นครราชสีมา – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 9 นครราชสีมา ลงพื้นที่หน่วยบริการสุขภาพโฮมคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และอรพินท์คลินิกทันตกรรม อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ (Health Information Exchange: Health Link) และเยี่ยมชมการสาธิตการใช้ระบบ Health Link โดยมี นพ.ธนกฤต จินตวร ผู้บริหารกิจการพิเศษ BDI ภก.สายชล พิมพ์เกาะ รักษาการผู้อำนวยการ สปสช. เขต 9 นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมแถลงความร่วมมือขยายการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยนวัตกรรม ในพื้นที่ สปสช. เขต 9 ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
นพ.ธนกฤต จินตวร ผู้บริหารกิจการพิเศษ BDI กล่าวว่า Health Link เป็นโครงการสำคัญที่ช่วยให้ยกระดับบริการสาธารณสุขโดยเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ทำให้แพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ลดภาระการตรวจซ้ำซ้อน และช่วยให้การรักษามีความต่อเนื่องแม้เปลี่ยนสถานพยาบาล พร้อมมีระบบการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยกลไกการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยยืนยันตัวตนของประชาชน และแพทย์ การเข้ารหัสข้อมูลและระหว่างจัดส่งข้อมูล รวมถึงมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน Health Link มีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐนอกกระทรวงสาธารณสุขและเอกชนภายใต้การขึ้นทะเบียนกับ สปสช. เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,500 แห่งในพื้นที่ กทม. และตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุมหน่วยบริการกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้รับบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึงและสะดวกขึ้นกว่าเดิม
“ปัจจุบันจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลแล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี สังกัดกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ร้านยา 6 แห่ง พร้อมตั้งเป้าขยายการเชื่อมต่อระบบ Health Link ในพื้นที่ ให้ครอบคลุมหน่วยนวัตกรรม (คลินิกเวชกรรม ทันตกรรม กายภาพ ร้านยา เทคนิคการแพทย์ แพทย์แผนไทย พยาบาลและการผดุงครรภ์) ที่ขึ้นทะเบียนในระบบ สปสช. ซึ่งมีมากกว่า 300 แห่ง เพื่อรองรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ช่วยให้ชาวโคราชเข้าสู่ระบบสาธารณสุขได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูล โดยต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ป่วยเท่านั้น ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ทำให้แพทย์สามารถดูประวัติการรักษาข้ามสถานพยาบาลนอกสังกัด ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยในการตรวจวินิจฉัยซ้ำซ้อน และสามารถได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ทันท่วงที” นพ.ธนกฤต กล่าวเพิ่มเติม
ภก.สายชล พิมพ์เกาะ รักษาการผู้อำนวยการ สปสช. เขต 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สปสช. และ BDI ในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับการบริการทางการแพทย์ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น ผ่านการใช้งานแพลตฟอร์ม Health Link เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพแบบไร้รอยต่อ โดยในอนาคตจะขยายการเชื่อมต่อระบบ Health Link ไปยังสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิ ที่มีมากกว่า 900 แห่ง ในพื้นที่ สปสช. เขต 9 ประกอบด้วย 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เชื่อว่า จะช่วยลดภาระของโรงพยาบาลหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การรักษาและการส่งตัวผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่น สอดรับตามนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่อีกด้วย
สำหรับโครงการ Health Link คือ แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ช่วยให้แพทย์ สามารถดูประวัติการรักษาได้ทันที สะดวก ง่าย ปลอดภัย พร้อมมีระบบการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยกลไกการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยยืนยันตัวตนของประชาชน และแพทย์ การเข้ารหัสข้อมูลและระหว่างจัดส่งข้อมูล รวมถึงมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถสมัคร Health Link ฟรีผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ “ThaID” ศึกษารายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่: https://healthlink.go.th/