM ที่เมื่อใช้งานแพลตฟอร์มนี้แล้วก็สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ได้อย่างสวยงาม”
เรื่องราวความสำเร็จของ BAM นี้เป็นตัวอย่างของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการสร้างฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในการสร้างกลยุทธ์การตลาดเพื่อการเจริญเติบโตทางธุรกิจ เพียงลงทุนกับงบประมาณด้านการตลาดก็สามารถพัฒนาประสิทธิภาพให้กับทีมขายได้มากขึ้น 30% และเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าได้ถึง 35% ประกอบกับการทำงานของแพลตฟอร์ม CDP และการนำเอา Marketing Automation มาใช้ BAM จึงกลายเป็นผู้นำของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง