ออโตสตอร์ (AutoStore™) บริษัทด้านเทคโนโลยีคลังสินค้าระดับโลกที่เปลี่ยนระบบอัตโนมัติของคลังสินค้าด้วยระบบการจัดเก็บแบบโมดูลาร์ ประกาศ ว่า ได้เปิดโรงงานประกอบหุ่นยนต์ในจังหวัดระยอง ประเทศไทย ซึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ในความพยายามขยายธุรกิจไปทั่วโลกของบริษัทฯ โดยนำการผลิตหุ่นยนต์ที่ล้ำสมัยมาใกล้ชิดกับตลาดสำคัญมากขึ้น ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้กว่า 1,450 ระบบที่ได้กระจายไปใน 54 ประเทศ ทำให้ AutoStore เป็นระบบอัตโนมัติที่ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุดในโลก จากการที่ AutoStore เร่งการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (APAC) โรงงานหุ่นยนต์แห่งใหม่ในประเทศไทยจะช่วยให้ระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายอัตโนมัติของบริษัทฯเข้าสู่คลังสินค้าในเอเชีย แปซิฟิกได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับในเอเชีย แปซิฟิก มีระบบกว่า 140 ระบบและหุ่นยนต์กว่า 5,300 ตัวที่พร้อมปฏิบัติงานสำหรับแบรนด์ชั้นนำอย่างพูมา กุชชี่ และ เบสท์ บาย ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของ AutoStore เพื่อตอบสนองความต้องการอีคอมเมิร์ซที่กำลังเพิ่มขึ้น
"ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 หุ่นยนต์ของเราได้ผลิตและจัดส่งมาจากประเทศโปแลนด์ แต่จากการความต้องการที่เพิ่มขึ้นในระบบอัตโนมัติของเราทั้งอเมริกาเหนือและทั่วโลก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเปิดโรงงานหุ่นยนต์แห่งที่สองเพื่อให้บริการลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้ดียิ่งขึ้น" มัทส์ โฮฟแลนด์ วิคเซ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ บริษัท AutoStore กล่าวและว่า "ความพร้อมด้านแรงงาน ความใกล้ชิดกับท่าเรือและสนามบิน ค่าแรงที่เหมาะสม และแรงจูงใจจากรัฐบาลสำหรับบริษัทด้านระบบอัตโนมัติ ทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับโรงงานหุ่นยนต์แห่งที่สองของเราที่จะขับเคลื่อนการฏิบัติงานส่วนอเมริกา เหนือของ AutoStore "
“ในช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา เราได้เพิ่มกำลังการผลิตที่มีอยู่เป็นสามเท่า และเราได้วางโครงสร้างไว้สำหรับเติบโตอีก 10 เท่าในอีก 24 เดือนหากจำเป็น” อิสราเอล โลซาดา ซัลวาดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ หรือ ซีโอโอ บริษัท AutoStore กล่าวและว่า “การขยายธุรกิจสู่ประเทศไทย เราไม่ได้เพียงเพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังสร้างฐานซัพพลายเออร์ที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ระยะในรอสินค้าจาก AutoStore ลดลงจาก 34 สัปดาห์เป็น 20 สัปดาห์”
แทนที่การจัดเก็บตามชั้นและดึงออกด้วยมือ AutoStore ใช้ระบบจัดเก็บแบบโมดูลาร์แบบคิวบ์ โดยใช้หุ่นยนต์ล้ำสมัยเพื่อให้ผู้ค้าปลีกได้ใช้โซลูชันที่เติมเต็มคำสั่งซื้อที่เร่งด่วน ให้พื้นที่คลังสินค้าสูงสุด และปรับปรุงประสิทธิภาพการฏิบัติงาน
โรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทยคาดว่า จะสร้างโอกาสการจ้างงานประมาณ 80 ตำแหน่งในปีแรก และ มีแผนจะเพิ่มตำแหน่งงานเป็น 200-300 ตำแหน่งภายในปี 2569 ซึ่งภายใน 18 เดือนข้างหน้าได้ตั้งเป้าที่จะผลิตหุ่นยนต์ได้ 15,000 ตัว เป็นการเพิ่มกำลังการผลิตเป็นสองเท่าของปัจจุบัน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า