จากกรณีแอป "Fineasy" ถูกให้ติดตั้งในมือถือ 2 ยี่ห้อดัง จนผู้บริโภคร้อนใจรวมตัวแจ้งสภาองค์กรผู้บริโภค ไม่ว่าผู้ใช้อยากดาวน์โหลดแอปนั้นหรือไม่ก็ตาม แต่เผลอดาวน์โหลดแบบไม่รู้ตัวก็มาก ถึงลบไปอัพเดทรอบใหม่ก็ยังมาอีก คล้ายถูกมัดมือชกในการบังคับติดตั้ง สร้างความวิตกไม่พอและน่ารำคาญ
ล่าสุดจากการเข้าหารือที่ กสทช.ของผู้บริหารตัวแทนบริษัทดังกล่าว กสทช. ออกมาย้ำเตือนอีกรอบ หวั่นประชาชนถูกล้วงข้อมูลนำไปขายหรือถูกมิจฉาชีพหลอกลวง แม้ว่าแอปที่เป็นประเด็นถูกบริษัทฯ อัพเดทให้ลบไปแล้ว แต่อย่าลืมว่า..ยังเหลือแอปพลิเคชั่นสินเชื่ออื่นอีกมากใน play store
นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กรณีการฝังแอปพลิเคชันมาพร้อมตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ กรณี OPPO และ Realme ฝังแอปกู้เงินเถื่อนจนสร้างความเสียหายกับประชาชนนั้น ต้องบอกว่า ประกาศตามกฎหมายของกสทช.มีหน้าที่เพียงการตรวจสอบอุปกรณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่ตามมาตรฐานเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น มาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีอันตรายต่อผู้ใช้งาน และการรับส่งคลื่นต้องไม่รบกวนกัน
ส่วนเรื่องแอปพลิเคชันนั้น ต้องยอมรับว่า อำนาจกสทช.ไปไม่ถึง เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ที่ผลิตมาจากโรงงาน แต่ไม่อาจรู้ได้ว่ามีซอฟต์แวร์อะไรมาบ้าง ดังนั้นจึงต้องศึกษาให้ชัดเจนว่า กสทช.จะสามารถมีอำนาจในการแก้ไขประกาศเพื่อรับมือกับเรื่องนี้ในอนาคตได้หรือไม่ การตรวจสอบและรับรองมาตรฐานของเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์
ด้านพันตำรวจเอก ณัทกฤช พรหมจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เปิดเผยว่า แอปพลิเคชันที่ฝังมาพร้อมกับเครื่องโทรศัพท์มือถือ เรียกว่า BLOATWARE มีมานานแล้วในโทรศัพท์มือถือที่เป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิด แต่ไม่ได้เป็นประเด็นเหมือนแอปเงินกู้ เพราะไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล แต่เป็นแอปที่เสี่ยงต่อการถูกฝังมัลแวร์ที่มาพร้อมกับโฆษณาของแอป และถูกโจมตีจากเว็บฟิชชิ่ง ได้ ดังนั้น ขอให้ประชาชนต้องตระหนักถึงภัยออนไลน์ที่แฝงมาโดยที่ประชาชนไม่รู้ตัวได้