31 ก.ค. 2567 147 0

กระทรวงดีอี - ดีป้า แอ่วเหนือ จัดกิจกรรม ‘Ignite Lanna Digital Hub’ เผยแนวคิดการพัฒนา Digital Citizen ID ดึงดูด Digital Nomad

กระทรวงดีอี - ดีป้า แอ่วเหนือ จัดกิจกรรม ‘Ignite Lanna Digital Hub’ เผยแนวคิดการพัฒนา Digital Citizen ID ดึงดูด Digital Nomad

กระทรวงดีอี และ ดีป้า จัดกิจกรรม ‘Ignite Lanna Digital Hub’ ภายใต้โครงการ DIGINEXT by SEED THAILAND เร่งสร้างเมล็ดพันธุ์ดิจิทัลรุ่นใหม่ โดย รมว.ดีอี เผยแนวคิดการพัฒนา Digital Citizen ID ดึงดูด Digital Nomad ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ พร้อมสานต่อแนวทางการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือในชื่อ Lanna Digital Valley และรับข้อเรียกร้องในการขยายเครือข่ายนักพัฒนาให้ใหญ่ขึ้นและเป็นสากลโดยการดึงกลุ่มนักพัฒนาต่างชาติให้เข้ามามีส่วนร่วมในเครือข่าย และกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม ‘Ignite Lanna Digital Hub’ กิจกรรมภายใต้ โครงการ DIGINEXT by SEED THAILAND จัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า โดยมี ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น กัมปนาท วิมลโนท Managing Director กสิกร เอกซ์ เวนเจอร์ แคปีทัล (KXVC) พงศ์วุฒิ ไพรไพศาลกิจ CEO บริษัท มัลติเวิร์ส เอ็กเปอร์ท จำกัด ดร.นที เทพโภชน์ นายกสมาคมเมตาเวิร์สไทย ฤทธิ เบญจฤทธิ์ Co-founder บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด รวมถึงกลุ่มดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการรุ่นใหม่เข้าร่วมงาน ณ สวนช้างเผือก


ประเสริฐ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ อีกทั้งได้รับความนิยมอย่างมากจาก Digital Nomad ทั่วโลก ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำงานแบบ Remote Worker และต้องการอิสระในการใช้ชีวิต ดังนั้นรัฐบาลจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนา Digital Citizen ID เพื่อดึงดูดกลุ่ม Digital Nomad ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ซึ่งอาจมีเงื่อนไขบางประการ อาทิ Digital Nomad นั้นจะต้องทำงานร่วมกับบริษัทในไทย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการยกระดับชุมชนและท้องถิ่นของไทย เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐบาลจะสานต่อแนวทางการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือในชื่อ Lanna Digital Valley ระบบนิเวศดิจิทัลที่จะช่วยสร้างแต้มต่อและส่งเสริมภาคการลงทุน


“กระทรวงดีอี และ ดีป้า ยังได้รับข้อเรียกร้องจากกลุ่มนักพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Web3 และ Blockchain ที่ต้องการให้รัฐบาลเชื่อมโยงและขยายเครือข่ายกลุ่มนักพัฒนาให้ใหญ่ขึ้นและเป็นสากลโดยการดึงกลุ่มนักพัฒนาต่างชาติให้เข้ามามีส่วนร่วมในเครือข่าย กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

ด้าน ดร.ชินาวุธ กล่าวว่า กิจกรรม Ignite Lanna Digital Hub ภายใต้โครงการ DIGINEXT by SEED THAILAND ในวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่และดิจิทัลสตาร์ทอัพได้มีโอกาสร่วมพูดคุยและหารือกันเช่นเดียวกับกิจกรรม Ignite Andaman Digital Hub ที่จังหวัดภูเก็ตสัปดาห์ก่อน


ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่และดิจิทัลสตาร์ทอัพในพื้นที่ โดยมีการระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ สะท้อนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สามารถหยิบยกไปใช้ต่อยอดการดำเนินธุรกิจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป

สำหรับโครงการ DIGINEXT by SEED THAILAND จัดขึ้นครั้งแรกที่ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี กับกิจกรรม Ignite Thailand Digital Valley ครั้งที่ 2 ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต กับกิจกรรม Ignite Andaman Digital Hub ครั้งที่ 3 ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ กับกิจกรรม Ignite Lanna Digital Hub และพร้อมเดินหน้า

ครั้งต่อไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น กับกิจกรรม Ignite E-SAN Digital Hub และครั้งสุดท้าย ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร กับกิจกรรม Ignite Digital Thailand ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: depa Thailand