น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ลำพัง Apple เอง ถ้าไม่พึ่งพาผู้ให้บริการ ก็ยากที่จะขาย iPhone ได้ โดย Comcast และ Charter ตกลงขายผลิตภัณฑ์ iPad และผลิตภัณฑ์อื่นของ Apple ให้กับผู้ใช้บริการ
มีรายงานว่า Apple จับมือพันธมิตรในการขายผลิตภัณฑ์ บางครั้งต้องมีการ subsidized ราคาด้วยเหมือนกัน เช่นเดียวกับกรณีของ Comcast และ Charter ซึ่งดีลกับ Apple ในส่วนของการขายผลิตภัณฑ์ Mobile เพื่อให้สามารถขายสินค้าอื่นของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPad หรือ Apple TV
อย่างที่เราทราบกันดีว่า การผูกโปรขายผลิตภัณฑ์ของ Apple นั้น iPad ผูกโปร ก็ยังขายไม่ดีเท่า iPhone ดังนั้นทั้ง Comcast และ Charter ต่างก็ต้องผูกโปรกับลูกค้าผู้ใช้บริการ เช่นเดียวกับ Verizon และ AT&T
CNBC รายงานว่า Comcast และ Charter โดยต่างก็รู้ดีว่า ถ้าไม่ได้ขาย iPhone นั้นก็ยากที่จะผูกสัมพันธ์ในการดีลผลิตภัณฑ์ของ Apple โดยถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการดีลกับ Apple โดยมีข้อตกลงในการขาย iPhone พร้อมแพ็กเกจ ซึ่ง Apple ได้กำหนดเงื่อนไขให้ 2 ผู้ให้บริการเคเบิลในสหรัฐ ต้องทำตามข้อตกลง เพื่อขายผลิตภัณฑ์ Apple อื่นๆ ในจำนวนมาก
ทั้งที่ Comcast และ Charter เป็นผู้ให้บริการเคเบิล แต่ Apple ก็อยากจะเพิ่มยอดขายให้กับ iPad โดยขายผ่าน Comcast และทำแบบเดียวกัน แต่เป็น Apple TV กับ Charter
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า Comcast จะต้องขายผลิตภัณฑ์ iPad เป็นส่วนหนึ่งของการดีลกับ Apple โดยการ subsidized ในขณะที่ Comcast เองจะต้องเฉือนเนื้อตัวเอง เพื่อขาย iPad รุ่นที่ 6 ในราคา $423 ซึ่งต่ำกว่าราคาขายปกติ ที่ $460 อยู่ $60
เงื่อนไขของดีลนี้ Apple มีข้อตกลงกับ Comcast และ Charter โดย Comcast ต้องแบกยอดขาย iPad เป็นจำนวนมาก ในราคา subsidized หมายถึงต้องจ่ายส่วนต่างระหว่างราคาส่วนลดกับราคาที่ขายปลีกปกติ
ดีลนี้ช่วยให้ Apple ขาย iPad ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะผู้ให้บริการจะต้องแบกภาระจ่ายค่า subsidized จากการทำข้อตกลงกับ Comcast เมื่อ 2 ปีก่อน
ในขณะที่ Charter มีการดีลเพื่อขาย Apple TV แต่ไม่ต้อง subsidize ฮาร์ดแวร์ แต่ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้บริการ Charter set-top box ได้ ซึ่งในรายงานระบุว่า Charter เป็นพันธมิตรผู้ให้บริการรายใหญ่ที่จำหน่าย Apple TV
Charter ขาย Apple TV ในราคาค่าบริการ $7.50 ต่อเดือน ระยะเวลา 24 เดือน หรือราคา $180 ในราคาขายปลีกของ Apple TV ลูกค้ามีทางเลือกในการเช่า Charter set-top box ในราคา $7.50 ต่อเดือน ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ Charter ขาย Apple TV ในราคาเท่ากับ Charter set-top box ซึ่งในใจก็รู้อยู่แล้วว่า ลูกค้าร้อยทั้งร้อยเลือก Apple TV แล้วเอา Charter box มาคืน
และนี่คือสถานการณ์ที่ผู้ให้บริการเคเบิลเอง ก็ต้องพึ่ง Apple ถ้าอยากจะขายสินค้า Apple ก็ต้องพ่วงสินค้าอื่นไปด้วย แต่ที่หนักคือค่า subsidize อุปกรณ์ให้กับ Apple กับส่วนต่างที่ต้องจ่าย