5 ต.ค. 2567 59 0

เจโทร กรุงเทพฯ เปิดตัวแคมเปญ 'JAPAN PREMIUM FOOD' รุกตลาดสินค้าอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นเต็มสูบ พร้อมจัดงานเจรจาธุรกิจทั่วไทย

เจโทร กรุงเทพฯ เปิดตัวแคมเปญ 'JAPAN PREMIUM FOOD' รุกตลาดสินค้าอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นเต็มสูบ พร้อมจัดงานเจรจาธุรกิจทั่วไทย

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ จัดงานแถลงข่าวประกาศเปิดตัวแคมเปญ “JAPAN PREMIUM FOOD” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทั่วประเทศไทย เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายและเปิดตลาดใหม่ให้กับวัตถุดิบและสินค้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย


เจโทร กรุงเทพฯ เปิดตัวโครงการ “JAPAN PREMIUM FOOD” เพื่อโปรโมทสินค้าอาหารจากญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 นี้


ตลอดระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปี 2566 ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 1.9 เท่า โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างจังหวัดและเขตปริมณฑลที่เพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบในต่างจังหวัดมากขึ้น

ซึ่งท่ามกลางการเติบโตนี้ ส่งผลให้เมื่อปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา ทางเจโทร กรุงเทพฯ ได้จัดโครงการ “Made in JAPAN on tour วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ยกญี่ปุ่นมาไว้ใกล้บ้าน" เพื่อกระตุ้นการขยายตลาดและการบริโภควัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นในต่างจังหวัด ซึ่งมีร้านอาหารและร้านค้าปลีกจำนวนมากตอบรับเข้าร่วมโครงการฯ


ดังนั้นเพื่อต่อยอดความสำเร็จจากปีก่อน ในปีงบประมาณ 2567 นี้ ทางเจโทร กรุงเทพฯ จึงจัดโครงการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์วัตถุดิบอาหารและสินค้าอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น หรือ “JAPAN PREMIUM FOOD สัมผัสความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้” ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ โดยจะทยอยเริ่มจัดแคมเปญตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2567 นี้เป็นต้นไป

โดยแคมเปญนี้เน้นการประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ เนื้อวากิว วัตถุดิบอาหารทะเล เช่น หอยเชลล์โฮตาเตะ รวมถึงอาหารแปรรูปต่างๆ ผ่านร้านอาหารและร้านค้าปลีกรวม 47 ร้านที่ได้รับการรับรองให้เป็น Japanese Food Supporter (*) โดยร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการฯ จะเสิร์ฟเมนูที่ยังคงรสชาติและเอกลักษณ์ของวัตถุดิบไว้ ส่วนร้านค้าปลีกจะประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในร้าน เช่น ป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังใช้สื่ออินฟลูเอนเซอร์และโซเชียลมีเดียในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่นและจังหวัดอื่นๆ เพื่อนำเสนอเสน่ห์ของวัตถุดิบอาหาร

นอกจากนี้ โครงการยังได้มุ่งส่งเสริมการใช้วัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นในเมนูอื่นๆ นอกเหนือจากเมนูอาหารญี่ปุ่น เช่น อาหารไทย อาหารอิตาลี หรืออาหารจีน เพื่อสร้างความต้องการใหม่สำหรับสินค้าอาหารและอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่น โดยร่วมมือกับผู้นำเข้าผ่านการจัดแคมเปญที่ร้านอาหารและร้านค้าปลีกรวม 342 ร้าน


ภายในงานแถลงข่าวโครงการฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ทางเจโทร กรุงเทพฯ ได้เชิญผู้ประกอบการนำเข้า ร้านอาหาร ร้านค้าปลีกที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงแขกรับเชิญพิเศษ “เชฟน่าน หงษ์วิวัฒน์” จากเว็บไซต์ Krua.co มาร่วมพูดคุยถึงเสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่น โดยในงานมีการจัดเตรียมอาหารที่ใช้วัตถุดิบญี่ปุ่น เช่น เนื้อวากิว หอยเชลล์โฮตาเตะ และมันหวานญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมนูเนื้อวากิวในครั้งนี้ได้นำเสนอในรูปแบบใหม่ โดยการเสิร์ฟเนื้อส่วนรอง (Secondary Cuts) เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งเชฟน่านกล่าวว่า “เนื้อพับนอกมีกลิ่นเนื้อชัดเจน เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว ไม่แห้ง มีรสชาติเข้มข้น อร่อยได้แม้ไม่ต้องราดซอส”



คุโรดะ จุน (Mr. Kuroda Jun) ประธานเจโทร กรุงเทพฯ กล่าวถึงโครงการ “JAPAN PREMIUM FOOD” ว่า “ในบัจจุบัน ประเทศไทยมีจำนวนผู้บริโภคและเชฟที่รับรู้ถึงคุณภาพและความพรีเมียมของวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราคาดหวังที่จะประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นไปยังร้านอาหารไทยและร้านอาหารสัญชาติอื่นๆ รวมทั้งผลักดันและจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายและขยายฐานความต้องการวัตถุดิบและสินค้าอาหารจากญี่ปุ่นในต่างจังหวัดต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา”

นอกจากนี้ สุดะ โยชินาริ (Mr. SUDA Yoshinari) ผู้อำนวยการแผนกเกษตรและอาหาร เจโทร กรุงเทพฯ กล่าวว่า “เราเชื่อว่ายังมีโอกาสและความเป็นไปได้อีกมากในการขยายความต้องการวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นไปสู่จังหวัดอื่นๆ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นและส่งเสริมการใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่นในร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างจังหวัด ทั้งในเมนูอาหารไทยและอาหารประเภทอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันมีความพยายามในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศไปยังจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดหวังให้วัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นเป็นที่นิยมในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยเช่นกัน”

นอกจากนี้การส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตร ป่าไม้ ประมงและวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทย ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เจโทรฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นดังต่อไปนี้

จัดงานเจรจาธุรกิจทั่วไทย โดยจัดขึ้นครั้งแรกในภาคใต้

เจโทรฯ จัดงานเจรจาธุรกิจระหว่างผู้นำเข้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ กับผู้ประกอบการโรงแรมและรีสอร์ท ร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีก และร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ โดยในจังหวัดภูเก็ตได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และเจรจาธุรกิจ “Harmony of Tastes: JAPAN Food on Tour 2024 in Phuket” เมื่อวันที่ 25 – 26 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการใหม่ๆ และขยายการบริโภคในกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ท ซึ่งนับเป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรกในภาคใต้อย่างเป็ฯทางการ โดยมีผู้นำเข้าจากกรุงเทพฯ เข้าร่วมถึง 28 บริษัท พร้อมนำเสนอวัตถุดิบอาหารที่หลากหลาย ทั้งเนื้อวากิวและอาหารทะเล เช่น หอยเชลล์โฮตาเตะ ข้าว อาหารแปรรูปจากส้มยูสุ เครื่องปรุงรส ชา เหล้าบ๊วย โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท รวมถึงร้านอาหารในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ ให้ความสนใจมาเข้าชมงานกว่า 60 บริษัท

หนึ่งในผู้ออกบูธกล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสพบปะกับผู้ซื้อจากภาคใต้ของประเทศไทย ทำให้เข้าใจความต้องการในพื้นที่รีสอร์ทได้มากขึ้น อีกทั้งยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาการขนส่งสินค้าจากกรุงเทพฯ ไปยังภูเก็ต ทั้งนี้หากมีการจัดงานเจรจาธุรกิจในพื้นที่รีสอร์ทอีกในอนาคตก็ยินดีที่จะเข้าร่วม" นอกจากนี้ภายในงานยังมีการนำเสนอการใช้วัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่ โดยสาธิตการประกอบอาหารไทยและอิตาลี ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากผู้ซื้อที่เข้าร่วมงานว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้พูดคุยกับซัพพลายเออร์จากกรุงเทพฯ ที่ปกติไม่ได้มีการติดต่อซื้อขายกัน

นอกจากนี้ในวันที่ 27 – 28 พฤศจิกายน 2567 นี้ เจโทรฯ มีกำหนดจัดงาน “JAPAN Food Exhibition & Business Matching in Chiang Mai” ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีผู้นำเข้าจากกรุงเทพฯ 30 บริษัทเข้าร่วมและจัดแสดงวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่น เช่น เนื้อวากิว วัตถุดิบอาหารทะเล เช่น หอยเชลล์โฮตาเตะ ข้าว มันหวานญี่ปุ่น  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องปรุงรสต่างๆ

จัดงานเจรจาธุรกิจแบบออนไซต์ที่กรุงเทพฯ ในรอบ 5 ปี

ปัจจุบันผู้ประกอบการนำเข้าต่างมองหาสินค้าใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น และตอบโจทย์เสียงเรียกร้องจากผู้ประกอบการที่ต้องการพบปะพูดคุยโดยตรงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 บรรเทาลง ในปีนี้ ดังนั้นเจโทรฯ จึงกำหนดจัดงานเจรจาธุรกิจแบบออนไซต์ขึ้นที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2562 เพื่อจับคู่ระหว่างผู้ประกอบการญี่ปุ่นซึ่งมีสินค้าที่ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย กับผู้ซื้อทั้งบริษัทไทยและญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้ได้มีการจัดในรูปแบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

(*) Japanese Food Supporter

ระบบการรับรองร้านอาหารและร้านค้าปลีกซึ่งใช้หรือจำหน่ายวัตถุดิบอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นว่าเป็น “Japanese Food Supporter” ทั่วโลกมีกว่า 5,615 ร้าน ซึ่งในไทยมี 336 ร้าน (เป็นร้านอาหาร 307 ร้าน ร้านค้าปลีก 22 ร้าน ร้านอาหาร/ร้านค้าปลีก/ร้านค้าออนไลน์ 7 ร้าน) (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2567)

*ตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ “JAPAN PREMIUM FOOD สัมผัสความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้” ได้ที่เว็บไซต์เจโทร กรุงเทพฯ