โดยที่จำนวนลูกค้าลดลงจาก 706 ล้านเลขหมาย เป็น 650 ล้านเลขหมาย
สำหรับผลประกอบการก่อนหักภาษีของ บริษัทและบริษัทในภูมิภาค ซึ่งเป็นงบการเงินอยู่ที่ 31 มีนาคม 2561 มีปริมาณลดลงเป็นจำนวน 37% จาก 2.3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ซึ่งในประเทศอินเดีย หรือ Airtel รายงานผลขาดทุนอยู่ที่ 471 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อเทียบกับกำไรปีก่อน 231 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ส่วน Bharti Telecom เกิมกำไร 216 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ลดลงจาก 511 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
โดยปัญหาอยู่ที่ Airtel กำลังเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางบริษัทยังคงมองหาตลาดอื่นๆที่รอบรับการใช้ปริมาณด้าตาเป็นจำนวนมากขึ้น เช่น การสร้างเนื้อหาหรือบริการทางดิจิทัลที่มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นผ่านโครงข่ายมือถือ
ทำให้รายได้กำไรสุทธิรวมของกลุ่ม Singtel ลดลง 44% เป็น 3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งส่วนใหญ่นำไปลงทุนที่ประเทศอินเดีย ( Airtel ) และการสร้าง NetLink Trust
รายรับดูคงตัวอยู่ที่ 17.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1% จาก 17.3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ตลอดทั้งปีลดลง 7% เป็น 4.7 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
มีฐานลูกค้า 650 ล้านรายจากทุกแบรนด์รวมกัน จาก 706 ล้านราย
จำนวนพนักงานจนถึงเดือนมีนาคม 2562 มีจำนวนพนักงาน 15,478 คนลดลงจากปีที่แล้วที่จำนวน 16,354 คน
นอกจากนี้ยังคงแสดงรายได้ในกลุ่มธุรกิจใหม่นั้นคือ Digital Life ของ telco ซึ่งมีรายรับในการดำเนินงานอยู่ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ตลอดทั้งปีซึ่งเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งกำไรส่วนใหญ่อยู่ที่ธุรกิจแพลตฟอร์มเชิงโปรแกรม จาก iTV
สำหรับประเทศไทย
ในรายงานของ https://www.singtel.com รายงานระบุถึงการลงทุนในประเทศ 31 มีนาคม 2561 ซึ่ง AIS มีลูกค้าเบื้องต้นที่ 40 ล้านเลขหมาย
โดยที่มีรายได้ กำไรเพิ่มขึ้นก่อนหักภาษี เฉพาะGroup share of associates' pre-tax profits รายได้ AIS มีรายได้ทั้งสิ้น 292 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และ Intouch มีรายได้ทั้งสิ้น 106 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
เทียบเป็นค่าเงินไทยรวมทั้งสิ้น 17,250 ล้านบาท
AIS ได้รับผลดีจากหลายส่วนทั้งการรายได้การจากบรอดแบนด์ที่ดีขึ้น คนใช้งาน 4G เพิ่มมากขึ้น ทำให้ EBITDA เพิ่มขึ้น 11% จากการให้บริการ แม้ว่าอยู่ในสถานการณ์ที่การเติบโตของจำนวนลูกค้าลดลง แต่ค่าใบอนุญาตและการเช่าโครงข่ายการให้บริการกลับเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะการสนับสนุนเงินให้กับ TOT ในการเช่าใช้คลื่น 2100 MHz ทำให้เพิ่มความถี่ในการให้บริการ รวมถึงการเช่าใช้โครงสร้างพื้นฐาน ทำให้หลังหักภาษีกำไรเพิ่มขึ้นเพียง 4.9%
สำหรับสถานการณ์ภายในประเทศไทย AIS ประกาศผลประกอบการ ปี 2561 กำไรสุทธิ 29,682 ล้านบาท เสนอจ่ายเงินปันผล 3.30 บาท ต่อหุ้น
AIS ประกาศผลประกอบการรอบปี 2561 มีกำไรสุทธิ 29,682 ล้านบาท รายได้รวมเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลจากการดำเนินธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการแล้วใน 57 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะจ่ายเงินปันผล 3.30 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 18 เมษายน
สิ่งที่น่าสนใจในภูมิภาคนี้คือคู่แข่งอย่าง Telenor และ Axiata เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับโลกกำลังเจรจาธุรกิจเพื่อเป็นเจ้าของโครงข่าย 3G 4G จำนวน 6 ประเทศทั่วเอเชีย ภายในครั้งเดียว โดยที่ 6 ประเทศทั่วเอเชีย ทาง Telenor Asia พร้อมถือหุ้น 56.5 % และ Axiata จะถือหุ้น 43.5 % ทั้งมาเลเซีย, บังคลาเทศ, กัมพูชา, เนปาล, ศรีลังกาและอินโดนีเซีย และ กิจการโครงสร้างพื้นฐาน edotco ซึ่งระหว่างนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมซื้อครั้งสุดท้าย
ก่อนหน้านี้ Telenor อินเดียขายกิจการให้กลุ่ม Singtel เป็นที่เรียบร้อย
นับว่าเป็นศึกช้างชนช้างที่จริงๆในย่านนี้