15 พ.ย. 2567 88 0

ซัมซุงเดินหน้าสานต่อโครงการ 'ห้องเรียนปลอดฝุ่น' ปีที่ 2 มุ่งเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ดีแก่เยาวชนไทยด้วยนวัตกรรมเพื่ออากาศบริสุทธิ์

ซัมซุงเดินหน้าสานต่อโครงการ 'ห้องเรียนปลอดฝุ่น' ปีที่ 2 มุ่งเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ดีแก่เยาวชนไทยด้วยนวัตกรรมเพื่ออากาศบริสุทธิ์

ซัมซุง ผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้าน Aircare ที่ใส่ใจสุขภาพและอากาศบริสุทธิ์แก่ผู้บริโภคแบบรอบด้านด้วยนวัตกรรมล้ำหน้า เดินหน้าสานต่อโครงการ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” เป็นที่ปี 2 ร่วมกับสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทย (TATA) และ Indoor Air Quality Association (IAQ) เพื่อมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและมีสุขภาพดีให้แก่เยาวชนในโรงเรียนผ่านการติดตั้งเครื่องปรับอากาศซัมซุงรุ่น WindFree™ AI ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM2.5 และมาพร้อมเทคโนโลยีกระจายลมแบบไม่ปะทะตัว ช่วยควบคุมคุณภาพอากาศในห้องเรียนได้อย่างเหมาะสม อีกทั้ง AI Energy Mode ช่วยประหยัดค่าไฟได้เพิ่มถึง 30% เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางโรงเรียนได้อย่างยั่งยืน



อภิรดี พหลเวชช์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเครื่องปรับอากาศและกลุ่มลูกค้าองค์กรเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงมุ่งมั่นสานต่อโครงการ ‘ห้องเรียนปลอดฝุ่น’ อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำนวัตกรรมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเยาวชนในสถานศึกษา เพราะเรามองว่าอนาคตที่ดีของเด็ก ๆ เริ่มต้นได้จากอากาศที่ดี โดยครั้งนี้เรานำเครื่องปรับอากาศรุ่น WindFree™ AI ที่มีระบบกรองฝุ่น PM2.5 ทั้งยังทำงานอย่างเงียบสงบ ไม่รบกวนการเรียนการสอนในห้องเรียน และในปีนี้เรายังได้ร่วมมือกับสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทย (TATA) และ สมาคมส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคาร ในการผลักดันโครงการนี้ เพราะเราเชื่อว่าการสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศห้องเรียนที่ดี จะช่วยให้เด็กนักเรียนสามารถพัฒนาศักยภาพในการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ โดยในปีนี้มีจำนวนโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการในปีที่ 2 เพิ่มขึ้น 3 แห่งในจังหวัดกรุงเทพมหานครที่มีค่าฝุ่นสูง ได้แก่ โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง, โรงเรียนคลองมะขามเทศ และโรงเรียนวัดแดงเป้า”




สำหรับเครื่องปรับอากาศรุ่น WindFree™ AI  มาพร้อมฟังก์ชัน 4 – in – 1 Filter ซึ่งช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและลดการสะสมของฝุ่นภายในห้องเรียน นอกจากนี้เทคโนโลยี WindFree™ ยังช่วยกระจายความเย็นอย่างสม่ำเสมอและนุ่มนวล โดยไม่มีเสียงรบกวน ทำให้นักเรียนสามารถจดจ่อกับการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครองและคุณครูว่าห้องเรียนมีอากาศที่สะอาดและปลอดภัยอย่างยั่งยืน


เอกวรพันธุ์ เจริญวิไลสุข นายกสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทย กล่าวว่า “เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการ ‘ห้องเรียนปลอดฝุ่น’ ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพอากาศในโรงเรียนให้ปลอดภัยสำหรับเยาวชนไทย ทางสมาคมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสสนับสนุนโครงการนี้โดยจัดทีมช่างแอร์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เพื่อให้การติดตั้งเครื่องปรับอากาศทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้อย่างราบรื่น เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่าห้องเรียนทุกห้องในโครงการนี้จะได้รับการติดตั้งอย่างปลอดภัย ไม่มีปัญหาหรือข้อบกพร่องใด ๆ ที่จะส่งผลต่อคุณภาพอากาศและความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ซึ่งถือเป็นอนาคตของชาติ”


ผศ.ดร.ประพัทธ์ พงษ์เกียรติกุล นายกสมาคมส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคาร กล่าวว่า “ในฤดูฝุ่น เด็ก ๆ ที่เปิดหน้าต่างในห้องเรียน จะได้รับฝุ่น PM2.5 ไม่ต่างจากการนั่งเรียนอยู่กลางสี่แยก โครงการ ‘ห้องเรียนปลอดฝุ่น’ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยการทำห้องเรียนปลอดฝุ่นเริ่มต้นจากการปิดหน้าต่างเพื่อกันฝุ่น และการติดตั้งอุปกรณ์ลดฝุ่น เช่น การติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 หรือเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมได้ จะสามารถลด PM2.5 ในห้องได้ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสอากาศที่มีคุณภาพดีอย่างแท้จริงในทุกช่วงเวลาที่อยู่ในห้องเรียน การลงทุนในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ นี้จะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแรงสำหรับอนาคตของพวกเขาและสังคม”




โครงการห้องเรียนปลอดฝุ่นของซัมซุงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเยาวชนให้ดีขึ้น ด้วยการใช้นวัตกรรมที่ปลอดภัยและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานด้านสุขอนามัยในโรงเรียน เพื่อให้เด็กไทยได้เรียนรู้ในห้องเรียนที่สะอาดและปลอดภัย โดยนำนวัตกรรมที่ซัมซุงได้พัฒนามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสังคมเพื่อสร้างความยั่งยืน