ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย สุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ดีอี, วัลลภ รุจิรากร เลขานุการรัฐมนตรีฯ ดีอี, สุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดีอี, ผู้บริหารสภากรุงเทพมหานคร (กทม.), สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตทุ่งครุ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังความคิดเห็น พร้อมกำหนดแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่
ประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวง ดีอี
ร่วมกับ สภา กทม. ได้ร่วมหารือการยกระดับคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยการลงพื้นที่เขตทุ่งครุ กทม. เพื่อร่วมหารือกับผู้อำนวยการอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่โรงเรียน
อาทิ ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน ติดตั้งกล้องวงจรปิด ติดตั้งระบบ IoT และอุปกรณ์เชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ
AI วิเคราะห์สถานการณ์ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย โดยระบบจะแจ้งเตือนแบบ
Realtime ให้ทันต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและความรุนแรงในโรงเรียน
พร้อมทั้งติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ครอบคลุมการใช้งานของนักเรียน เพื่อเป็นประโยชน์ทางการศึกษา
ขณะเดียวกัน ได้ร่วมรับฟังความคิดเห็นกับผู้นำทางศาสนาและประชาชนในพื้นที่ ณ มัสยิดอัลอิสติกอมะห์ (อาจารย์เซง ประชาอุทิศ 69) ซึ่งพบว่า ต้องการการส่งเสริมใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีประชาชน สมาชิกชุมชนมาร่วมทำกิจกรรมทางศาสนาในวันศุกร์เป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยปัจจุบันพบว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มียังไม่ครอบคลุมและเพียงพอต่อความต้องการ
นอกจากนี้ กระทรวงดีอี ยังได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ โรงเรียนฝึกอบรมอาชีพกรุงเทพมหานคร (อาทร สังขะวัฒนะ) เพื่อร่วมรับทราบข้อมูล ข้อเสนอด้านการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรม และส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลในพื้นที่เขตทุ่งครุ โดยพบว่าศูนย์ดิจิทัลชุมชน ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางการใช้บริการของคนในชุมชน โดยมีผู้ใช้บริการ ในกลุ่มผู้สูงอายุ นักเรียน นักศึกษา ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และกลุ่มประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ จากการหารือกับศูนย์ดิจิทัลชุมชน จะมีการปรับเปลี่ยนเวลาการให้บริการของศูนย์เพื่อให้สอดคล้องตรงต่อความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งจัดอบรมหลักสูตรเสริมภาคปฏิบัติควบคู่ไปกับภาคทฤษฎี เพื่อส่งเสริมด้านอาชีพ โดยใช้แอปพลิเคชันหลักของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ร่วมกับการใช้งานแอปฯ “ทางรัฐ” และแอปฯ OFOS ( One Family One Softpower) โดยได้มีการนำความรู้จากการอบรมมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น การออกแบบลายผ้าประจำพื้นที่ (ส้มบางมด และดอกทองอุไร) เครื่องวัดคุณภาพอากาศ pm2.5 และเทคโนโลยี Robot ฯลฯ
“กระทรวงดีอี ร่วมกับสภาฯ กทม. บูรณาการทำงานร่วมกัน ซึ่งจากการลงพื้นที่เขตทุ่งครุ ถือเป็นเขตที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม การประกอบอาชีพ และเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาในพื้นที่ฝั่งธนบุรี โดยกระทรวงมีภารกิจส่งเสริมการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม การให้ความรู้ด้านการใช้งานเทคโนโลยี การสร้างความมั่นคงปลอดภัย รวมทั้งการลดความเหลื่อมล้ำด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมกับการสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยกำหนดให้เขตทุ่งครุ ถือเป็นต้นแบบการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในพื้นที่ กทม. เพื่อส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น” ประเสริฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระทรวง ดีอี ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของศูนย์ดิจิทัลชุมชน ซึ่งเป็นศูนย์ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนในชุมชน และตั้งอยู่ในพื้นที่ทั่วประเทศ มีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นศูนย์บริการข้อมูล และช่วยเหลือการลงทะเบียน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล โดยได้มอบหมาย สดช. เป็นผู้ดำเนินการจัดการอบรม และเพิ่มเติมความรู้ให้กับ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และอาสาสมัครดิจิทัล (อสด.) เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ต่อไป
สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)
| Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com