12 มิ.ย. 2562 1,756 0

System Stone สตาร์ทอัพ dtac Accelerate batch 7 ผู้ปฏิวัติรูปแบบการซ่อมบำรุงในโรงงาน รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand

System Stone สตาร์ทอัพ dtac Accelerate batch 7 ผู้ปฏิวัติรูปแบบการซ่อมบำรุงในโรงงาน รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand

ซิสเต็มส์สโตน (System Stone) สตาร์ทอัพดีแทค แอคเซอเลอเรท batch 7 สายเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแนวหน้าของประเทศไทย ผู้พัฒนาระบบการทำงานผ่านมือถือให้แก่วิศวกรซ่อมบำรุงในภาคอุตสาหกรรม ประกาศรับเงินลงทุนจาก Expara Thailand บริษัท VC ชั้นนำของอาเซียน ผู้บริหารกองทุน SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสิน กองที่ 2 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสินและตลาดหลักทรัพย์ โดยการเข้าลงทุนในครั้งนี้ เพื่อขยายตลาด เพิ่มยอดขายและก้าวขึ้นสู่ผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงเบอร์หนึ่งของประเทศไทย เตรียมตัวเข้าสู่การขยายตลาดสู่ต่างประเทศในปีหน้า รวมไปถึงการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาโซลูชั่นด้าน Internet of Things สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

สิทธิกร นวลรอด ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งซิสเต็มส์สโตน กล่าวว่า “ซิสเต็มส์สโตน เติบโตขึ้นท่ามกลางความท้าทายของเทรน Industry 4.0 ซึ่งอุตสาหกรรมทั่วโลกต่างมองหาโซลูชั่นที่จะเข้ามาช่วยสร้างความแตกต่างและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่บริษัทของเรามีความเชี่ยวชาญก็คือการพัฒนา Mobile Application Platform ซึ่งจะถูกออกแบบให้เข้าไปช่วยสนับสนุนให้วิศวกรและผู้ปฏิบัติงานในโรงงานสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะด้านการซ่อมบำรุงเครื่องจักรได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวขึ้น เสริมศักยภาพในการทำงาน ยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมไปสู่ยุค Digital Workforces ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดทั้งต้นทุนและเวลา และเมื่อเราสามารถอัพเกรดภาคอุตสาหกรรมไปสู่ Digital Factory ได้แล้ว การเชื่อมโยงและสร้าง Ecosystem ร่วมกันก็สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งนั่นจะเป็นเป้าหมายหลักในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ยุค 4.0”

สำหรับแผนการขยายตลาดนั้น ปัจจุบันบริษัทเน้นการเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นหลัก มีลูกค้าในกลุ่มของบริษัทยักษ์ใหญ่อาทิ CPF, Kubota, Mettler Toledo, Oishi, Yokogawa, PFP, Dow (Thailand) และอีกกว่า 50 องค์กร โดยในปีนี้มีแผนเพิ่มฐานลูกค้าอีก 100 โรงงานผ่านดีลเลอร์ที่มีอยู่ 7 ราย และผ่านการสนับสนุนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทั้งยังเน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาดและการเพิ่มดีลเลอร์และพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มต่างๆ นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวสินค้าและบริการด้าน Industrial Internet of Things ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาเครื่องจักรไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของบริษัทไปสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีการบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงเครื่องจักรในระดับประเทศ และระดับอาเซียนต่อไป

ในส่วนของนักลงทุน อนิกซ์ ลินซ์ พาร์ทเนอร์ บริษัท Expara ผู้จัดการกองทรัสต์ของ SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสินกองที่ 2 กล่าวว่า “บริษัท ซิสเต็มส์สโตน มีแผนในการปฏิวัติภาคอุตสาหกรรมด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานในแพคเกจราคาที่เข้าถึงได้ เรามีความตื่นเต้นที่ได้เห็นกลุ่มผู้ก่อตั้งซึ่งมีความมุ่งหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีไปสู่การซ่อมบำรุงในระดับของการคาดการณ์ ( Predictive Maintenance ) ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้การประมวลผลข้อมูลจำนวนมากร่วมกับระบบตรวจวัดหรือเซนเซอร์ Internet of Things ปัจจุบันสิ่งที่โรงงานอุตสาหกรรมกำลังกังวลอย่างมากก็คือเรื่องของการลดต้นทุนการดูแลรักษาและการเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ เครื่องจักร ซึ่งบริษัทซิสเต็มสโตนสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ ด้วยซอฟแวร์ที่จะช่วยลดระยะเวลาเสียของเครื่องจักร ลดต้นทุนการดำเนินการและต้นทุนการซ่อมบำรุง ตัวอย่างเช่นระบบ IoT ที่จะช่วยลดความผิดพลาดของคน ช่วยป้องกันการ Breakdown ของเครื่องจักรได้ดีกว่าถึง 40-50% และช่วยลดการลงทุนในอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรได้อีกกว่า 4-5% เราเชื่อว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทย และด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ทั้งในวงการไอทีและแวดวงอุตสาหกรรม จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเห็นได้จากฐานลูกค้าจำนวนมากในปัจจุบัน”

สมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวว่า “ซิสเต็มสโตน เป็นสตาร์ทอัพสาย Industrial Tech เฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ที่เข้าไม่ถึงคนหมู่มาก ไม่เซ็กซี่และเข้าใจยาก แต่มีเม็ดเงินในอุตสาหกรรมนี้เยอะมากๆ มีตัวเลขประมาณการออกมาเป็นหลักแสนล้านบาทต่อปี และยังเป็นอุตสาหกรรมที่ยังไม่ค่อยมี สตาร์ทอัพเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆ สิทธิกร ซีอีโอและผู้ก่อตั้งของ ซิสเต็มสโตน เป็น domain expert หรือผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ มีประสบการณ์ในการทำงานในอุตสาหกรรมนี้มาไม่ต่ำกว่า 11 ปี ทราบถึงปัญหาในเบื้องลึกและมองเห็นโอกาสและช่องทางที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้กับเจ้าของโรงงานได้อย่างมหาศาล ซิสเต็มสโตน ยังมีโอกาสทางการตลาดในกลุ่มลูกค้า อีกกว่า 90% ของโรงงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีมากกว่า 400,000 โรงงาน ดีลการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ ซิสเต็มสโตน ดำเนินธุรกิจบรรลุเป้าหมายไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น”

COMMENTS