ล่าสุดทาง Nokia Networks ได้จัดแสดงอุปกรณ์การรับส่งเสาสัญญาณ MWC19 ซึ่งเป็นอุปกรณ์กระจายสัญญาณทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

ครบคลุมความถี่ระบบ millimeter wave ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่มีความสามารถกระจายไม่ได้ไกล ใช้พลังงานต่ำ ระยะการส่งสัญญาณที่ 1,500 ฟุต หรือประมาณ 457 เมตร ซึ่งสิ้นเปลืองพลังงานน้อยมาก ความเร็วของอินเทอร์เน็ตจะขึ้นอยู่กับระยะคลื่น

โดยอุปกรณ์ mmWave จะมีขนาดขนาดอยู่ในระดับกระเป๋าสะพายหลัง  ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกัน

อย่าง Sprint เป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่ไม่ใช้คลื่น mmWave เป็นสถานีฐาน แต่กลับใช้สถานีฐานในรูปแบบ "Massive MIMO"บนคลื่นความถี่ 2.5GHz ที่ให้บริการทั้ง 4G และ 5G จะมีขนาดไซต์เหล่านั้นใหญ่กว่า

โดยสถานีฐาน Massive MIMO มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ( liquid-cooled ) ถือเป็นน้ำหนัก 1 ใน 3 ของน้ำหนักสถานีฐานของ Nokia และน้ำหนักลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับแผงรุ่นเก่า ทำให้สามารถติตั้งบนผนังและบนอาคารได้ดี

ซึ่งทำให้ประหยัดพื้นที่ในการให้บริการเพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมาระบบระบายความร้อนเป็นระบบที่ใช้พื้นที่ในการให้บริการสูงมาก

การปรับปรุงการระบายความร้อนในครั้งนี้จะทำให้ลดการใช้คาร์บอน 80%

สำหรับมาตรฐาน 3GPP ที่ได้รับรองมาตรฐาน 5G ที่ได้เสร็จสิ้นในเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา หากมีการปรับเปลี่ยนเทคนิคเล็กๆน้อยๆ เนื่องจากบางผู้ให้บริการในสหรัฐเปิดตัว 5G ก่อนใคร....ทาง NOKIA ก็สามารถปรับปรุงรายละเอียดได้ทันที เพื่อให้ระบบเกิดความเสถียรภาพ

Rajeev Suri ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nokia ได้เปิดเผยข้อมูลว่าการให้บริการ New FastMile 5G fixed-wireless gateway ซึ่งเป็นระบบให้ของ Nokia เตรียมมอบความเร็วสูงสุด 1Gbps

ซึ่งทันในการให้บริการเนื่องจากสิ่งแวดล้อม Wi-Fi ยังต้องใช้ระยะเวลาในการแพร่หลาย จากสิ่งแวดล้อมดังกล่าวธุรกิจที่จะเข้ามาทำเงินในยุค 5G คือ ผู้ให้บริการเน็ตองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่จะมาชดเชยรายได้จากการติดตั้งอุปกรณ์

ที่ผ่านมา Cisco ได้เตรียมโครงการ "5B for 5G" โดยจัดตั้งเม็ดเงินประมาณ ให้บริการสินเชื่อมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการในการช่วยวางระบบอินเทอร์เน็ต

ข้อมูล  pcmag  zdnet  techradar  telecoua  SprintCTO