กระทรวงดีอี และ ดีป้า จัดกิจกรรม ‘Ignite Digital Thailand’ ภายใต้โครงการ DIGINEXT by SEED THAILAND พร้อมรับข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการดิจิทัลและผู้บริหารแต่ละภาคส่วนที่ร่วมหารือ ทั้งแนวทางการขับเคลื่อนระบบนิเวศดิจิทัลสตาร์ทอัพ อีคอมเมิร์ซ การพัฒนากำลังคน และการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ ก่อนนำข้อมูลมาตกผลึกและทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับภาคส่วนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เป็นประธานในกิจกรรม ‘Ignite Digital Thailand’ ภายใต้โครงการ DIGINEXT by SEED THAILAND ที่ดำเนินการโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ และ ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยอำนวยการใหญ่ พร้อมด้วย ธนวิชญ์ ต้นกันยา นายกสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย ธนพงษ์ ณ ระนอง นายกสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน กุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กุลนันท์ พันธุ์นุกูล MD & COO บริษัท เอ็ดไวซอรี่ จำกัด (EdVISORY) และ ดร.ณรงค์ บริจินดากุล ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย รวมถึงกลุ่มดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ร่วมพบปะหารือในประเด็นต่าง ๆ ณ Gaysorn Urban Resort เกษรทาวเวอร์
ในเรื่องของการยกระดับระบบนิเวศดิจิทัลสตาร์ทอัพ ธนวิชญ์ เสนอให้ภาครัฐส่งเสริมการจัดตั้ง Hub for International Accelerators ในประเทศไทย เพื่อเป็นชุมชน (Startup Community) ที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับดิจิทัลสสตาร์ทอัพ และผลักดันดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยที่มีความพร้อมให้สามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการพิจารณาปรับเงื่อนไขการขอรับทุนสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนแก่ดิจิทัลสตาร์ทอัพ รวมถึงพัฒนากลไกช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนของ Angel Investor ขณะที่ ธนพงษ์ เสนอให้ภาครัฐเร่งพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลสตาร์ทอัพทั้งระบบ พร้อมแนะว่า การให้เงินทุนสนับสนุนแก่ดิจิทัลสตาร์ทอัพจากหน่วยงานภาครัฐควรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีความเหมาะสมกับช่วงระยะการเติบโตของสตาร์ทอัพรายนั้น ๆ
ด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทย กุลธิรัตน์ กล่าวว่า ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการยกระดับระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซไทยเติบโต และสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้ ขณะเดียวกันต้องให้การส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลแห่งอนาคตที่เกี่ยวข้องแก่กลุ่ม Mid-career ขณะที่ กุลนันท์ เสนอว่า กระทรวงดีอี ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนดิจิทัลเพื่อเตรียมความพร้อมแรงงานให้มีความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ควรปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาเพื่อการเติบโตในมิติต่าง ๆ ในรูปแบบ One Stop Service รองรับดิจิทัลสตาร์ทอัพ ขณะที่ ดร.ณรงค์ เสนอว่า ภาครัฐและภาคเอกชนควรบูรณาการการทำงานเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมกันนี้ยังเสนอให้เกิด Open Source แบ่งปันความรู้และข้อมูลระหว่างนักพัฒนาภายในประเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืนต่อไป
ประเสริฐ กล่าวว่า จากการหารือในครั้งนี้ กระทรวงดีอี ได้รับทราบมุมมอง ปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ พร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิด ข้อเสนอแนะ และความคิดเห็นจากผู้บริหารทุกท่านที่เป็นตัวแทนของแต่ละภาคส่วน ซึ่ง กระทรวงดีอี และ ดีป้า จะนำข้อมูลที่ได้รับจากการหารือมาตกผลึกและทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับภาคส่วนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศต่อไป
สำหรับ DIGINEXT by SEED THAILAND เป็นส่วนหนึ่งของการขยายผลการดำเนินโครงการพัฒนาเมล็ดพันธุ์นักรบดิจิทัลรุ่นใหม่ (SEED THAILAND) โดยนำคนรุ่นใหม่ที่ได้รับการยกระดับทักษะดิจิทัลแล้วมาพูดคุยกับบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ และผู้ประกอบการดิจิทัลตัวจริงอย่างใกล้ชิด โดยมีการดำเนินกิจกรรมใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม รวมผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของประเทศและผู้ประกอบการดิจิทัลไทยร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดกว่า 400 ราย นักเรียนนักศึกษา กลุ่มคนรุ่นใหม่ร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: depa Thailand