ปารีส – 10 ก.ค. 2567 - บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ประกาศเปิดตัว Galaxy Z ซีรีส์ใหม่ล่าสุดอย่าง Galaxy Z Fold6 และ Galaxy Z Flip6 พร้อมด้วย Galaxy Buds3 และ Galaxy Buds3 Pro ในงาน Galaxy Unpacked 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ชูจุดเด่นจากดีไซน์สมาร์ทโฟนพับได้และความยืดหยุ่นของ Galaxy Z เพื่อมอบประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ผสานพลังของ FlexWindow และการใช้งาน FlexMode สุดล้ำใน Galaxy Z Fold6 และ Flip6 พร้อมด้วยศักยภาพของซัมซุง Galaxy AI ที่จะขับเคลื่อนโลกยุคใหม่ในการสื่อสาร การทำงาน และความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด
ทีเอ็ม โรห์ ประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “จากประสบการณ์อันยาวนานด้านนวัตกรรมของซัมซุงผลักดันให้เราก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการสมาร์ทโฟน ทั้งการสร้างสรรค์นวัตกรรมหน้าสมาร์ทโฟนจอพับ และการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของ AI บนสมาร์ทโฟน วันนี้ซัมซุงกลับมาสร้างปรากฏการณ์พับครั้งใหม่อีกครั้งที่มาพร้อมกับการผสานพลังของเทคโนโลยี Galaxy AI เข้ากับหน้าจอพับได้ เพื่อปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ๆ และตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะให้กับผู้ใช้ทั่วโลก พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน"
ซัมซุงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สร้างสรรค์ให้เกิด Galaxy Z Series สมาร์ทโฟนจอพับที่บางและเบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยออกแบบมาให้พกพาสะดวก ด้วยดีไซน์สมมาตรที่สมบูรณ์แบบ พร้อมขอบตรงที่ให้ความโฉบเฉี่ยวสวยงาม โดยหน้าจอใหม่ของ Galaxy Z Fold6 จะมอบประสบการณ์การรับชมที่เป็นธรรมชาติ พร้อมการออกแบบที่ทนทานมากขึ้น ด้วยบานพับโครงสร้างรางพับคู่ที่ได้รับการพัฒนาให้แข็งแรงขึ้น ช่วยกระจายแรงกระแทกจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีชั้นเสริมบนหน้าจอหลักช่วยลดการเกิดรอยพับและเพิ่มความคงทนแข็งแรง
Galaxy Z รุ่นล่าสุดยังมาพร้อมกับ Armor Aluminum[i]
และ Corning® Gorilla® Glass
Victus® 2[ii] ทำให้ Galaxy
Z เป็นสมาร์ทโฟนพับได้ที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากจากนี้ทั้ง
Galaxy
Z Fold6 และ Flip6 ยังทรงประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยหน่วยประมวลโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัยที่สุดจาก Snapdragon® 8 Gen
3 Mobile Platform for Galaxy[iii] โปรเซสเซอร์มือถือ Snapdragon ที่ล้ำสมัยที่สุด ผสานศักยภาพของ CPU, GPU และ NPU
เข้าด้วยกัน เพื่อมอบสมรรถนะโดยรวมที่เหนือชั้น กับการอัปเกรดระบบระบายความร้อนด้วย
vapor
chamber ขนาดใหญ่ขึ้นใน Galaxy Z Fold6 อีกทั้งถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ vapor chamber ใน Galaxy
Z Flip อีกด้วย
Galaxy Z Fold6: ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานบนหน้าจอขนาดใหญ่ด้วย AI
Galaxy Z Fold6 มาพร้อมฟีเจอร์และเครื่องมือ AI ที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Note Assist[iv] ที่ช่วยแปล สรุป และจัดรูปแบบการจดบันทึกอัตโนมัติ หรือฟีเจอร์ PDF Overlay Translation ใน Notes[v] ที่แปลและแก้ไขข้อความในไฟล์ PDF นอกจากนี้ยังมี Composer[vi] ใหม่ จาก Samsung Keyboard ช่วยสร้างข้อความแนะนำสำหรับอีเมลและโซเชียลมีเดีย พร้อมมอบประสบการณ์การเขียนใหม่ด้วย S Pen[vii] และฟีเจอร์ Sketch to image[viii] ที่ช่วยสร้างงานศิลปะจากภาพสเก็ตช์หรือภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย
อัปเกรดทุกการทำงาน การเล่น และการรับข้อมูลข่าวสารไปอีกขั้น ด้วยความร่วมมือระหว่างซัมซุงและกูเกิล ผ่านแอปพลิเคชัน Google Gemini app[ix] ที่ล่าสุดได้เข้ามาผนวกอยู่บน Galaxy Z Series รุ่นใหม่ ช่วยในการวางแผนการเดินทาง ค้นหาข้อมูล จองโรงแรมหรือเที่ยวบินได้ง่ายๆ เพียงปัดที่มุมหน้าจอหรือพูดว่า "Hey Google" พร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ตอบทุกข้อสงสัย แม้แต่เรื่องศิลปิน K-pop บนมิวสิควิดีโอใน YouTube เพียงกดปุ่มโฮมค้างไว้แล้ววงกลม ไฮไลต์ หรือแตะบนหน้าจอ Circle to Search[x] จะแสดงผลการค้นหาทันที
Galaxy AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารแบบไร้อุปสรรคบน Galaxy Z Fold6 ด้วยการใช้ประโยชน์สูงสุดจากรูปแบบหน้าจอคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานพลังฟีเจอร์ Interpreter[xi] มาพร้อมโหมดสนทนาใหม่ ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถดูคำแปลบนหน้าจอหลักและจอด้านหน้าได้อย่างสะดวก รวมถึงฟีเจอร์ Live Translate[xii] ที่ช่วยแปลการพูดคุยทางโทรศัพท์ได้แบบเรียลไทม์ และขยายการใช้งานไปยังแอปพลิเคชันยอดนิยมอื่นๆ
พร้อมยกระดับการถ่ายภาพ การแก้ไข และการแสดงผลภาพด้วย
ProVisual Engine พร้อมสร้างคอนเทนต์แบบมืออาชีพด้วยฟีเจอร์ Photo Assist[xiii]และ Portrait Studio[xiv] ที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับภาพถ่าย
เช่น การ์ตูน 3 มิติ หรือสีน้ำ และฟีเจอร์
Instant Slow-mo[xv]
ที่ช่วยชะลอวิดีโอได้ง่าย
ๆ พร้อมเล่นเกมได้สนุกยิ่งขึ้นด้วยชิปเซ็ตที่ทรงพลัง และระบบระบายความร้อนด้วย vapor chamber ที่ใหญ่ขึ้น 1.6 เท่า ทำให้เล่นเกมได้นาน
มาพร้อมกราฟิกที่สมจริงและสดใสด้วยเทคโนโลยี Ray
Tracing บนหน้าจอขนาด 7.6 นิ้ว[xvi] ที่ให้ความสว่างสูงสุดถึง 2,600 nits
Galaxy Z Flip6: สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ปรับแต่งได้ตามใจ
มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED FlexWindow ขนาด 3.4 นิ้ว[xvii] เปลี่ยนการสื่อสารระหว่างเดินทางให้สะดวกขึ้น โดยสามารถตอบข้อความด้วย Suggested replies[xviii] ที่จะวิเคราะห์ข้อความล่าสุดเพื่อแนะนำการตอบกลับที่เหมาะสม ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะอยู่บน FlexWindow เพื่อช่วยให้เข้าถึงการอัปเดตและการแจ้งเตือนจาก Samsung Health[xix] รวมถึงเลือกเพลงถัดไปที่ต้องการฟังผ่าน Music widget ได้สะดวกขึ้น และมี widget ให้ใช้มากกว่าเคย พร้อมปรับแต่งอุปกรณ์และเปลี่ยนวอลเปเปอร์ได้แบบเรียลไทม์ตามเวลาและสภาพอากาศด้วย Photo Ambient[xx]
ความคิดสร้างสรรค์ยังขยายไปไกลกว่า FlexWindow ด้วย FlexCam ที่ยังคงมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่หลากหลายที่สุดและปลดล็อกตัวเลือกการสร้างสรรค์ใหม่ๆ ด้วยฟีเจอร์ Auto Zoom[xxi] ซึ่ง FlexCam จะค้นหาการจัดกรอบภาพที่ดีที่สุด โดยการตรวจจับวัตถุและการซูมเข้าและออกก่อนปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น
พร้อมปลดล็อกประสบการณ์การถ่ายภาพใหม่ ๆ ด้วยฟีเจอร์ Auto Zoom[xxii] ที่จะตรวจจับวัตถุและการซูมเข้า-ออกก่อนปรับเปลี่ยนกรอบภาพให้เหมาะสม และเซ็นเซอร์ใหม่ขนาด 50MP แบบ Wide และ 12MP แบบ Ultra-wide ที่ทำให้การถ่ายภาพคมชัดและการซูมถึง 10x พร้อมฟีเจอร์ Nightography และ Video HDR ที่พัฒนาขึ้นให้ถ่ายวิดีโอได้สวยแม้ในแสงน้อย และยังสามารถทำงานร่วมกับแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมได้ด้วย โดยฟีเจอร์ถ่ายภาพกลางคืนมีให้ใช้งานในแอป Instagram แล้ววันนี้ ซึ่งสามารถใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดของ Galaxy Z Flip6 ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ด้วยระยะเวลาใช้งานที่ยาวนานขึ้น[xxiii]
ความปลอดภัยที่ไว้วางใจและควบคุมได้ด้วยตัวเอง
Galaxy Z Fold6 I Z Flip6 ได้รับการรักษาความปลอดภัยโดย Samsung Knox แพลตฟอร์มความปลอดภัยระดับป้องกันภัยหลายชั้นที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญและป้องกันช่องโหว่ ด้วยการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์และการเข้ารหัสข้อมูลแบบ end-to-end ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการอนุญาตใช้ข้อมูลกับ AI ได้อย่างเต็มที่ผ่านการตั้งค่า Galaxy AI[xxiv] พร้อมเพิ่ม Enhanced Data Protection สำหรับการสำรองข้อมูลและซิงค์กับ Samsung Cloud โดย Galaxy Z ใหม่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ครอบคลุม เช่น Knox Vault, Security & Privacy Dashboard, Auto Blocker, passkeys, Secure Wi-Fi และการแชร์แบบส่วนตัวใน Quick Share
Galaxy Z ซีรีส์ล่าสุด ตอกย้ำความมุ่งมั่นของซัมซุงในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าสำหรับผู้คนและโลกใบนี้ โดยเดินหน้ายกระดับและเพิ่มการใช้วัสดุรีไซเคิลใน Galaxy Z Fold6 และ Z Flip6 [xxv] เริ่มต้นจากการใช้ทองและทองแดงรีไซเคิลเป็นครั้งแรก[xxvi] รวมถึงใช้แร่ธาตุรีไซเคิล เช่น โคบอลต์และแร่ธาตุหายาก[xxvii] ในส่วนประกอบต่างๆ ของ Galaxy Z Fold6 และ Z Flip6 ควบคู่ไปกับการใช้พลาสติก อะลูมิเนียม และกระจกรีไซเคิล นอกจากนี้ Galaxy Z Fold6 และ Z Flip6 ยังมาพร้อมกับกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษรีไซเคิล 100% พร้อมมอบการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ 7 รุ่น และการอัปเดตความปลอดภัยเป็นเวลา 7 ปี[xxviii]
Galaxy
Buds3 Series: ขยายประสบการณ์การเชื่อมต่อผ่าน
Galaxy AI
Galaxy Buds3 Series นำเสนอประสบการณ์การสื่อสารใหม่ด้วย Galaxy AI โดยสามารถแปลการบรรยายในชั้นเรียนภาษาต่างประเทศแบบเรียลไทม์ได้ผ่านโหมด Interpreter[xxix] บน Galaxy Z Fold6 หรือ Flip6 และควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ด้วย Voice Command[xxx] โดยไม่ต้องสัมผัสอุปกรณ์ และคุณภาพเสียงจะถูกปรับให้เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน Adaptive EQ และ Adaptive ANC พร้อมฟีเจอร์ Adaptive Noise Control, Siren Detect, และ Voice Detect[xxxi] เพื่อตัดเสียงรบกวนและอำนวยความสะดวกสบายสูงสุด
Galaxy Buds3 Series ถูกออกแบบด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อความสบายและดีไซน์ทันสมัยแบบใบมีด พร้อมไฟ Blade Lights[xxxii] ที่โดดเด่น โดยเปิดตัวสองรูปแบบคือ Galaxy Buds3 Pro แบบ Canal Type สำหรับประสบการณ์เสียงเสมือนจริง และ Buds3 แบบ Open Type สำหรับการใช้งานระยะนาน ๆ โดย Buds3 Pro จะมาพร้อมลำโพง 2 ทิศทางและทวีตเตอร์แบบ planar ให้เสียงที่แม่นยำ พร้อม Dual Amplifiers และ Ultra High Quality[xxxiii] Audio ที่รองรับ SSC codec เพื่อการฟังเสียงความละเอียดสูงและการโทรที่ชัดเจน พร้อม Super-Wideband[xxxiv] ให้ประสบการณ์การโทรที่สมบูรณ์แบบอย่างเป็นธรรมชาติ รวมทั้งยังมีการใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างพลาสติกจากแหอวนหรือถังน้ำที่ถูกทิ้งในส่วนประกอบของตัวเคสและหูฟัง และใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษรีไซเคิล 100%
การจำหน่าย
Galaxy Z Fold6, Z Flip6 และ Galaxy Buds3 Series พร้อมเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม และจะวางจำหน่ายทั่วไปในวันที่ 24 กรกฎาคมเป็นต้นไป โดย Galaxy Z Fold6 มีสีให้เลือก ได้แก่ Silver Shadow, Pink และ Navy ส่วน Galaxy Z Flip6 มีสีให้เลือก ได้แก Silver Shadow, Yellow, Blue และ Mint[xxxv] หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่เว็บไซต์ Samsung.com เพื่อจับจองเป็นเจ้าของสีพิเศษเฉพาะของซีรีส์ Galaxy Z ได้แก่ สีพิเศษของ Galaxy Z Flip6: Crafted Black, White, Peach และสีพิเศษของ Galaxy Z Fold6: Crafted Black, White โดยราคาเริ่มต้นของ Galaxy Z Flip6 ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท ความจุ 512GB ราคา 47,900 บาท และ Galaxy Z Fold6 ความจุ 256GB ราคา 63,900 บาท, ความจุ 512GB ราคา 68,900 บาท และความจุ 1TB ราคา 78,900 บาท
ส่วนซีรีส์ Galaxy Buds3 Series มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย บางเฉียบ และสวมใส่สบาย มีให้เลือกสองสี ได้แก่ Silver และ White[xxxvi] นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความอุ่นใจทุกการใช้งาน Samsung Care+[xxxvii] ให้การคุ้มครองผลิตภัณฑ์ด้วยการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญของซัมซุง โดยจะดูแลความเสียหายจากอุบัติเหตุฟรี 1 ปี สำหรับการสั่งจองล่วงหน้า ราคา Galaxy Buds3 Pro ราคา 7,490 บาท และ ราคา Galaxy Buds3 ราคา 5,490 บาท
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Galaxy Z Fold6, Z Flip6, Galaxy Buds3 และ Buds3 Pro สามารถติดตามได้ที่: Samsung Newsroom, Samsungmobilepress.com และ Samsung.com
[i] Armor Aluminum ที่พัฒนาใหม่ถูกใช้ในกรอบและบานพับของอุปกรณ์
แต่ไม่ใช้ทำปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มข้าง
[ii] กระจก Corning®
Gorilla® Glass Victus®2 ถูกนำมาใช้ในด้านหน้าและด้านหลังของอุปกรณ์
[iii] Snapdragon เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการลงทะเบียนของ Qualcomm
Incorporated ผลิตภัณฑ์ที่มีตรา Snapdragon คือผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm
Technologies, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือ
[iv] คุณสมบัติสำหรับ Note
Assist ต้องใช้การเชื่อมต่อเครือข่ายและเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Samsung Account บริการอาจไม่พร้อมใช้งานทุกภาษาตามที่มีอยู่ ฟีเจอร์การบันทึกเสียงในแอป Samsung Notes อาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางประเทศ
ฟีเจอร์การสรุปจะถูกเปิดใช้เมื่อจำนวนตัวอักษรที่กำหนดถูกตรงตามกฎขีดจำกัด
และไฟล์เสียงต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงเพื่อให้สามารถประมวลผลได้
ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่ได้รับการรับรอง
[v] Overlay translation ไม่รองรับสำหรับไฟล์
PDF ที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยรหัสผ่าน
[vi] Composer ต้องการการเชื่อมต่อเครือข่ายและการเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung บริการอาจมีให้บริการตามภาษาแต่ละภาษา ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่สามารถรับรองได้
[vii] ปากา S Pen ขายแยกจากตัวเครื่อง
[viii] การแปลเส้นต่าง ๆ เป็นภาพ ต้องการการเชื่อมต่อเครือข่ายและการเข้าสู่ระบบบัญชี
Samsung
การแก้ไขด้วยการแปลงเส้นเป็นภาพอาจทำให้รูปถูกปรับขนาดได้สูงสุดถึง
12MP ตัวตราลายน้ำที่มองเห็นได้จะถูกวางบนภาพเมื่อบันทึกเพื่อแสดงว่าภาพถูกสร้างขึ้นโดย
AI ความแม่นยำและความเชื่อถือได้ของผลลัพธ์ที่สร้างขึ้นไม่สามารถรับรองได้
[ix] แอป Google
Gemini ต้องการเข้าสู่ระบบบัญชี Google ฟังก์ชันการทำงานอาจขึ้นอยู่กับการตั้งค่าแอปและอุปกรณ์
บางฟังก์ชันอาจไม่สามารถใช้งานได้กับแอปบางชนิด
ความพร้อมใช้งานของบริการอาจแตกต่างตามประเทศ ภาษา และรุ่นอุปกรณ์
ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่สามารถรับรองได้
[x] การจำลองและลดลงแบบลำดับ ผลลัพธ์เพื่อวัตถุประสงค์การอธิบายเท่านั้น
ผลการทดสอบอาจแตกต่างไปตามการจับคู่ทางด้านสามมิติ ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ผู้ใช้อาจต้องอัปเดต Android
เป็นเวอร์ชันล่าสุด
ฟังก์ชันการทำงานของผลิตภัณฑ์อาจขึ้นอยู่กับการตั้งค่าแอปและอุปกรณ์ของคุณ
บางฟังก์ชันอาจไม่สามารถใช้งานได้กับแอปบางชนิด
ความพร้อมใช้งานของบริการอาจแตกต่างตามประเทศและภาษา
ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่สามารถรับรองได้ Circle to Search ไม่สามารถใช้งานผ่าน FlexWindow
[xi] Interpreter ต้องการการเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung บางภาษาอาจต้องการการดาวน์โหลดแพ็คภาษาบางประการ
ความพร้อมใช้งานของบริการอาจแตกต่างไปตามภาษา
ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่สามารถรับรองได้
ความพร้อมใช้งานและคุณลักษณะที่รองรับอาจแตกต่างกันตามประเทศ ภูมิภาค
หรือผู้ให้บริการ ความพร้อมใช้งานของภาษาที่รองรับอาจแตกต่างไป
[xii] Live Translate ต้องการการเชื่อมต่อเครือข่ายและการเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung Live
Translate มีอยู่เฉพาะในแอปโทรศัพท์ Samsung ที่ติดตั้งล่วงหน้าและบางแอปภายนอก การทำงานอาจแตกต่างไปตามภูมิภาค
บางภาษาอาจต้องการการดาวน์โหลดแพ็คภาษา
ความพร้อมใช้งานของบริการอาจแตกต่างไปตามภาษา
ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่สามารถรับรองได้
[xiii] ข้อดีเหล่านี้สำหรับการช่วยเหลือในการถ่ายภาพต้องการการเชื่อมต่อเครือข่ายและการเข้าสู่ระบบบัญชี
Samsung การแก้ไขจะทำให้ผลลัพธ์ภาพมีการเปลี่ยนขนาดได้สูงสุดถึง
12MP บนภาพเอาต์พุตจะมีลายน้ำที่มองเห็นได้เพื่อระบุว่าภาพถูกสร้างขึ้นโดย
AI ความแม่นยำและความเชื่อถือของผลลัพธ์ที่สร้างขึ้นนั้นไม่สามารถรับรองได้
[xiv] ฟีเจอร์ Portrait Studio ต้องการการเชื่อมต่อเครือข่ายและการเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung รองรับไฟล์ JPG,
HEIC (HEIF), BMP และ PNG
พื้นหลังต้องไม่ใช่โปร่งใส การแก้ไขด้วย Generative Portrait
จะทำให้ภาพถ่ายเปลี่ยนขนาดได้สูงสุดถึง 12MP ลายน้ำที่มองเห็นได้จะถูกวางบนภาพเอาต์พุตเพื่อระบุว่าภาพถูกสร้างขึ้นโดย AI ความแม่นยำและความเชื่อถือของผลลัพธ์ที่สร้างขึ้นนั้นไม่สามารถรับรองได้
[xv] ฟีเจอร์ Instant Slow-mo พร้อมใช้งานบน Samsung
Video Player และ Samsung Gallery อาจไม่สามารถใช้งานได้บนประเภทไฟล์วิดีโอบางประเภท
ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่ได้รับการรับรอง
[xvi] วัดแบบเส้นทแยงมุม ขนาดหน้าจอหลักของ Galaxy Z Flip6 คือ 6.7
นิ้วในรูปสี่เหลี่ยมเต็มและ 6.6 นิ้วเมื่อคำนึงถึงมุมโค้ง; พื้นที่ที่เห็นจริงจะน้อยลงเนื่องจากมุมโค้งและรูกล้อง
[xvii] วัดแบบเส้นทแยงมุม หน้าจอปกของ Galaxy Z Flip6 คือ 3.4
นิ้วในรูปสี่เหลี่ยมเต็ม; พื้นที่ที่เห็นจริงประมาณ 95% ของพื้นที่สี่เหลี่ยมเต็มเนื่องจากมุมโค้งและการตัดเป็นรูที่ต่ำลง
Galaxy
Z Flip6's Cover มีเซนเซอร์ระยะห่างและรองรับ HBM หน้าจอปกของ Galaxy
Z Flip6 มีความสว่างสูงสุดที่ 1,600 นิตส์เพื่อการแสดงผลที่สว่างและชัดเจน
[xviii] ฟีเจอร์ Suggested
Replies สำหรับ Chat Assist ต้องการการเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อรับข้อความ
มันสามารถแนะนำการตอบกลับได้ทั้งหมดด้วยหรือไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่ายเมื่อข้อความถูกรับโดยอุปกรณ์
ต้องมีการเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung
การให้บริการเฉพาะจาก FlexWindow ของ Galaxy
Z Flip6 เท่านั้น การให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามภาษาและแอปพลิเคชัน
ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่ได้รับการรับรอง โดยปัจจุบันยังไม่รองรับภาษาไทย
[xix] Samsung Health ต้องการการเชื่อมต่อเครือข่ายและการเข้าสู่ระบบ Samsung Health. ความพร้อมใช้งานของ Samsung
Health อาจแตกต่างกันไปตามประเทศที่ใช้งาน.
รายการที่รองรับอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ
[xx] Photo Ambient ต้องการการเชื่อมต่อเครือข่ายและการเข้าสู่ระบบ Samsung Account การสะท้อนของสภาพอากาศแบบเรียลไทม์อาจมีการล่าช้าเนื่องจากบริการขึ้นอยู่กับการอัปเดตข้อมูลสภาพอากาศในท้องถิ่น
โดยภาพบางภาพในระหว่างที่อยู่ในร่มและตอนกลางคืน
และภาพที่ความละเอียดต่ำอาจไม่สามารถใช้งานได้
ความแม่นยำและความเชื่อถือในผลลัพธ์ที่สร้างขึ้นไม่ได้รับการรับประกัน
บริการใช้งานได้ในปัจจุบันเฉพาะบน Galaxy S24 Series, Z Flip6 และ Fold6
[xxi] Auto Zoom จะมีข้อจำกัดในสภาพแสงน้อย โหมด Auto Zoom จะปิดการทำงานหากมีการปรับซูมด้วยมือหรือถ้าเปลี่ยนระหว่างกล้องด้านหน้าและด้านหลัง
[xxii] Auto Zoom จะมีข้อจำกัดในสภาพแสงน้อย โหมด Auto Zoom จะปิดการทำงานหากมีการปรับซูมด้วยมือหรือถ้าเปลี่ยนระหว่างกล้องด้านหน้าและด้านหลัง
[xxiii] อายุแบตเตอรี่จริงของเครือข่ายต่างๆ มีความแตกต่างตามสภาพแวดล้อมของเครือข่าย, คุณสมบัติและแอปที่ใช้งาน, ความถี่ของการโทรและข้อความ, จำนวนการชาร์จและปัจจัยอื่น ๆ อีกมาก
[xxiv] ต้องมีการเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung Account ไว้ใช้งาน
การตั้งค่า Galaxy
AI ที่ป้องกันการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์จะจำกัดฟังก์ชันบางอย่างของ
AI แม้จะมีการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์หรือไม่ก็ตาม, Samsung จะไม่บันทึกข้อมูลข้อมูลนำเข้าหรือผลลัพธ์ของผู้ใช้
25 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัสดุที่มีการรีไซเคิลในซีรีส์
Galaxy Z ล่าสุดและอุปกรณ์ Galaxy อื่นๆ
โปรดตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนเว็บไซต์ Samsung Sustrainability website
26
สายผูกทองคำในโมดูลกล้องบางส่วนของ Galaxy Z Fold6 และ Flip6
ทำจากทองคำที่มีการรีไซเคิล 100% ที่มาจากอี-เวสต์และชิปทองคำที่เก็บเอาไว้ นอกจากนี้ ฟอยล์ทองและ FPCB บางส่วนของแผงวงจรหลักออกแบบด้วยทองแดงที่มีการรีไซเคิล 100% ที่มาจากเส้นทองและชิปทองแดงที่ถูกทิ้งไว้ การวัดของข้างต้นนี้เป็นการวัดจากน้ำหนัก
27 Neodymium (นีโอดิเมียม)
[xxviii] Galaxy Z Fold6 และ Flip6
จะได้รับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการให้ใช้งานได้ถึงเจนเนอเรชันที่เจ็ดและการอัปเดตความปลอดภัยในเวลาเจ็ดปี
ตั้งแต่วันเปิดตัวทั่วโลก
[xxix] ขณะที่ใช้งาน Buds
และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy เท่านั้นที่สามารถใช้งานการแปลเสียงได้ คุณสมบัติ Interpreter ไม่ได้มาจาก Buds
เอง หาก Buds ไม่พร้อมใช้งาน
ข้อมูลที่ถูกแปลจะแสดงบนหน้าจอของสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ของคุณ บางภาษาอาจต้องการการดาวน์โหลดแพ็กภาษา
เป็นไปได้ที่การให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามภาษา ประเทศ ภูมิภาค
หรือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy อาจต้องการการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดเพื่อรองรับคุณสมบัติ
Galaxy
AI อย่างเหมาะสม
[xxx] การตั้งค่าภาษาจะเป็นไปตามการตั้งค่าภาษาของระบบ
ตัวเมนูคำสั่งเสียงจะปรากฏเมื่อมีแพ็กภาษาเดียวกันกับภาษาของระบบ
ภาษาที่รองรับในเวลาที่เปิดตัวรวมถึง ภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษของสหรัฐ
และภาษาที่รองรับจะถูกขยายต่อไป
[xxxi] ฟีเจอร์ Adaptive
Noise Control, Voice Detect และ Siren Detect มีเฉพาะใน Samsung
Galaxy Buds3 Pro เท่านั้น โดยฟีเจอร์ Adaptive Noise Control, Voice Detect และ Siren
Detect จะถูกปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น
[xxxii] ไฟ Blade
Lights จะมีเฉพาะใน Samsung Galaxy Buds3 Pro เท่านั้น
[xxxiii] เสียงคุณภาพสูงระดับ Ultra-high
quality สูงสุดถึง 24bit/96kHz มีให้ใช้งานบน Galaxy S24 series,
S23 series, Z Fold6, Z Flip6, Z Fold5, Z Flip5 และ Tab
S9 series ที่ใช้ One UI 6.1.1 ขึ้นไป
ฟีเจอร์เสียงคุณภาพสูงระดับนี้มีให้ใช้งานเฉพาะบนอุปกรณ์ Samsung Galaxy บางรุ่นในขณะนี้ อุปกรณ์เพิ่มเติมอาจได้รับการสนับสนุนในอนาคต
[xxxiv] ฟีเจอร์การโทรแบบ Super-Wideband ช่วยให้ Buds สามารถส่งผ่านเสียงได้สูงถึง 16 กิโลเฮิรตซ์
ในขณะที่หูฟังบลูทูธรุ่นก่อนหน้านี้สามารถส่งผ่านได้เพียงแค่ช่วงความถี่ 8 กิโลเฮิรตซ์เท่านั้น
[xxxv] การจำหน่ายซีรีส์ Galaxy
Z สีต่างๆ อาจแตกต่างกันไปตามตลาด
ภูมิภาค หรือผู้ให้บริการเครือข่าย
[xxxvi] การจำหน่ายซีรีส์ Galaxy
Buds3 series สีต่างๆ อาจแตกต่างกันไปตามตลาด
ภูมิภาค หรือผู้ให้บริการเครือข่าย.
[xxxvii] ข้อกำหนดและเงื่อนไขมีผลบังคับใช้การคุ้มครอง Samsung Care+ ของประเภทของบริการและรายละเอียดโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ/ภูมิภาค และอาจมีค่าหักลดหย่อน (ค่าบริการ) เพื่อให้มีสิทธิ์รับประโยชน์จากโปรโมชั่น Samsung Care+ อาจต้องมีการลงทะเบียน สำหรับข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ Samsung Care+ สามารถติดตามได้ที่ https://www.samsung.com/samsung-care-plus/
Galaxy Watch Ultra และ Galaxy Watch7 เปิดตัวเพื่อประสบการณ์ด้านสุขภาพอัจฉริยะ ทำให้สุขภาพในชีวิตประจำวันดียิ่งขึ้น
Galaxy Watch Ultra[1] และ Galaxy Watch7 ที่จะเสริมสร้างพลังแห่ง AI ของ Galaxy ให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพที่ครอบคลุมสำหรับทุกคน โดยผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้เป็นการแสดงออกถึงวิสัยทัศน์ของ Samsung สำหรับ AI ของ Galaxy ที่จะยกระดับสุขภาพด้วยข้อมูลดิจิทัล มอบข้อมูลเชิงลึกที่เป็นส่วนตัวและประสบการณ์ด้านสุขภาพที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองได้มากขึ้นผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การได้รับข้อมูลที่แม่นยำ ละเอียด และล้ำหน้าเกี่ยวกับสุขภาพส่วนบุคคลเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการนี้ และนวัตกรรมเซนเซอร์ใน Galaxy Watch Ultra และ Galaxy Watch7 กำลังช่วยให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริงขึ้นมา Galaxy Watch Ultra ซึ่งเป็น smart watch รุ่นใหม่ล่าสุดในสายผลิตภัณฑ์ Galaxy Watch ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถทำสิ่งที่แตกต่างอย่างยอดเยี่ยม Galaxy Watch7 จะช่วยให้คุณกำหนดการออกกำลังกายที่เหมาะสมที่สุด และความสามารถในการเฝ้าระวังสุขภาพเชิงป้องกันอย่างชาญฉลาดของ
Galaxy Watch Ultra: เพิ่มประสิทธิภาพให้กับความหลงใหลอย่างเต็มเปี่ยม
หลังจากต่อยอดจากฟีเจอร์การตรวจสอบสุขภาพขั้นสูงและฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังของ
Galaxy
Watch Ultra และ Galaxy Watch7 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใหม่และทรงพลังที่สุดใน Galaxy Watch ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การออกกำลังกายที่ล้ำหน้าขึ้นไปอีกขั้น
เพื่อความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้น ผ่านความอัจฉริยะและความสามารถที่ยอดเยี่ยม การดีไซน์วงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy Watch พร้อมการออกแบบใหม่แบบ cushion นี้จะช่วยเพิ่มการป้องกันและความการมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
ในขณะที่ระบบ Dynamic Lug System จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายที่จะช่วยให้คุณเป็นอย่างที่คิดได้ดั่งใจ
คุณสมบัติระดับพรีเมียมที่สร้างขึ้นเพื่อความทนทานสูงสุดช่วยให้คุณมุ่งไปเกินขีดจำกัดและไปได้ไกลขึ้นด้วยกรอบเรือนแบบ Titanium Grade 4[2] และความสามารถกันน้ำระดับ 10ATM[3] นอกจากนี้ Galaxy Watch Ultra ยังทำงานได้ในช่วงความสูงที่หลากหลาย ตั้งแต่ 500 เมตรใต้ระดับน้ำทะเลไปจนถึง 9,000 เมตร อีกทั้ง Galaxy Watch Ultra มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Galaxy Watch โดยสามารถใช้งานได้สูงสุด 100 ชั่วโมงในโหมด Power Saving[4] และ 48 ชั่วโมงในโหมด Exercise Power Saving[5] เพื่อการติดตามประสบการณ์การออกกำลังกายขั้นสูง เช่น การว่ายน้ำในทะเลไปจนถึงการปั่นจักรยานแบบผาดโผน[6]
ช่วยให้สามารถติดตามผลการออกกำลังกายแบบไตรกีฬา ตั้งแต่ว่ายน้ำ ปั่นจักรยานไปจนถึงวิ่ง ด้วยแผ่นไทล์ Multi-sports แบบใหม่ นอกจากนี้ยังมีการวัดพลังงานการปั่นจักรยาน Functional Threshold Power (FTP) ใหม่ ซึ่งใช้เวลาเพียง 4 นาทีในการวัดพลังการปั่นจักรยานสูงสุดด้วย AI-powered FTP metrics[7] เพื่อปลดล็อกศักยภาพสูงสุด Galaxy Watch Ultra ยังมี Personalized HR Zone แบบขั้นสูง[8] เพื่อให้คุณออกกำลังกายที่ระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมตามความสามารถทางกายภาพของคุณ
ปุ่ม Quick Button ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นี้จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มและควบคุมการออกกำลังกายได้ทันที และกำหนดฟังก์ชันอื่น ๆ ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้งาน Emergency Siren [9] เพื่อความปลอดภัย สำหรับช่วงหลังการออกกำลังกาย คุณสามารถตรวจสอบสถิติได้ทันทีด้วยหน้าปัดนาฬิกาที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ Galaxy Watch Ultra ซึ่งจะสลับไปที่โหมดกลางคืน[10] โดยอัตโนมัติ เพื่อการอ่านที่เหมาะสมในที่มืด นอกจากนี้ ด้วยความสว่างสูงสุด 3,000 nits Galaxy Watch Ultra ยังให้การอ่านที่ชัดเจนแม้ในแสงแดดจ้า
Galaxy Watch Ultra[11] ขนาด 47 มม. ในสี Titanium Gray, Titanium White และ Titanium Silver
Galaxy Watch Ultra และ Galaxy Watch7 เป็น Smart Watch ระบบปฏิบัติการ Android รุ่นแรกที่ใช้ Wear OS 5 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติที่ทรงพลังที่สุดในขณะนี้ โดยให้ประสิทธิภาพและความสามารถที่ดีขึ้น Wear OS 5 ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน Galaxy Watch ได้อย่างราบรื่นและยาวนานยิ่งขึ้น คุณยังสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันยอดนิยมหลากหลายแอปได้จากข้อมือของคุณ รวมถึงบริการ Galaxy, แอป Google และแอปอื่นๆที่คุณชื่นชอบ
Galaxy Watch7: ความเข้าใจเรื่องสุขภาพที่ดีในชีวิตประจำวัน
Galaxy Watch7[12] ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองได้อย่างครอบคลุม Galaxy Watch7 ช่วยสร้างวันที่สุขภาพดีขึ้นด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีในชีวิตประจำวัน คุณสามารถติดตามการออกกำลังกายมากกว่า 100 แบบได้อย่างแม่นยำ และสร้างกิจวัตรด้วยการผสมผสานการออกกำลังกายต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายของคุณ และด้วยฟีเจอร์ Race[13] คุณสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพในปัจจุบันกับในอดีตแบบเรียลไทม์เพื่อติดตามความก้าวหน้าและรักษาแรงจูงใจไว้ได้ รับภาพรวมของร่างกายและความฟิตด้วย Body Composition[14] เพื่อความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับร่างกายของคุณ
นอกจากอัลกอริธึม AI ที่ล้ำหน้าแบบใหม่สำหรับการวิเคราะห์การนอนหลับ Galaxy Watch7 ยังเข้าใจการทำงานของหัวใจของคุณให้ลึกขึ้นด้วยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)[15] และการตรวจวัดความดันโลหิต (BP)[16]
การติดตามที่ล้ำหน้าและข้อมูลเชิงลึกที่ปรับให้เหมาะสมเหล่านี้เป็นไปได้ด้วยฮาร์ดแวร์ที่นวัตกรรมมากที่สุดของซัมซุงใน Galaxy Watch7 เซ็นเซอร์ BioActive ที่ปรับปรุงใหม่ให้ความแม่นยำที่เพิ่มขึ้น[17] ช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้นด้วยการอ่านค่าที่แม่นยำต่างๆ
ทั้งนี้ ยังมีการติดตั้งชิปที่ทรงพลังที่สุดใน Galaxy Watch และเป็นครั้งแรกที่มีโปรเซสเซอร์ 3nm Galaxy Watch7 มอบประสบการณ์การสวมใส่ที่ไร้รอยต่อยิ่งขึ้นด้วย CPU ที่เร็วขึ้นสามเท่า[18] และประสิทธิภาพการใช้พลังงานของโปรเซสเซอร์แอปพลิเคชันที่ดีขึ้น 30%[19] นอกจากนี้ Galaxy Watch7 ยังเป็นสมาร์ทวอทช์ Galaxy รุ่นแรกที่มี Dual-frequency GPS system[20] ซึ่งสามารถติดตามตำแหน่งได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น[21] แม้ในสภาพแวดล้อมเมืองที่หนาแน่นและแออัดก็ตาม
ด้วยดีไซน์วงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy Watch7 จะช่วยเสริมลุคคุณให้ดูดีขึ้นด้วยสายนาฬิกาแบบใหม่[22] รวมถึงการออกแบบรูปทรงแบบคลื่นและรายละเอียดการเย็บที่มีสีสัน พร้อมกับหน้าปัดนาฬิกาหลากหลายแบบ Galaxy Watch7 ยังมอบประสบการณ์ที่ใช้งานง่ายและไร้รอยต่อยิ่งขึ้นระหว่างอุปกรณ์ Galaxy ที่เชื่อมต่อกัน ตอบข้อความได้อย่างง่ายดายด้วย Suggested replies[23] ซึ่งจะแนะนำการตอบกลับที่เหมาะสมโดยการวิเคราะห์การสนทนาก่อนหน้านี้ผ่าน Galaxy AI ด้วย Double Pinch Gestures[24] คุณสามารถควบคุม Galaxy Watch และสมาร์ทโฟน Galaxy ที่เชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายแม้มือของคุณจะไม่ว่าง และเพียงใช้ Samsung Wallet ก็ช่วยให้การชำระเงินจนถึง Digital IDs ในทุกๆวันสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Galaxy Watch7 จะมีสองขนาด คือ 40 มม. และ 44 มม. Galaxy Watch7 ขนาด 40 มม. มีสีเขียวและสีครีม ในขณะที่ Galaxy Watch7 44 มม. จะมีสีเขียว
การสั่งจองล่วงหน้า[25]
Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra จะพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม พร้อมโปรโมชัน ลด 15% บนช่องทางออนไลน์ Samsung.com, Lazada, Shopee Official Store จนถึงวันที่ 23 กรกฎาคม และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ราคาเปิดตัวอย่างทางการสำหรับ Galaxy Watch Ultra ราคา 23,900 บาท, Galaxy Watch7 ขนาด 44mm ราคา 12,900 บาท และ ขนาด 40mm ราคา 10,900 บาท
[1] ความพร้อมใช้งานอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตลาด รุ่น และสมาร์ทโฟนที่จับคู่ ฟังก์ชัน ฟีเจอร์ ข้อมูลจำเพาะ และข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมดที่มีในเอกสารนี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงประโยชน์ การออกแบบ ราคา ส่วนประกอบ ประสิทธิภาพ ความพร้อมใช้งาน และความสามารถของผลิตภัณฑ์ อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[2] Grade 4 Titanium ใช้กับพื้นที่หน้าจอและด้านหลังของกรอบโลหะเท่านั้น
ไม่นับรวมหน้าจอและปุ่มกายภาพ ส่วนที่เหลือของกรอบเป็นพลาสติกและ Grade 2 Titanium
[3] Galaxy Watch
Ultra กันน้ำที่ความลึก 100 เมตรเป็นเวลา 10 นาทีตามมาตรฐาน ISO22810 โดยมีการทดสอบในน้ำที่มีความเค็ม 5% และน้ำคลอรีน 4ppm
[4] ใน Power Saving mode ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น การเชื่อมต่อ Wi-Fi, ท่าทางการปลุก และอื่น ๆ อาจไม่สามารถเข้าถึงได้
รวมถึงอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับความเร็วของ CPU, พื้นหลัง และตำแหน่ง
[5] ใน Exercise Power Saving mode, ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น การเชื่อมต่อเครือข่าย/Bluetooth, การควบคุม IoT และอื่น ๆ อาจไม่สามารถเข้าถึงมีให้เฉพาะใน Galaxy
Watch Ultra
[6] Galaxy
Watch Ultra ทนทานต่ออุณหภูมิที่ -20°C
ถึง 55°C ขณะสวมใส่ตามผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ Samsung
ประสิทธิภาพจริงอาจแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน
ในอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำมาก การชาร์จอาจถูกหยุดชะงัก
ฟังก์ชันบางอย่างอาจหยุดทำงานหรือไม่สามารถใช้งานได้
หรืออาจปิดตัวเองโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้
ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่สามารถลดลงในอุณหภูมิที่ต่ำลง
[7] การวัด FTP แบบส่วนบุคคลต้องเชื่อมต่อ Galaxy
Smartphone เพื่อคำนวณ FTP ที่แม่นยำยิ่งขึ้น จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Galaxy
Watch กับสมาร์ทโฟน FTP จะคำนวณโดยอัตโนมัติเมื่อปั่นจักรยานที่ระดับความเข้มข้นปานกลางถึงสูงเป็นเวลา
4 นาทีขึ้นไปโดยมีพาวเวอร์มิเตอร์ติดอยู่กับจักรยานของคุณ
การวิเคราะห์ FTP ด้วยเครื่องมือมืออาชีพแบบดั้งเดิมใช้เวลานานถึง
1 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย
[8] การปรับ Heart Rate Zone จะเปิดใช้งานเมื่อเลือกกิจกรรมการวิ่งกลางแจ้ง
และต้องวิ่งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 นาทีขึ้นไปที่ความเร็ว 4 กม./ชม. หรือเร็วกว่า
[9]
Emergency Siren ส่งเสียงได้ถึง 86 เดซิเบล และได้ยินได้สูงสุด 180 เมตร ความดังและระยะของเสียงอาจแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม
ระยะเวลาที่สามารถเปิดเสียงอาจแตกต่างกันไปตามอายุการใช้งานแบตเตอรี่
[10] Night Mode ใช้ได้เฉพาะกับบางหน้าปัด
[11] เฉพาะรุ่น LTE เท่านั้
[12] สมาร์ทโฟนที่เข้ากันได้และฟีเจอร์ที่มีอาจแตกต่างกันไปตามประเทศหรือภูมิภาค
ผู้ให้บริการ หรืออุปกรณ์
[13] ฟีเจอร์ Race ใช้ได้เฉพาะสำหรับการวิ่งและการปั่นจักรยานกลางแจ้งเท่านั้น
สำหรับการวัดเปรียบเทียบ
จำเป็นต้องวิ่งบนเส้นทางเดียวกับเส้นทางที่สร้างไว้ล่วงหน้า
ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบโดยการเลือกหนึ่งในบันทึกจากช่วงเวลาก่อนหน้าสูงสุด 14 วัน การเปรียบเทียบบันทึกผ่าน Race
สามารถใช้ได้เฉพาะเมื่อเริ่มต้นที่ตำแหน่งเดียวกับจุดเริ่มต้นของบันทึกก่อนหน้าเท่านั้น
จะเปลี่ยนเป็นโหมดวิ่งโดยอัตโนมัติหากเบี่ยงเบนจากเส้นทางก่อนหน้ามากกว่า 10% .
[14]
Body Composition รองรับเฉพาะใน Samsung Galaxy
Watch4 series และรุ่นต่อมาเท่านั้น Body
Composition ไม่ควรใช้หากคุณใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์แบบฝังอื่น
ๆ หรือหากคุณกำลังตั้งครรภ์
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่เข้าถึงได้ผ่านอุปกรณ์และแอปพลิเคชันไม่ควรถือว่าเป็นคำแนะนำทางการแพทย์
ผลการวัดอาจไม่ถูกต้องหากคุณอายุต่ำกว่า 20 ปี การวัดเป็นเพียงการอ้างอิงส่วนตัวของคุณเท่านั้น
โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
[15] ฟีเจอร์ ECG มีให้บริการเฉพาะในบางตลาดเท่านั้น
ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนวิธีการวินิจฉัยหรือการรักษาแบบดั้งเดิม
ฟีเจอร์นี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์สำหรับผู้ใช้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ทราบนอกจาก
AFib ผู้ใช้ไม่ควรแปลความหมายหรือดำเนินการทางคลินิกตามผลลัพธ์ของอุปกรณ์โดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
[16] ฟีเจอร์การวัดความดันโลหิตมีให้บริการเฉพาะในบางตลาดเท่านั้น
เพื่อให้แน่ใจว่ามีความแม่นยำสูงสุด
ผู้ใช้ควรสอบเทียบอุปกรณ์ทุกสี่สัปดาห์ด้วยเครื่องวัดความดันโลหิตแบบดั้งเดิม
ฟีเจอร์การวัดความดันโลหิตไม่สามารถวินิจฉัยความดันโลหิตสูง ภาวะอื่น ๆ
หรือสัญญาณของอาการหัวใจวาย
รวมถึงไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนวิธีการวินิจฉัยหรือการรักษาแบบดั้งเดิมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
[17] เปรียบเทียบกับซีรีส์ Galaxy Watch รุ่นก่อนหน้า
[18] เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้า
[19] เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้า
[20] ความแม่นยำของ GPS อาจแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมของเครือข่ายและปัจจัยอื่น ๆ
ฟังก์ชัน GPS ต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
สามารถใช้งานได้ในรุ่น LTE โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
แต่รุ่นที่ไม่ใช่ LTE ต้องการการเชื่อมต่อ Bluetooth
กับสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่ออยู่
[21] เปรียบเทียบกับซีรีส์ Galaxy Watch รุ่นก่อนหน้า
[22] สายรัดข้อมือเสริมจำหน่ายแยกต่างหาก
สายรัดข้อมืออาจแตกต่างกันไปตามตลาดหรือผู้ให้บริการ
[23] Suggested
Replies ใช้ได้เฉพาะบน Galaxy Watch ที่ใช้ One UI 6 Watch ขึ้นไป นาฬิกาต้องติดตั้ง Wear OS เวอร์ชันล่าสุดและต้องจับคู่กับสมาร์ทโฟน Samsung
Galaxy ที่ออกหลัง Galaxy S24 ซีรีส์และใช้ One UI 6.1.1 หรือสูงกว่า ณ กรกฎาคม 2024 การให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามภาษาและแอป ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่สามารถรับประกันได้
[24] Double Pinch
Gestures เปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น
เพื่อใช้ฟีเจอร์นี้จะต้องเปิดใช้งานที่ Galaxy Watch หรือแอป Samsung Galaxy Wearable Galaxy Watch ต้องจับคู่กับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ที่ใช้ One UI 6.1.1 หรือสูงกว่า
[25] สีและขนาดอาจแตกต่างกันไปตามตลาดหรือภูมิภาค
[26] วัดโดยไม่ใช้เซนเซอร์ตรวจสอบด้านสุขภาพ
[27] วัดโดยไม่ใช้สายรัดข้อมือ
[28] อายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นไปตามผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการภายในสำหรับสถานการณ์การใช้งานทั่วไปที่ทำโดย
Samsung อายุการใช้งานแบตเตอรี่อาจแตกต่างกันไปตามรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน
รุ่นอุปกรณ์ สภาพแวดล้อมเครือข่าย และปัจจัยอื่น ๆ
ค่าเฉลี่ยทั่วไปทดสอบภายใต้เงื่อนไขห้องปฏิบัติการของบุคคลที่สาม
ค่าเฉลี่ยทั่วไปคือค่าประมาณค่าเฉลี่ยที่คำนึงถึงความเบี่ยงเบนของความจุแบตเตอรี่จากตัวอย่างแบตเตอรี่ที่ทดสอบตามมาตรฐาน
IEC 61960
[29] Samsung ได้ทดสอบ Galaxy
Watch7 และ Galaxy Watch Ultra (BT & LTE),
Galaxy Watch Magnetic Fast Charging USB C Cable (EP-OR900) และ Samsung 25W USB C Power Adapter (EP-TA800) ในระยะเวลาในการชาร์จแตกต่างกันไป รวมถึง การตั้งค่า
รูปแบบการใช้งาน และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างกัน
อุปกรณ์ชาร์จ 25W USB C Power Adapter (EP-TA800) จะถูกจำหน่ายแยกต่างหาก
[30] Wear OS Powered by Samsung ใช้กับโทรศัพท์ที่รัน Android 11 (ยกเว้นรุ่น Go และโทรศัพท์ที่ไม่มี Google Play Store) อุปกรณ์ที่เข้ากันได้อาจแตกต่างกันไปตามตลาด
ผู้ให้บริการ หรือแบรนด์อุปกรณ์
[31] การเชื่อมต่อ LTE มีให้เฉพาะในรุ่น LTE เท่านั้
[32] Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra ได้รับการรับรอง MIL-STD 810H และได้ผ่านการทดสอบที่อุณหภูมิ
-20°C (1 ชม.) ถึง 50°C (1 ชม.) รวม 6 ชั่วโมง
[33] Galaxy Watch Ultra กันน้ำที่ความลึก 100 เมตรเป็นเวลา 10 นาทีตามมาตรฐาน ISO22810 การทดสอบดำเนินการในน้ำเค็ม 5% และน้ำคลอรีน 4
ppm Galaxy Watch Ultra สามารถกันน้ำได้ในระดับ IP68 จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการด้วยน้ำจืดลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
ไม่เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำแรงดันสูงและการดำน้ำ อาจใช้สำหรับกิจกรรม เช่น
การว่ายน้ำในสระน้ำหรือทะเล
การกันน้ำไม่ได้เป็นสภาวะถาวรและอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
โปรดดูคู่มือผู้ใช้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงคำแนะนำในการดูแล/ใช้งาน Galaxy Watch Ultra สามารถกันฝุ่นด้วยระดับ IP68 ตามเงื่อนไขการทดสอบในห้องปฏิบัติการโดยบุคคลที่สาม:
แป้งฝุ่น 2 กก.
(เส้นผ่านศูนย์กลางสูงสุด 0.05 มม.)
ต่อลูกบาศก์เมตรถูกเป่าเข้าไป (แรงดันอากาศภายในอุปกรณ์
เก็บไว้ต่ำกว่าอากาศโดยรอบ) เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
ความต้านทานฝุ่นอาจแตกต่างกันไปตามสภาพการใช้งานจริง