31 พ.ค. 2567 4,924 30

รมว.ดีอี นำทีมตำรวจไซเบอร์ ลุยจับ เครือข่าย 'โจรออนไลน์ข้ามชาติ' ยึดทรัพย์กว่า 220 ล้านบาท

รมว.ดีอี นำทีมตำรวจไซเบอร์ ลุยจับ เครือข่าย 'โจรออนไลน์ข้ามชาติ' ยึดทรัพย์กว่า 220 ล้านบาท

รมว.ดีอี นำทีมตำรวจไซเบอร์ ลุยจับ เครือข่าย 'โจรออนไลน์ข้ามชาติ' ยึดทรัพย์กว่า 220 ล้านบาท


ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย สุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี วัลลภ รุจิรากร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 นำทีมเปิดปฏิบัติการ The Purge EP.2 กวาดล้างเครือข่ายอาชญากรออนไลน์ข้ามชาติ ทำการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยอง


ประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอี ได้ร่วมกับ สอท. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดปฏิบัติการ The Purge EP.2 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 6 จุด และในจังหวัดระยอง 1 จุด ซึ่งเป็นปฏิบัติการสืบเนื่องจากการขยายผลต่อเนื่องกรณีกลุ่มอาชญากรออนไลน์ข้ามชาติในคดีหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล (Hybrid Scam) หรือ ไฮบริด สแกม โดยก่อนหน้านี้ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดทรัพย์เครือข่ายกว่า 220 ล้านบาท 

ทั้งนี้เครือข่ายอาชญากรข้ามชาติดังกล่าว ได้ใช้วิธีชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุนสกุลเงินดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มปลอม โดยให้ผู้เสียหายซื้อเงินสกุล USDT และโอนไปตามเลขกระเป๋าเงินดิจิทัลตามที่คนร้ายระบุ ก่อนที่จะถูกโอนเข้าบัญชีของแพลตฟอร์มเทรดเงินดิจิทัล แล้วนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งถือเป็นวิธีการฟอกเงินรูปแบบหนึ่ง

สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องการซี่งทำหน้าที่เป็นผู้บริหารบัญชีเงินที่ได้จากการกระทำความผิด และนำเงินดังกล่าวมาฟอกแปรสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ และทรัพย์สินมีค่า โดยสามารถยึดอายัดบ้านและคอนโดหรูที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายดังกล่าวได้ พร้อมกับการอายัดบัญชีธนาคารผู้ต้องหา และบริษัทที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ เงินสด รถยนต์หรู 3 คัน นาฬิกาหรูกว่า 10 เรือน กระเป๋าแบรนเนมด์ โทรศัพท์มือถือ ได้หลายรายการ ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท 

“ปฏิบัติการ The Purge EP.2 เป็นปฏิบัติการตามข้อสั่งการของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ให้เกิดเป็นรูปธรรม ในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการขยายผลการจับกุมต่อเนื่องจากปฏิบัติการรอบแรกในเดือนเมษายน 2567 เพื่อจับกุมเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ ที่ใช้วิธีการหลอกลวงให้ลงทุน พร้อมกับนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดมาฟอกเงินเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินต่างๆ 

ทั้ง บ้าน รถยนต์หรู และของมีค่าอื่นๆ โดยหลังจากนี้จะทำการขยายผลเส้นทางการเงินที่พบว่าเป็นบัญชีม้าของคนต่างชาติ และมีบัญชีในต่างประเทศ ซึ่งหมุนเวียนเข้ามาในประเทศไทย” ประเสริฐกล่าว