9 ต.ค. 2567 69 0

ชิป SoC เรือธง Dimensity 9400 ของ MediaTek มอบขีดสุดแห่งประสิทธิภาพ สำหรับการใช้งาน AI ที่ล้ำที่สุด

ชิป SoC เรือธง Dimensity 9400 ของ MediaTek มอบขีดสุดแห่งประสิทธิภาพ สำหรับการใช้งาน AI ที่ล้ำที่สุด

ชิปเซ็ตใหม่ผสานการออกแบบ All Big Core เจนสองเข้ากับความสามารถชั้นนำในวงการ ทั้ง AI คอมพิวติ้ง เกมมิ่ง และการถ่ายภาพ

วันนี้ MediaTek เปิดตัว Dimensity 9400 ชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่ปรับแต่งมาเพื่อการใช้งานเอดจ์ AI การเล่นเกมที่สมจริง การถ่ายภาพที่น่าตื่นตา และอื่น ๆ อีกมากมาย โดย Dimensity 9400 เป็นชิปเซ็ตเรือธงรุ่นลำดับที่สี่และรุ่นล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิป SoC สำหรับมือถือระดับเรือธงของ MediaTek ซึ่งจะมอบประสิทธิภาพที่ล้ำกว่าเดิมด้วยการออกแบบแบบ All Big Core เจนที่ 2 ซึ่งออกแบบด้วยสถาปัตยกรรม CPU v9.2 ของ Arm ผสานรวมเข้ากับ GPU และ NPU สุดล้ำเพื่อขีดสุดแห่งประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานที่ล้ำเป็นพิเศษ

Dimensity 9400 ใช้การออกแบบ All Big Core เจนที่ 2 ของ MediaTek โดยผสานรวมคอร์ Arm Cortex-X925 ที่ทำงานที่ความถี่ 3.62GHz รวมกับคอร์ Cortex-X4 3x และคอร์ Cortex-A720 4x การออกแบบจะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานแบบคอร์เดียวเร็วขึ้น 35% และประสิทธิภาพแบบมัลติคอร์ที่เร็วขึ้นถึง 28% เมื่อเปรียบเทียบกับชิปเซ็ตเรือธงรุ่นก่อนหน้าของ MediaTek อย่าง Dimensity 9300 มากกว่านั้น Dimensity 9400 สร้างขึ้นด้วยกระบวนการ 3nm เจนที่ 2 ของ TSMC จึงประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 40% ช่วยให้เพลิดเพลินไปกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น


Joe Chen ประธานบริษัท MediaTek กล่าวว่า "MediaTek Dimensity 9400 ช่วยสานต่อพันธกิจของเราที่มุ่งส่งเสริม AI เพื่อให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันอันทรงพลังได้ตรงกับความต้องการและความชอบของผู้ใช้งาน ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถขับเคลื่อนเทคโนโลยี generative AI เพราะมีการเทรนนิ่ง LoRA และการสร้างวิดีโอบนอุปกรณ์ได้เลย สำหรับชิปเซ็ตเรือธงรุ่นที่สี่ Dimensity 9400 ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เราเติบโตในส่วนแบ่งการตลาดเท่านั้น แต่ยังสร้างตำนานให้ MediaTek ด้วยการมอบประสิทธิภาพระดับสูงสุดในทุกการออกแบบ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ก้าวล้ำเหนือใคร"

นับเป็นครั้งแรกที่ Dimensity 9400 ซึ่งเป็นชิป NPU รุ่นที่ 8 ของ MediaTek ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในวงการในด้านประสิทธิภาพ generative AI ที่โดดเด่น โดยเป็นชิปเซ็ตมือถือรุ่นแรกที่มีการเทรนนิ่ง LoRA บนอุปกรณ์ การสร้างวิดีโอคุณภาพสูงบนอุปกรณ์ และการสนับสนุนนักพัฒนาในด้าน Agentic AI นอกจากนี้ Dimensity 9400 ยังมอบประสิทธิภาพของพรอมต์ที่ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ได้เร็วขึ้น 80% ในขณะที่ยังประหยัดพลังงานมากกว่า Dimensity 9300 ถึง 35% ผู้ใช้จึงสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน generative AI และ agent รุ่นล่าสุดได้

Dimensity 9400 ยังผสานรวม Dimensity Agentic AI Engine (DAE) ใหม่ของ MediaTek ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแอปพลิเคชัน AI เดิมให้กลายเป็นแอปพลิเคชันเอเจนต์ AI ที่ชาญฉลาด โดยMediaTek กำลังร่วมมือกับนักพัฒนาเพื่อออกแบบอินเทอร์เฟซรวมระหว่างเอเจนต์ AI พร้อมทั้ง APK ของบุคคลที่สาม และโมเดลที่ขับเคลื่อนเอดจ์ AI และบริการคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการนี้จึงช่วยให้โมเดลต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกับ APK ของบุคคลที่สามที่แตกต่างกันได้หลายตัวได้สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยลดเวลาในการพัฒนาและนำเข้าสู่ระบบนิเวศใหม่ของแอปพลิเคชันเอเจนต์ AI ได้ 

Arm Immortalis-G925 แบบ 12 คอร์จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี raytracing ที่เร็วขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า Dimensity 9400 ยังนำคุณสมบัติของพีซีมาใช้ในสมาร์ทโฟนเพราะสามารถรองรับ OMM (opacity micromaps) เพื่อการสร้างเอฟเฟกต์ที่สมจริง GPU อันทรงพลัง ชิปเซ็ตยังมอบประสิทธิภาพสูงสุด 41% พร้อมการประหยัดพลังงานสูงสุด 44% เมื่อเทียบกับ Dimensity 9300 ช่วยให้ผู้ใช้เล่นเกมได้นานขึ้น นอกจากนี้ Dimensity 9400 ยังรองรับเทคโนโลยี HyperEngine สำหรับความละเอียดสูงและคุณภาพของภาพอันน่าตื่นตา ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ได้รับพัฒนาร่วมกันโดย MediaTek และ Arm Accurate Super Resolution (Arm ASR)

เทคโนโลยี MediaTek Imagiq 1090 ในชิปเซ็ต Dimensity 9400 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกวิดีโอ HDR ได้ในทุกระยะการซูม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บภาพช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี Smooth Zoom ของ MediaTek ช่วยให้จับภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ง่ายและยังออกแบบมาให้ลดการใช้พลังงานในเวลาถ่ายภาพและวิดีโอ ทำให้ใช้พลังงานน้อยลงถึง 14% ในการถ่ายวิดีโอ 4K60 เมื่อเทียบกับ Dimensity 9300

คุณสมบัติของ Dimensity 9400 ยังประกอบไปด้วย 

  • โมเด็ม 5G 3GPP Release-17 ที่ดีกว่าที่มาพร้อมกับ 4CC-CA และประสิทธิภาพการทำงานที่ความถี่ต่ำกว่า 6GHz สูงสุด 7Gbps
  • ชิปคอมโบ Wi-Fi/Bluetooth 4nm รุ่นใหม่พร้อมอัตรารับส่งข้อมูล 7.3Gbps และใช้พลังงานต่ำลงถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
  • รองรับ MLO ไตรแบนด์ Wi-Fi 7
  • MediaTek Xtra RangeTM 3.0 มอบสัญญาน Wi-Fi ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้นถึง 30 เมตร
  • ความสามารถ 5G/4G Dual SIM Dual Active, Dual Data เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
  • รองรับสมาร์ทโฟนแบบพับสามทบ ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนออกแบบฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่ล้ำกว่าได้หลากหลายกว่าเดิม

สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิป MediaTek Dimensity 9400 จะวางจำหน่ายในตลาดตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dimensity ของ MediaTek เพิ่มเติมได้ที่: https://www.mediatek.com/products/smartphones-2/mediatek-dimensity-9400