บริการนี้เป็นธุรกิจการเคลื่อนย้ายทางอากาศ หรือ Uber Elevate Air Mobility ซึ่งมีแผนที่จะรองรับการขนส่งสินค้าทางอากาศอย่างพวก cargo ภายใต้ความร่วมมือนี้
AT&T Foundry และ Uber Elevate กำลังมองหาวิธีการนำ LTE และ 5G มาใช้สนับสนุนการขึ้นลงของยานพาหนะแบบ electric vertical take-off และ landing vehicles (eVTOLs) รวมไปถึงการใช้โดรนกับ cargo ด้วย
Andre Fuetsch ประธาน AT&T Labs และ CTO ของบริษัท มองว่า บริการ “Ridesharing" เป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุค 4G ซึ่งบริการ Air taxi และบริการยานพาหนะอื่นๆ จะถือเป็นจุดเด่นโดยถูกนำมาใช้เป็น use case สำหรับ 5G เขากล่าวเสริมอีกว่า เรากำลังอยู่ในยุคเริ่มต้นของการเห็นประโยชน์ในการใช้ 5G ว่าทำอะไรได้บ้าง ซึ่งจะได้เห็นภาพของอนาคตบริการ Air Travel
สำหรับระยะแรกของการทำงานร่วมกัน เราจะเห็นทั้ง 2 บริษัทเชื่อมต่อระหว่าง 4G และ 5G สำหรับเครื่องบิน piloted aircraft และโดรนขนส่งสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งบินไม่สูงนัก ส่วนอนาคตจะศึกษาเทคโนโลยี อย่างเช่น Edge computing และ Network slicing สำหรับพัฒนาช่องทางการเชื่อมต่อสำหรับ air taxi และโดรน
Uber มีแผนที่จะเริ่มบินเชิงพาณิชย์ใน Dallas-Fort Worth, Texas และ Los Angeles, California ในปี 2023 และ Uber ได้จับมือกับ Jaunt Air Mobility, Boeing, Embraer, Bell และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อพัฒนาบริการยานพาหนะ eVTOL
มีโครงการ Uber Copter pilot program ใน New York เช่นเดียวกับคอนเซ็ปต์การทดสอบโดรนของ AT&T และ Uber ใน San Diego
AT&T เป็นผู้ให้บริการรายแรกใน U.S. ที่ให้บริการ 5G ในปี 2018 ใน 19 เมือง และมีแผนขยายการให้บริการอย่างน้อยแตะ 30 เมือง โดย AT&T คาดว่าจะให้บริการทั่วประเทศภายใต้ 5G sub-6Ghz ในครึ่งปีแรกของปี 2020 และสำหรับเทคโนโลยีโดรน บริษัทมองเรื่องการเชื่อมต่อกับ IoT เพื่อเป็น use case ในอุตสาหกรรมการขนส่ง เกษตรกรรม ค้าปลีก วิศวกรรมและขนส่งสาธารณะ
