8 ม.ค. 2568 183 18

ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ต้อนรับปี 68 ด้วย 3 สาขาใหม่เมืองท่องเที่ยว ‘สมุย - พะงัน -กมลา’ รับดีมานด์ท่องเที่ยวคึกคัก

ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ต้อนรับปี 68 ด้วย 3 สาขาใหม่เมืองท่องเที่ยว ‘สมุย - พะงัน -กมลา’ รับดีมานด์ท่องเที่ยวคึกคัก

ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ติดสปีดขยายธุรกิจต้อนรับศักราชใหม่ ตามยุทธศาสตร์การขยาย 1,000 สาขาภายในปี 2569 ปักหมุดบุกทำเลท่องเที่ยวภาคใต้ เปิดตัว 3 สาขาใหม่ ท็อปส์ สาขาเฮเว่น สมุย, และท็อปส์ สาขาพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และท็อปส์ สาขา กมลา จ.ภูเก็ต รับดีมานด์การท่องเที่ยวประเทศไทยช่วงไฮซีซั่น มุ่งคัดสรรสินค้าพรีเมียมที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกว่า 10,000 รายการทุกสาขา เจาะฐานลูกค้าต่างชาติกำลังซื้อสูง พร้อมเดินหน้าเสิร์ฟประสบการณ์ช้อปที่เหนือระดับให้กับลูกค้า และเพิ่มอัตราการจ้างงานให้กับชุมชน ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็น Food Discovery & Destination ที่ครองใจลูกค้ากว่า 28 ปี


สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่าจากสถิติล่าสุดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่า ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 26% และข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังยืนยันว่า ภาคใต้ทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้สูงที่สุดราว 6.6 แสนล้านบาท (ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ท็อปส์ จึงเดินหน้าเพิ่มจำนวนสาขาใหม่ในทำเลทองภาคใต้ เปิดตัว 3 สาขาใหม่ คือ ท็อปส์ สาขาเฮเว่น สมุย และ ท็อปส์ สาขาพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และท็อปส์ สาขากมลา จ.ภูเก็ต เพื่อเจาะฐานลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ภายใต้วิสัยทัศน์ Truly World-Class Omni-Channel Lifestyle Food Retail ด้วยการวางเป้าหมายการขยาย 1,000 สาขาให้ได้ภายในปี 2569 หรือในอีก 2 ปีข้างหน้า พร้อมกันนี้ ท็อปส์ยังส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในไทย ที่ใส่ใจทั้งการขยายตลาด และการขยายโอกาสให้กับคนในชุมชน

ที่ผ่านมาท็อปส์ได้มีสาขาในเมืองท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่ พัทยา นครศรีธรรมราช และสงขลา รวมจำนวน 28 สาขา โดยจากข้อมูลอินไซต์พบว่าแต่ละสาขามีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 9 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทุกสาขา  ในเมืองท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการกลับมาของตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในปีนี้ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 2568 โดยท็อปส์ ได้ขยาย 3 สาขาใหม่ใจกลางทำเลท่องเที่ยวภาคใต้ ได้แก่ ท็อปส์ สาขาเฮเว่น สมุย และ ท็อปส์ สาขาพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และท็อปส์ สาขากมลา จ.ภูเก็ต เพิ่งจะเปิดตัวส่งท้ายปลายปี 2567 เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในแต่ละพื้นที่ โดยมีไฮไลต์แต่ละสาขา อันได้แก่




ท็อปส์ สาขาเฮเว่น สมุย จ.สุราษฎร์ธานี แหล่งรวมสินค้าอินเตอร์แห่งใหม่ จุดเช็คอินแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวบนเกาะสมุย

ท็อปส์ เฮเว่น สมุย มีขนาดพื้นที่ 870 ตารางเมตร ตั้งอยู่ภายในคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ฮาเว่น สมุย เปิดให้บริการบนหาดเฉวง หาดทรายขาวที่ทอดยาวที่สุดบนเกาะสมุย ห้อมล้อมด้วยโรงแรม 3 – 5 ดาวกว่า 50 แห่ง สามารถรองรับทราฟฟิกลูกค้าชาวไทยและต่างชาติบนหาดเฉวงได้กว่า 14,000 ราย/วัน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงได้ โดดเด่นด้วยเสน่ห์ของแหล่งช้อปปิ้งครบวงจร โดยคัดสรรสินค้าอุปโภค บริโภคที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกว่า 15,000 รายการ อาทิ ข้าวของเครื่องใช้ ผักและผลไม้นำเข้า เนื้อสัตว์ อาหารแช่แข็ง อาหารปรุงสำเร็จ ขนมขบเคี้ยว  เบเกอรี่อบหอมกรุ่น เครื่องดื่ม ฯลฯ ให้เติมเต็มทุกประสบการณ์การช้อปครบ จบได้ในที่เดียว

ท็อปส์ สาขาพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกบนถนนเชื่อมต่อหาดริ้นและหาดท้องศาลา แหล่งรวมสินค้าที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุด

ท็อปส์ สาขาพะงัน เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางย่านการค้าบนถนนสายหลัก เชื่อมต่อระหว่างหาดริ้น และหาดท้องศาลา มีขนาดพื้นที่ 550 ตารางเมตร อยู่ใกล้กับโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาวกว่า 70 แห่ง และจากการศึกษาของท็อปส์ นักท่องเที่ยวบนเกาะพะงันยังเป็นชาวยุโรปมากถึง 60 % ท็อปส์ จึงรุกเปิดสาขาใหม่พื้นที่นี้ โดยยกขบวนสินค้าพรีเมียมและเอ็กซ์คลูซีฟไอเท็มจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้กว่า 11,000 รายการ เน้นขายสินค้าอุปโภค - บริโภคเกรดนำเข้า ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตและการปรุงอาหารของชาวตะวันตก รวมถึงสินค้าจากท้องถิ่นไทยสำหรับซื้อเป็นของฝาก นอกจากนี้ ท็อปส์ สาขาเกาะพะงัน ยังเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกบนเส้นทางระหว่างหาดริ้นและหาดท้องศาลา ที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวตลอด 365 วัน





ท็อปส์ สาขาหาดกมลา จ. ภูเก็ต พรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าแรกบนหาดกมลา แหล่งรวมสินค้าระดับเวิลด์คลาส

ท็อปส์ สาขาหาดกมลา ภูเก็ต พรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกบนชาดหาดกมลา หาดทรายเงียบสงบ             ความยาว 2 กิโลเมตร ซึ่งได้รับความนิยมมากทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยแต่ละวัน มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนอยู่ในพื้นที่ราว 34,000 คน หาดกมลา จึงเป็นทำเลศักยภาพที่กำลังเติบโตรองรับกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ในอนาคตตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ท็อปส์ หาดกมลามีขนาดพื้นที่กว่า 950 ตารางเมตร จัดเต็มสินค้าอุปโภค บริโภค อาทิ ผัก - ผลไม้สด เนื้อสัตว์ วัตถุดิบนำเข้า อาหารพร้อมทาน ขนม เบเกอรี่อบร้อน และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมกว่า กว่า 17,000 รายการ เพื่อเนรมิตประสบการณ์จับจ่ายชั้นเยี่ยมให้กับนักท่องเที่ยวบนหาดกมลา เสมือนช้อปปิ้งสินค้าด้วยตัวเองที่ต่างประเทศ พร้อมร้านค้าชั้นนำ ได้แก่ McDonald’s, Fruit Fusion on The Go, King Kebab, Five Star Chicken พร้อมและบริการ Money Exchange




จากการรุกขยายสาขาตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทำให้ปัจจุบันท็อปส์มีจำนวนสาขาในภาคใต้แล้วทั้งสิ้น 16 สาขา โดยเรายังคงมุ่งมั่นในการขยายสาขาใหม่ๆ ตามทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์นักช้อปในแต่ละพื้นที่ท่องเที่ยวพร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ ให้กับลูกค้าเพื่อเป็น Food Discovery & Destination ในทุกๆ ช่วงเวลา อย่างไรก็ดี นอกจากการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจแล้ว ท็อปส์ ยังให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ผ่านการจ้างงานคนในพื้นที่ รวมถึงส่งเสริมสินค้าจากชุมชนและเอสเอ็มอี เพื่อร่วมเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเศรษฐกิจไทยต่อไปสเตฟาน กล่าวสรุป


ท็อปส์ สาขาเฮเว่น สมุย และ ท็อปส์ สาขาพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และท็อปส์ สาขากมลา จ.ภูเก็ต เปิดให้บริการแล้ววันนี้ จัดเต็มไอเท็มพรีเมียมทั้งของกินของใช้เอาใจลูกค้าสายท่องเที่ยว พร้อมโปรโมชันสุดคุ้ม ที่หาได้ที่ท็อปส์ที่เดียวเท่านั้น! ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand


#Tops #EveryDayDISCOVERY

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล 

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,759 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์เดลี่ โก โฮลเซลล์ บิ๊กซี / GO! และ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม มินิ โก (go!) เวียดนาม ลานชี มาร์ท เวียดนาม (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต เรฟ รันเนอร์ และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์ เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ