ปัญหามลพิษทางอากาศกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของผู้คนในเขตเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่ระดับฝุ่น PM2.5 มักสูงเกินค่ามาตรฐานอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และสภาพแวดล้อมโดยรวมของทุกคนในเมือง
การจัดการกับปัญหามลภาวะทางอากาศจำเป็นต้องอาศัยวิธีการที่เห็นผลได้จริง ที่นอกจากจะสามารถลดมลพิษได้แล้ว ยังต้องคำนึงถึงความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมด้วย บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการจัดการพลังงานและผู้ให้บริการโซลูชันสีเขียวอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย IoT ได้นำความเชี่ยวชาญมาพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศบริสุทธิ์ พร้อมแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีที่มีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ต้องเผชิญร่วมกัน
เคอร์ติส คู ผู้อำนวยการธุรกิจประจำประเทศไทยของเดลต้า ประเทศไทย
เคอร์ติส
คู ผู้อำนวยการธุรกิจประจำประเทศไทยของเดลต้า ประเทศไทย กล่าว “มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน
อย่างไรก็ตามด้วยความร่วมมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านการพัฒนาโซลูชันที่ช่วยยกระดับคุณภาพอากาศและคุณภาพชีวิตของทุกคนอย่างยั่งยืน
ที่ผ่านมา ระบบคุณภาพอากาศภายในอาคารของเดลต้าหรือ Delta Indoor Air Quality (IAQ) ได้รับการติดตั้งในครัวเรือนหลายแห่งทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพอากาศให้กับหลายครอบครัวอย่างมีนัยสำคัญ”
อนุภาคฝุ่น
PM2.5 เป็นภัยอย่างมากต่อสุขภาพของทุกคน
เพราะมีขนาดเล็กจนสามารถแทรกซึมลึกเข้าไปในปอดได้ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก
(WHO) มลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของผู้คน
7 ล้านคนต่อปี และประชากรโลกถึง 92%
อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานของ WHO
สำหรับเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ
รายงานล่าสุดของศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครพบว่า ระดับฝุ่น PM2.5 มักสูงเกินค่าแนะนำที่ 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่ระดับฝุ่นสามารถพุ่งสูงได้ถึง
70-100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร การที่ร่างกายต้องสัมผัสกับมลพิษในระดับสูงเช่นนี้เป็นเวลานาน
ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
นวัตกรรมเพื่ออากาศบริสุทธิ์
เดลต้าให้ความสำคัญกับการพัฒนาโซลูชันเพื่อแก้ปัญหาคุณภาพอากาศ
ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงความยั่งยืน
โดยได้ออกแบบเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพอากาศภายในอาคารซึ่งเป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ถึง
90% ในแต่ละวัน และพร้อมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพอากาศภายนอกอาคารด้วยเช่นกัน
เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ
(ERV) และระบบเติมอากาศบริสุทธิ์
(FAS): เดลต้าได้พัฒนานวัตกรรมประสิทธิภาพสูงเพื่ออากาศบริสุทธิ์ในอาคาร
โดยเทคโนโลยีเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ หรือ ERV นั้นมีความโดดเด่นด้านการรักษาสมดุลอุณหภูมิและความชื้นภายในอาคาร
พร้อมทั้งช่วยประหยัดพลังงาน ในขณะที่ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ หรือ FAS เป็นระบบที่ช่วยนำอากาศบริสุทธิ์เข้ามาหมุนเวียนภายในอาคารอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองนวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มคุณภาพอากาศภายในอาคาร
โดยสามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้สูงถึง 97%
ผ่านระบบกรองอากาศหลายชั้นที่มีประสิทธิภาพสูงและแผ่นกรอง HEPA
ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับอากาศบริสุทธิ์อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีเสียงใบพัดมารบกวนใจ
เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในที่อยู่อาศัย
พัดลมระบายอากาศ: เดลต้าได้นำมอเตอร์ DC
brushless ที่ทันสมัยมาใช้กับพัดลมระบายอากาศ
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในด้านการประหยัดพลังงานและการทำงานที่เงียบเป็นพิเศษ
พัดลมเหล่านี้ช่วยระบายอากาศภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีเสียงที่เบากว่าพัดลมทั่วไปนอกจากความเงียบแล้ว
พัดลมระบายอากาศของเดลต้ายังช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 70% ทำให้ผู้ใช้งานได้รับทั้งความสะดวกสบายและยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
เครื่องตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร UNOnext: เดลต้าได้พัฒนาเครื่องตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร UNOnext เพื่อยกระดับการจัดการคุณภาพอากาศให้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบอัจฉริยะที่ติดตามและวิเคราะห์คุณภาพอากาศภายในอาคารได้แบบเรียลไทม์ และยังสามารถตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศได้อย่างครอบคลุม ทั้งปริมาณฝุ่น PM2.5 ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ อุณหภูมิ และความชื้น นอกจากนี้ UNOnext ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบ ERV และระบบระบายอากาศของเดลต้า เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการปรับค่าคุณภาพอากาศในอาคารและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพให้น่าอยู่สำหรับทุกคน
สถานีชาร์จ EV ของเดลต้าติดตั้งอยู่ใน 66 ทาวเวอร์ ณ สำนักงานใจกลางเมือง.
การสนับสนุนระบบคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: นอกเหนือจากโซลูชันเพื่อคุณภาพอากาศภายในอาคาร
เดลต้ายังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่เมืองที่มีสาเหตุหลักจากการคมนาคมขนส่ง
โดยเดลต้าได้เร่งขยายโครงข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งตั้งแต่ปี 2553 กลุ่มบริษัทเดลต้าได้จัดส่งสถานีชาร์จ EV
กว่า 1.5 ล้านเครื่องทั่วโลก
เพื่อสนับสนุนทางเลือกด้านการคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดการปล่อยมลพิษในระดับสากล
เดลต้าให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน ภาครัฐ และภาคธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาโซลูชันที่ช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและยกระดับคุณภาพชีวิต ท่ามกลางแรงกดดันที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากการขยายตัวของเมืองและมลพิษที่เพิ่มขึ้น บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออากาศบริสุทธิ์และเมืองที่ยั่งยืนต่อไปอย่างไม่ลดละ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป
เกี่ยวกับ บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
บริษัทฯ เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปี พ.ศ. 2531 เป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกด้านโซลูชันการจัดการพลังงานและความร้อน โดยเดลต้า ประเทศไทย เป็นบริษัทในเครือของเดลต้า อีเลคโทรนิค์ อิ้งค์ ด้วยพันธกิจของบริษัทฯ ที่ว่า “มุ่งมั่นสร้างสรรค์ นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการประหยัดพลังงานทางด้านเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ และด้วยนวัตกรรมการวิจัยและพัฒนาที่ทันสมัย ธุรกิจหลักของบริษัทฯ แบ่งได้ดังนี้ เพาเวอร์อิเล็กโทรนิคส์ ออโตเมชัน และระบบโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทฯ มีสำนักงานขายมากมายในภูมิภาคหลักทั่วโลก โรงงานผลิตในอินเดีย สโลวาเกีย และประเทศไทย ศูนย์วิจัยพัฒนาและออกแบบในไทย อินเดีย เยอรมันและอื่นๆ อีกมากมายในหลายประเทศ
เดลต้าเป็นบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและในภูมิภาค โดยได้รับการเชิดชูเกียรติจากนานาสถาบัน อาทิ รางวัลองค์กรธุรกิจแห่งอาเซียนด้านสุดยอดนวัตกรรม รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานดีเด่นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมจากนายกรัฐมนตรี .
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดลต้าฯ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.deltathailand.com
โทร : +66 (0)2709 2800 ext. 9076
อีเมล: monforsh@deltaww.com