โครงการระบบขนส่งอัจฉริยะเป็นการร่วมมือระหว่าง C-ITS ซึ่งมีงบประมาณ 25.4 พันล้านวอน (22.6 ล้านดอลลาร์) ซึ่งจะต้องทำระบบให้เสร็จเต็มรูปแบบภายในปี 2563 โดยจับมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่างเอสเคเทเลคอม (SKT) เจ้าของโครงข่าย 5G และ Samsung
โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้งานบนท้องถนนมีความปลอดภัยโดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารผ่านยานพาหนะขั้นสูง
ทาง SKT จะทำการติดตั้งเซ็นเซอร์รองรับเทคโนโลยี V2X บนโครงข่าย 5G ทั่วกรุงโซล เป็นจำนวนมากกว่า 2000 จุด เพื่อให้ได้ของมูลในรูปแบบ T-map และมีการติดตั้งอุปกรณ์ IoT5G บนรถโดยสารและแท็กซี่และตั้งศูนย์ควบคุม นำไปสู่การรวบรวมข้อมูลและระบบความปลอดภัย เป็นระยะทางมากกว่า 121 กิโลเมตร
ทั้งถนน Kyungbu, Gangnamdae, Gyeongin Mapo, Tongil และทางด่วนทั้งหมด
การติดตั้งซ็นเซอร์เพื่อรองรับเทคโนโลยี V2X บนโครงข่าย 5G มีความสามารถพิเศษในการสื่อสารข้อมูลผ่านป้ายรถเมล์ และสัญญาณไฟจราจร เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบันทึกข้อมูลทันที
ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า "มีรายการมากกว่า 30 รายการ ที่นำความสามารถของ 5G มาใช้งาน โดยการนำข้อมูลดังกล่าวจะนำไปแก้ไขปัญหาการจราจร และข้อมูลบางส่วนสามารถแบ่งปันข้อมูลระหว่างรถยนต์ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะยุคการขับขี่ยานพาหนะที่เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ, ระบบเตือนสัญญาณทางเท้า เพื่อลดอุบัติเหตุ, การส่งสัญญาณสภาพอากาศของเป้าหมาย, เตือนเส้นทางโค้ง ทางแยก เป็นต้น ซึ่งประชาชนจะเริ่มสัมผัสได้ภายในเดือนมิถุนายน 2562 เป็นต้นไป"
สถานีฐานและ terminals ของโครงข่าย 5G ได้ร่วมมือกับทาง Samsung ซึ่งความเร็วของระบบการสื่อสาร 4G LTE ซึ่ง 5G สามารถตอบสนองได้ภายใน 0.01 วินาที ต่อระยะการเคลื่อนที่ของรถยนต์ เพียง 28 ซม. ทำให้ตรวจจับความเสี่ยงได้ภายใน 10 เท่า
