18 ต.ค. 2567 271 2

AIS – GC ดึงพลังคนรุ่นใหม่ สร้างโลกที่น่าอยู่ กับภารกิจ Green University 'ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2' รวมพลาสติกใช้แล้วและขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการได้กว่า 1 ล้านชิ้น

AIS – GC ดึงพลังคนรุ่นใหม่ สร้างโลกที่น่าอยู่ กับภารกิจ Green University 'ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2' รวมพลาสติกใช้แล้วและขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการได้กว่า 1 ล้านชิ้น

AIS และ GC ประกาศความสำเร็จในภารกิจปลุกพลังคนรุ่นใหม่กับโครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของน้องๆ นิสิต นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมถึงความเข้าใจในการจัดการขยะทั้งขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในปีนี้มีนิสิต นักศึกษา จากทั่วประเทศเข้าร่วมถึง 42 มหาวิทยาลัย โดยสามารถรวบรวมได้มากกว่า 1,058,634 ชิ้น ภายในระยะเวลา 2 เดือนจากการเก็บขยะพลาสติกใช้แล้วผ่าน GC YOU เทิร์น และขยะอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแอปพลิเคชัน AIS E-Waste+ ซึ่งในปีนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้โชว์ความกรีน เก็บขยะทั้ง 2 ประเภทได้เยอะสุด คว้าแชมป์ไปได้สำเร็จ


นอกจากนี้ภายใต้โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2 ยังสร้างการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมประกวดภาพถ่าย ทิ้ง เทิร์น ให้เท่ สไตล์กรีนยู และกิจกรรมการประกวดคลิปสั้น “Green Creator ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ ที่ได้รับความสนใจจากน้องๆ นิสิต นักศึกษา ส่งผลงานเข้าร่วมการแข่งขันมาถึง 79 ผลงานเลยทีเดียว



สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “ขอขอบคุณ น้องๆ นิสิต นักศึกษา รวมถึงคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาจากทั้ง 42 มหาวิทยาลัย ที่ให้ความสนใจและสนับสนุนการเข้าร่วมโครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” ที่เป็นการทำงานร่วมกันของ AIS และพาร์ทเนอร์อย่าง GC ที่นอกเหนือจากการรวบรวมขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 1 ล้านชิ้น เข้าสู่กระบวนการจัดการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี และผลงานของน้องๆ บนโซเชียลมีเดียที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์มาสื่อสารสร้างความตระหนักรู้ถึงวิธีการรับมือและผลกระทบของการจัดการขยะแล้ว เรายังเห็นพลังของคนรุ่นใหม่ที่มองเห็นปัญหาของสิ่งแวดล้อมและยังมีความพร้อมที่จะเข้ามาหาวิธีการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน”


ด้าน ชนัญชิดา วิบูลคณารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท พีทีที
โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ
GC กล่าวว่า “โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” เป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมพฤติกรรมและปลูกฝังแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมให้กลุ่มเยาวชน เราตระหนักดีว่าความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่คำพูด แต่เป็นภารกิจที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับโลกใบนี้และคนรุ่นต่อไป นอกจากความสำเร็จในกลุ่มนิสิตนักศึกษา เรามุ่งหวังให้โครงการนี้ขยายผลไปยังคนรอบข้าง รวมถึงครอบครัวและชุมชนของน้องๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับสังคมที่กว้างขึ้น และเชื่อว่าความตระหนักรู้ด้านการจัดการขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนทุกเพศทุกวัย ที่จะลุกขึ้นมามีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน"



สำหรับผลการแข่งขันของโครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2ในปีนี้ ทั้ง 3 กิจกรรม มีรายละเอียดดังนี้

·    การเฟ้นหามหาวิทยาลัยสีเขียวกับการแข่งขันเก็บขยะเพื่อโลก ทั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน AIS E-Waste+ และพลาสติกใช้แล้วผ่าน GC YOUเทิร์น เริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขอขอบคุณพลังและความร่วมมือของทั้ง 42 มหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติกใช้แล้วจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ได้มากกว่า 1,058,634 ชิ้น ซึ่งคิดเป็นการลดก๊าซเรือนกระจกกว่า 23.18 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับปริมาณการปลูกต้นไม้ 2,462 ต้น โดยน้องๆ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับรางวัลชนะเลิศที่สามารถรวบรวมได้มากที่สุด ตามมาด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา เก็บได้จำนวน 198,646 ชิ้น และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เก็บได้จำนวน 139,302 ชิ้น  

·    กิจกรรมประกวดภาพถ่าย “ทิ้ง เทิร์น ให้เท่ สไตล์กรีนยูโดยน้องๆ จากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  ได้รับรางวัลดีเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ และรับรางวัลชนะเลิศ Popular Vote ไปครองทั้ง 2 รางวัล

·    กิจกรรมประกวดแข่งขันทำคลิปสั้น “Green Creator ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ ซึ่งเป็นการประกวดรายบุคคลและทีม ในการสร้างสรรค์คลิปวีดีโอลงช่องทาง TikTok เพื่อบอกเล่าเรื่องการทิ้งพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อโลกที่ยั่งยืน มีผู้ร่วมส่งคลิปวีดีโอเข้าประกวดกว่า 79 คลิป  และผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจากทีม AIS , GC และ Konggreengreen เพื่อคัดเลือก 15 ทีมสุดท้ายเข้าสู่การ Workshop และพัฒนาผลงานนำส่งคลิปประกวดรอบ Final จากการแข่งขันน้องๆ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับรางวัลชนะเลิศ ตามมาด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 


และขอบคุณ Green Creator จากทุกทีม จากทุกมหาวิทยาลัยที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน

โดยผู้ชนะจากทั้ง 3 กิจกรรม ได้รับทุนการศึกษามูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และเกียรติบัตร สามารถติดตามภาพกิจกรรมและผลงานของน้องๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/YOUTURNPLATFORM และ https://www.facebook.com/ais.sustainability/

เกี่ยวกับ AIS

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ ด้วยฐานลูกค้ารวมกว่า 50.6 ล้านราย ได้แก่ ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ด้วยคลื่นความถี่มากที่สุดรวม 1460 MHz ที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 45.7 ล้านเลขหมาย, ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS 3BB FIBRE3 ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 4.9 ล้านราย, ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร และธุรกิจบริการดิจิทัล  ทั้งหมดนี้เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์สู่องค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ Cognitive Tech-Co สนับสนุนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจดิจิทัลและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย พบกับเราได้ที่ www.ais.th (ข้อมูล ณ มิถุนายน 2567)

เกี่ยวกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC)

GC มุ่งมั่นเป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ ด้วยผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ระดับสากล เรานำนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กับเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน โดยบริษัทฯ ได้รับการจัดให้เป็นอันดับ 1 ของโลก จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) 4 ปีต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ปัจจุบัน บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20% ภายในปี พ.ศ. 2573 และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี พ.ศ. 2593 

ติดตามข่าวสารของ GC ได้ที่:  www.pttgcgroup.com  / LINE : @GCofficial / Facebook : @GC.CorporateOfficial

COMMENTS