2 ธ.ค. 2567 112 0

AOC 1441 เตือนภัย 'โจรออนไลน์' ตีเนียน หลอกลงทุน – อ้างเป็นธนาคาร ข่มขู่ ขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ เหยื่อหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท

AOC 1441 เตือนภัย 'โจรออนไลน์' ตีเนียน หลอกลงทุน – อ้างเป็นธนาคาร ข่มขู่ ขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ เหยื่อหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท

วงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 21 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้มีรายงานเคสตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง จำนวน 5 เคส ประกอบด้วย


คดีที่ 1 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 7,250,000 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนลงทุนเทรดหุ้นสกุลเงินต่างประเทศ ผู้เสียหายสนใจจึงเพิ่มเพื่อนทาง Line สอบถามรายละเอียด จากนั้นโอนเงินเพื่อทำการเทรดหุ้น ช่วงแรกได้กำไรและสามารถถอนเงินได้ ต่อมามีการดึงเข้า Group Line และให้ลงทุนเทรดหุ้นเพิ่มแต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพแจ้งว่าต้องเสียค่าภาษี และค่าประกันบัญชีรับเงิน ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 2 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 1,350,000 บาท โดยผู้เสียหายพบโฆษณาอาหารเสริมผ่านช่องทาง Facebook ผู้เสียหายสนใจจึงทักไปสอบถามรายละเอียดและเพิ่มเพื่อนทาง Line จากนั้นมิจฉาชีพแจ้งว่ามีสินค้าให้ทดลองทานฟรี แต่มีกิจกรรมให้ทำเป็นการโพรโมตแพลตฟอร์ม มีค่าคอมมิชชัน แจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงิน เป็นค่าโพรโมต ช่วงแรกตนได้รับเงินค่าคอมมิชชันจริง จากนั้นตนโอนเงินเพิ่มแต่ไม่ได้รับเงินคืน มิจฉาชีพแจ้งว่าตนทำรายการผิดพลาด ต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อให้ทางระบบเปิด ให้ทำการแก้ไข ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก 

คดีที่ 3 คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) มูลค่าความเสียหาย 1,062,248 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร แจ้งว่ารายชื่อของผู้เสียหายถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ และบัญชีพบความผิดปกติ จากนั้นให้เพิ่มเพื่อนทาง Line มิจฉาชีพแจ้งให้โอนเงินไปเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเดินบัญชี ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป ต่อมามิจฉาชีพให้ผู้เสียหายกู้เงินสหกรณ์โอนให้ตรวจสอบเพิ่มเติม ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 4 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 653,201 บาท ทั้งนี้ ผู้เสียหายพบโฆษณาแพ็กสินค้าหารายได้พิเศษผ่านช่องทาง Facebook ผู้เสียหายสนใจจึงทักไปสอบถามรายละเอียดและเพิ่มเพื่อนทาง Line มิจฉาชีพแจ้งว่าต้องมีเครดิตก่อนเริ่มทำงาน โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าระบบเพื่อสร้างเครดิตแล้วจะได้รับค่าคอมมิชชันกลับมา ช่วงแรกได้รับค่าคอมมิชชันและสามารถถอนเงินได้จริง ภายหลังโอนเงินเพิ่มขึ้นแต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพแจ้งว่าทำรายการผิดพลาด ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

และคดีที่ 5  คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) มูลค่าความเสียหาย 336,390 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่าผู้เสียหายทำการขายบัญชีม้า โดยให้บุคคลอื่นทำการเปิดบัญชีเป็นความผิดกฎหมายอาญา แจ้งขอตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชี หากไม่ให้ความร่วมมือจะมีความผิดตามกฎหมาย ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป หลังจากโอนเงินไป มิจฉาชีพติดต่อมาอีกครั้งให้ผู้เสียหายนำทรัพย์สินไปจำนำเพื่อโอนเงินไปตรวจสอบเพิ่ม และให้ผู้เสียหายเดินทางไปสถานีตำรวจหนองจอกเพื่อพบเจ้าหน้าที่สอบสวน ผู้เสียหายเดินทางไปสถานีตำรวจแต่ไม่พบเจ้าหน้าที่ตามที่มิจฉาชีพแจ้ง ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

สำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้ง 5 คดี รวม 10,651,839 บาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ ศูนย์ AOC 1441 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 มีตัวเลขสถิติผลการดำเนินงาน ดังนี้

1. สายโทรเข้า 1441 จำนวน 1,255,144 สาย / เฉลี่ยต่อวัน 3,178 สาย

2. ระงับบัญชีธนาคาร จำนวน 403,979 บัญชี / เฉลี่ยต่อวัน 1,144 บัญชี

3. ระงับบัญชีตามประเภทคดีสูงสุด 5 ประเภท ได้แก่ (1) หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 120,065 บัญชี คิด เป็นร้อยละ 29.72 (2) หลอกลวงหารายได้พิเศษ 98,803 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 24.46 (3) หลอกลวงลงทุน  60,793 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 15.05 (4) หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล 35,001 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 8.66  (5) หลอกลวงให้กู้เงิน 31,350 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 7.76 (และคดีอื่นๆ 57,967 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 14.35) 

“จากเคสตัวอย่างจะเห็นได้ว่า มิจฉาชีพ ใช้วิธีการหลอกลวงผู้เสียหาย ด้วยการหลอกให้ลงทุนเพื่อหารายได้พิเศษ การโพรโมตสินค้า หรือพบโฆษณาหลอกลวงเชิญชวนเทรดหุ้นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย คือ Facebook และ Line ทั้งนี้ขอย้ำว่า กรณีการร่วมลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่ไม่มีการรับรองโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ขอให้ผู้เสียหายตรวจสอบติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด หรือติดต่อผ่านทางสายด่วน AOC 1441 เพื่อยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการให้ข้อมูลส่วนบุคคล เพิ่มเพื่อนหรือดำเนินการใดๆ ในโซเชียลมีเดีย ในส่วนของการที่มิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการถูกข่มขู่ ควรติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด หรือติดต่อผ่านทางสายด่วน AOC 1441 เพื่อยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริง” วงศ์อะเคื้อ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยึดหลัก 4 ไม่ คือ 1. ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด และอัปโหลดแพลตฟอร์ม ที่มีการส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ โดยกระทรวง ดีอี ได้เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านศูนย์ AOC 1441 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441 แจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) |  Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com