เรียกได้ว่า เป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ในการใช้โมเด็ม Snapdragon X55 5G ที่รวมการทำงานแบบ Multi-Mode รุ่นที่ 2 ของ Qualcomm Technologies และโซลูชั่นจำลองเครือข่าย 5G ของ Keysight ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเปิดใช้งาน 5G NR multi-mode (FDD และ TDD) ที่ออกแบบในโหมด non-standalone (NSA) และ standalone (SA)
Prashant Dogra รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ Qualcomm Technologies, Inc. กล่าวว่า ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง Keysight ที่ทำงานร่วมกันมานานกว่า 2 ปี ส่งผลให้เกิดความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ อย่างเช่นการเร่งขีดความสามารถเพื่อให้เปิดให้บริการ 5G ให้เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น และตอบความต้องการชีวิตของผู้ใช้ได้ไวขึ้น
โซลูชั่น 5G ครบวงจรของ Keysight ช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการทำงานแบบ multi-mode ตอบสนองในทุกๆ การใช้งาน ตอบสนองความต้องการยุคใหม่ของประสบการณ์การเชื่อมต่อ โดยอุปกรณ์จำลองเครือข่าย 5G ของ Keysight ทำงานบน UXM 5G Wireless Test Platform ของ Keysight ซึ่งมีความโดดเด่น ในการให้บริการบนโปรโตคอล 5G NR, RF และ Radio Resource Management (RRM) ทั้งคลื่นในย่าน sub-6 GHz (FR1) และ mmWave (FR2) สำหรับโหมด 5G NR NSA และ SA
Lucas Hansen ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มทดสอบสัญญาณไร้สายของ Keysight กล่าวว่า นับเป็นโซลูชัน 5G ตัวแรกของ Keysight ที่เข้าสู่ตลาด โดยเป็นครั้งแรกที่ทำเพื่อ OEM โดยใช้โมเด็ม Snapdragon X55 5G ในการให้บริการ 5G ซึ่งมีการใช้งานในหลากหลายสถานการณ์ โดยมีการใช้งานบนสมาร์ทโฟน ที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 7 Gbps รวมไปถึงการเชื่อมต่อ IoT ในอุตสาหกรรมที่มีการเชื่อมต่อกับ PC อยู่ตลอดเวลาและการใช้งานกับ fixed wireless
ทั้ง 2 บริษัท ทำงานร่วมกัน ในการสาธิตการใช้งานกับรถยนต์และ VR ในงาน MWC19 ที่บาเซโลน่า นำเสนอควมพร้อมนวัตกรรม 5G และตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยี ทั้งเรื่องการตอบสนอง Ultra-Low Latency โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขับขี่รถยนต์ที่ต้องการการสื่อสารที่ตอบสนองได้รวดเร็ว ในภาวะที่เสี่ยงอันตรายหากการสื่อสารสะดุดหรือขาดตอน
เมื่อต้นปี Keysight ได้ร่วมสาธิตการใช้งานบน Snapdragon X50 5G ร่วมกับ Qualcomm Technologies ในงาน CES 2019 และได้จำลองเครือข่าย 5G กับอุปกรณ์ IIoT ของ Keysight ในเดือนธันวาคม 2018 ทั้ง 2 บริษัทได้สาธิตการรับส่งข้อมูลในโหมด 3GPP 5G NR SA โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล IP เพื่อต่อยอดให้โอเปอเรเตอร์พัฒนา 5G NR โดยไม่ต้องใช้งานบนเครือข่าย LTE เป็นหลัก
