ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดีอี พร้อมด้วย รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) ร่วมกันแถลงความคืบหน้าโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ (Health Information Exchange: Health Link) ณ ห้องประชุม MDES1 ชั้น 9 กระทรวงดีอี พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของ BDI โดยผลักดันการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ Health Link เข้าสู่แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ นำไปสู่การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลอย่างยั่งยืน มุ่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดีอี โดยสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI มีภารกิจหลักในการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งในโครงการสำคัญของ BDI คือ โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ (Health Information Exchange: Health Link) ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าในการพัฒนาขยายความเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างไร้รอยต่อ โดยปัจจุบัน Health Link ได้ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้กับหน่วยบริการสาธารณสุขเกือบ 500 แห่ง แบ่งเป็นภาครัฐร้อยละ 50 และภาคเอกชนร้อยละ 50 ทั้งนี้ ในส่วนภาคเอกชนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิที่ประกอบด้วย คลินิกและร้านยาคุณภาพ ที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. สามารถเข้ารับบริการดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการ (Common Illnesses) ได้อย่างสะดวก ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล สามารถเข้ารับบริการจากหน่วยบริการใกล้บ้าน โดยได้มีการนำร่องแล้วในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และจังหวัดนครราชสีมา
นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับ สปสช. ในการนำเทคโนโลยี Big Data และ AI มาวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อส่งเสริมสุขภาพประชาชน และเพิ่มประสิทธิภาพในการเบิกจ่าย โดยเป้าหมายในอนาคตของกระทรวงดีอี มีความตั้งใจที่จะขยายการเชื่อมโยงไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และหน่วยบริการในท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการมากขึ้น เพิ่มความรวดเร็วในการรักษา ลดความซ้ำซ้อนในการเบิกจ่ายยา และช่วยเหลือชีวิตของผู้ป่วยได้ทันท่วงที ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ จากความสำเร็จของโครงการ Health Link ในวันนี้ กระทรวงดีอีพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของ BDI และภาคีเครือข่าย โดยจะผลักดันการพัฒนาแพลตฟอร์มบูรณาการข้อมูลเข้าสู่แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ นำไปสู่แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลอย่างยั่งยืน
รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) กล่าวว่า BDI ได้ดำเนินการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.)ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้เป็นต้นแบบการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทุกระดับตั้งแต่ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ พร้อมขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ปัจจุบันมีสถานพยาบาลเข้าร่วมโครงการ Health Link เกือบ 500 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สังกัดกระทรวงกลาโหม โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลเอกชน คลินิกชุมชนอบอุ่น และร้านยาคุณภาพ
นอกจากนี้ BDI ยังได้มีการพัฒนาระบบให้ความยินยอมรายครั้งด้วยรหัส OTP ในพื้นที่ กทม. สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟนให้สามารถเข้าถึงบริการได้ โดยระบบ OTP ที่ทาง BDI นำมาใช้จะมีความปลอดภัย ประชาชนต้องอยู่ที่จุดบริการสาธารณสุขเท่านั้น รวมทั้งได้ร่วมมือกับ สปสช. จัดทำแดชบอร์ดตรวจสุขภาพเพื่อประกอบการวางนโยบายสาธารณสุข เสริมศักยภาพหน่วยบริการในการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเตรียมขยายการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังผู้ให้บริการทางการแพทย์ (Medical Providers) วิชาชีพอื่น ๆ ได้แก่ ทันตกรรม เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด และแพทย์แผนไทย ให้ครอบคลุมการบริการสุขภาพในพื้นที่ กทม. ภายในปลายปีนี้ เพื่อรองรับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่
สำหรับโครงการ Health Link คือ แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ช่วยให้แพทย์ สามารถดูประวัติการรักษาได้ทันที สะดวก ง่าย ปลอดภัย พร้อมมีระบบการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยกลไกการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยยืนยันตัวตนของประชาชน และแพทย์ การเข้ารหัสข้อมูลและระหว่างจัดส่งข้อมูล รวมถึงมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสมัคร Health Link ฟรีผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ “ThaID” ศึกษารายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่: https://healthlink.go.th