AIS ประกาศผลประกอบการปี 2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในทุกมิติ ผ่านกลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้าน และธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้มีความแข็งแรง สามารถเชื่อมต่อและตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่ม ตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะหรือ Cognitive Tech-Co 

มนตรี คงเครือพันธุ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน AIS กล่าวว่า “ปี 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกความท้าทายในการดำเนินธุรกิจทั้งสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ และอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศยังต้องเผชิญกับหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงส่งผลให้ภาพรวมก็ยังไม่ได้เติบโตเท่าที่ควร แน่นอนว่า AIS พยายามปรับตัวเพื่อสู้กับความท้าทายที่เกิดขึ้น โดยมุ่งส่งประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ประกอบกับดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ ทำให้ในปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถรักษาการเติบโตของผลประกอบการได้ตามเป้าหมาย โดยทำรายได้รวม 213,570 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 35,075 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบลงทุนในปี 2568 ไว้ที่ 26,000 – 27,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับขีดความสามารถของ Digital Infrastructure ของประเทศไทยไปอีกขั้น ทั้งโครงข่ายมือถือและเน็ตบ้าน ยกระดับการใช้ชีวิตคนไทยให้มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียม รวมถึงระบบคลาวด์ และดาต้าเซ็นเตอร์ ที่เป็น Backbone สำคัญของภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ”

ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ให้บริการรวมอยู่ที่ 45.8 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านเลขหมายจากปี 2566 จากความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น และการนำเสนอบริการดิจิทัลที่หลากหลายจนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ขณะที่ผู้ใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านเลขหมาย เติบโต 31% จากปีก่อนหน้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจในการขยายโครงข่ายอัจฉริยะ AIS 5G ที่วันนี้มีความครอบคลุมแล้วมากกว่า 95% ของพื้นที่ประชากร และยังได้รับการการันตีเป็นโครงข่าย 5G อันดับ 1 ของไทย กวาด 12 รางวัลยอดเยี่ยมจาก Ookla®

ธุรกิจบรอดแบนด์ ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้ AIS 3BB FIBRE3 มีผู้ใช้บริการรวมอยู่ที่ 5 ล้านราย เติบโตขึ้น 243,000 รายจากปีที่ผ่านมา นับเป็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการรับรู้รายได้ของ 3BB ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งและการมุ่งนำเสนอนวัตกรรมเน็ตบ้าน เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าสำหรับผู้ใช้งาน อาทิ นวัตกรรมเน็ตบ้าน Home FibreLAN ที่ทำให้ทุกห้องภายในบ้านสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วระดับ 1 Gbps และ AI-powered Smart Router เราเตอร์อัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 22% จากปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นนำนวัตกรรมและโซลูชันมาตอบโจทย์ภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะบริการคลาวด์และโครงข่ายข้อมูล ซึ่งในปีที่ผ่านมา AIS ได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก อาทิ Oracle Cloud ร่วมกันเปิด Hyperscale Cloud บริการคลาวด์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน มีความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการจัดเก็บข้อมูลของประเทศไทย สอดคล้องกับการเติบโตดิจิทัลของภาคธุรกิจไทย รวมถึงโครงการ GSA Data Center ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างครบวงจร เน้นใช้พลังงานสะอาด และมีระบบการเก็บรักษาข้อมูลที่ปลอดภัยสูงสุด

AIS discloses 2024 Financial Performance.

AIS discloses its operating performance for 2024, reaffirms AIS’s leadership position in Thai telecommunications industry across all dimensions, driven by its core businesses: mobile, fixed-broadband, and enterprise business. The company remains committed to strengthening Thailand’s digital infrastructure, ensuring seamless connectivity, and addressing the diverse needs of all customer segments in line with its vision of becoming a Cognitive Tech-Co.

Montri Khongkruephan, Chief Finance Officer of AIS, stated, "The past year has been a challenging one for business operations, with global economic volatility, geopolitical tensions, and fluctuating interest rates. Domestically, household debt remains high, limiting overall economic growth. However, AIS has continuously adapted to these challenges by prioritizing the best possible user experience while maintaining prudent business operations. As a result, in 2024, the company successfully met its growth targets, with total revenue reaching Bt 213,570 million and a net profit of Bt 35,075 million. Looking ahead, in 2025, a CAPEX budget of Bt 26–27 billion has been allocated to further enhance Thailand’s digital infrastructure, including mobile and broadband networks to elevate the quality of life for all Thais with equitable and inclusive connectivity, while also strengthening cloud infrastructure and data centers, which serve as the backbone of the business sector, driving the country’s economic growth."

Mobile Business: AIS now serves 45.8 million mobile subscribers, marking an increase of 1.1 million from 2023, driven by growing demand and an expanding portfolio of digital services catering to diverse customer needs. Notably, 5G users reached 12 million, a 31% increase YoY, reinforcing AIS’s dedication to expanding its AIS 5G intelligent network, which now covers over 95% of the population. This achievement has been honored by the 2024 Ookla®, where AIS received awards in twelve categories for outstanding 5G user experience.

Broadband Business: AIS 3BB FIBRE3 continued to grow, reaching 5 million subscribers, a net increase of 243,000 users from the previous year. This strong performance was fueled by the consolidation of 3BB’s revenue and the continuous enhancement of broadband customer experience through innovative products, including Home FibreLAN, which enables 1 Gbps high-speed internet access in every room of the house, and the AI-powered Smart Router, an intelligent router designed to optimize all functions seamlessly.

Enterprise Business: The enterprise business grew 22% YoY, driven by its ability to deliver digital solutions to serve Thai business sectors, particularly in cloud services and data networks. Over the past year, AIS has strengthened its collaborations with leading global partners, including Oracle Cloud, to launch Hyperscale Cloud, a highly secure cloud service designed to support comprehensive digital transformation while ensuring compliance with Thailand’s data storage regulations. This aligns with the evolving digital landscape of Thai businesses. Additionally, AIS introduced the GSA Data Center, a world-class facility featuring cutting-edge technology, clean energy solutions, and state-of-the-art security systems to ensure the highest level of data protection.