28 พ.ค. 2567 148 0

เจาะลึกฟังก์ชันแบตเตอรี่ใน Infinix NOTE 40 Series เพิ่มประสบการณ์สมาร์ทโฟนคู่ใจด้วยสเต็ปชาร์จไวที่เหนือกว่า ให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

เจาะลึกฟังก์ชันแบตเตอรี่ใน Infinix NOTE 40 Series เพิ่มประสบการณ์สมาร์ทโฟนคู่ใจด้วยสเต็ปชาร์จไวที่เหนือกว่า ให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน ที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารรวมถึงรับข้อมูลข่าวสารผ่านโทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น สมาร์ทโฟนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวก และเข้ามามีบทบาททำให้ชีวิตประจำวันมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากฟังก์ชั่นการทำงานต้องตอบโจทย์แล้ว เรื่องของแบตเตอรี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อให้ทุกการติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างไม่มีสะดุด


ล่าสุด อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่า ครบครันทุกการใช้งาน และเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมที่ออกแบบและสร้างสรรค์มาเพื่อผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ได้เปิดตัว NOTE 40 Series สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จสุดล้ำ มาพร้อมไฮไลท์ชิปเซ็ตตัวแรกที่พัฒนาขึ้นโดยอินฟินิกซ์อย่าง Cheetah X1 อย่าง All-Round FastCharge 2.0 ที่รองรับการชาร์จเร็วได้ถึง 100W พร้อมกับโหมดการชาร์จที่หลากหลาย รองรับทุกสถานการณ์และไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะจัดเต็มขนาดไหนจะพาทุกคนไปเจาะลึกข้อมูลกัน



สุดยอดโหมดการชาร์จที่เลือกได้ 3 ระดับ เพิ่มแบตได้กว่า 50% ในระยะเวลาเร็วสุดเพียง 8 นาที

  • Hyper Mode สุดยอดโหมดการชาร์จที่ต้องการความรวดเร็ว ด้วยโหมดนี้จะช่วยให้แบตเตอร์รี่เพิ่มขึ้นกว่า 50% ชาร์จแค่เพียง 8 นาที ก็สามารถให้สมาร์ทโฟนกลับมาใช้งานได้ต่อเนื่องไม่สะดุด
  • Smart Mode โหมดการชาร์จสุดอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ผสานสมดุลความเร็วและยังคงรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไว้ได้ ด้วยการชาร์จ 50% ภายใน 12 นาที
  • Low-Temp Mode อยู่เมืองร้อน แต่เครื่องห้ามร้อน ด้วยโหมดนี้จะช่วยให้อุณภูมิสมาร์ทโฟนลดลง 10 องศาในขณะชาร์จและรักษาสุขภาพแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

เปลี่ยนทุกความกังวล ให้ง่ายเพียงปลายนิ้ว


MagKit อุปกรณ์การชาร์จแบบไร้สายที่รองรับการชาร์จได้สูงสุด 20W มอบความสะดวกสบายให้ชีวิตไร้กังวล ด้วย MagCase และแผ่นชาร์จแบบแม่เหล็ก MagPad ที่มีมาใน Infinix NOTE 40 Series ทุกรุ่น ให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ ecosystem จากอินฟินิกซ์แบบไร้รอยต่อ  

  • Reverse Charging หรือระบบการชาร์จแบบย้อนกลับ ที่ช่วยให้สามารถแชร์พลังงานกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น ๆ ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ด้วยความเร็วสูงสุด 10W
  • Bypass Charging 2.0 เอาใจสายเอนเตอร์เทนด้วยระบบที่ช่วยกรองกระแสไฟและจ่ายไฟโดยตรงไปยังเมนบอร์ดทำให้ระหว่างการเล่นเกมหรือดูวิดีโอฟังก์ชันนี้จะช่วยลดอุณภูมิของเครื่องลดได้ 4.5 องศา เพื่อป้องกันความร้อนของเครื่องไม่ให้สูงเกินไป
  • AI Charge ฟังก์ชันนี้จะปรับเปลี่ยนตามรูปแบบการใช้งานสมาร์ทโฟนของแต่ละคน โดยป้องกันการชาร์จขณะที่ไม่ได้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการนอนหลับ ด้วยเทคโนโลยี AI Charge จะเป็นอีกหนึ่งฟังกชันที่จะช่วยรักษาอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
  • Extreme-Temp Tech แม้จะต้องพบเจอกับสภาวะสุดขั้วอย่างอุณหภูมิ -20 องศา แต่ก็มั่นใจได้ว่าจะสามารถชาร์จได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแน่นอน

แชท ชม แชร์ ไม่ต้องชาร์จเผื่อ แบตครึ่งเดียวก็แสตนบายได้ ไม่สะดุด



สมาร์ทโฟนในซีรีส์นี้นอกจากจะมาพร้อมความเร็วและแรงแบบสุดๆแล้ว แบตเตอรี่ยังมีความทนทานในการใช้งานต่อเนื่อง เพราะชาร์จเพียงแค่ 50% ก็สามารถโทรศัพท์ได้นาน 9.1 ชั่วโมง หรือคอหนังคอซีรีส์ก็ดูกันได้ยาว ๆ 6.8 ชั่วโมง แม้แต่สายเกมมิ่งก็อยู่ในตี้ได้ต่อเนื่อง 3.1 ชั่วโมง  และอายุการใช้งานยาวนานสูงกว่า 1,600 รอบ และยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ 80%





ดังนั้นผู้ใช้งานจึงไม่ต้องคอยกังวลแม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่อาจทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนต้องสะดุดเพราะไม่ว่าแบตจะหมดระหว่างช่วงเวลาสำคัญ ลืมชาร์จโทรศัพท์ตอนกลางคืน หรือมีเวลาชาร์จแบตไม่ถึง 10 นาที ด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังของ NOTE 40 Series  ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันและเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ทุกการสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่องตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแน่นอน สำหรับ Infinix NOTE 40 Series มีมาให้เลือกด้วยกันสองรุ่น ได้แก่ รุ่น NOTE 40Pro+ 5G ราคา 11,999 บาท มาพร้อมกับสองสีสัน Obsidian Black (ดำ) และ Vintage Green (เขียว) และ รุ่น NOTE 40Pro ราคาเพียง 8,999 บาท ในสี Titan Gold (ทอง) และ Vintage Green (เขียว) โดยมีจำหน่ายทั้งช่องทางออนไลน์และร้านค้าชั้นนำ

สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นดี ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/InfinixMobileThailand/