ภายในงาน การเปิดตัว 5G ของ Vodafone เปิดตัวตัวที่ Sky Garden บนอาคาร 'Walkie Talkie' ของกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นสถานที่สวยงามมาก โดยทาง Vodafone เปิดเผยพื้นที่ในการให้บริการ 5G ทั้ง 7 เมือง มีรายละเอียดต่อไปนี้ Birmingham, Bristol, Cardiff, Glasgow, Manchester, Liverpool และ London.
ส่วนอีก 12เมืองในอนาคต พร้อมให้บริการ 5G มีรายละเอียดต่อไปนี้ Birkenhead, Blackpool, Bournemouth, Guildford, Newbury, Portsmouth, Plymouth, Reading, Southampton, Stoke-on-Trent, Warrington และ Wolverhampton
ในพื้นที่ 7 เมืองนั้น ครอบคลุมพื้นที่สาธารณะหลายแห่ง โดยเฉพาะสนามกีฬา โดยพวกเขาได้ทดสอบการให้บริการ 5G โดยการแพร่ภาพสนามมายังพื้นห้องแถลงข่าว
ศักยภาพความเร็วและศักยภาพในการตอบสนองของ 5G เร็วกว่าระบบ 4G โดยใช้การเปรียบเทียบจากค่า Latency หรือความล่าช้าของสัญญาณจาก 30 มิลลิวินาที ในขณะนี้ความเร็วลดลง 10 มิลลิวินาที ทำให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเร็วขึ้นถึง 10 เท่า
Vodafone จัดหนักโปรโมชั่น 5G ไม่อั้น โดยเฉพาะ 3 แผนธุรกิจ
- 4G Business Unlimited Lite ราคาเริ่มต้น 19.16 ปอนด์ / เดือน ให้บริการอินเทอร์เน็ต 2 Mbps ขึ้นไป
- 4G Business Unlimited Lite ราคาเริ่มต้น 21.66 ปอนด์ / เดือน ให้บริการอินเทอร์เน็ต 10 Mbps ขึ้นไป
- 4G Business Unlimited Max ราคาเริ่มต้น 25 ปอนด์ / เดือน ให้บริการอินเทอร์เน็ต ไม่อั้น
นอกจากนั้น ยังมี Promotion สำหรับบุคคลธรรมดา
การเน้นการให้บริการในภาคธุรกิจนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถ Add Ons เทคโนโลยีทั้งเดิมและใหม่ ปรับให้เข้ากับโลกอนาคตทั้ง SOHO customers, การให้บริการ virtual landline , การเรียกเคลมประกันภัย รวมถึงการให้บริการทางการเงิน Paypal ซึ่งจะส่งผลดีต่อความปลอดภัยในการรับชำระเงินของลูกค้า
โดยพื้นที่ในเมืองจะใช้งานคลื่น 5G (Release 16) ในย่าน 3.5 GHz เนื่องจากเป็นคลื่นความถี่กลาง และรองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม ส่วนพื้นที่ในชนบทจะให้บริการ 5G ในแถบความถี่ต่ำเพื่อให้เหมาะสมกับการให้บริการ
เทคโนโลยี 5G ที่ใช้รองรับ Massive MIMO antennas รูปแบบ Massive MIMO 6488 ,และโครงข่ายไฟเบอร์รองรับความจุที่ 100 Gbps
สมาร์ทโฟนที่รองรับมีให้เลือกถึง 3 รุ่น ได้แก่ Xiaomi Mi Mix 3 Samsung S10 5G, และ 5G router - the 5G GigaCube.
การให้บริการ 5G ของ Vodafone เป็นการใช้อุปกรณ์ของ Huawei ประมาณ 1 ใน 3 ของโครงข่ายทั้งหมด หรือประมาณ 400 - 500 แห่ง โดยเฉพาะอุปกรณ์ Radio Access Network (RAN) เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถเข้าถึง the core ได้ โดยอุปกรณ์ของ Huawei ใช้ระยะเวลาในการติดตั้งประมาณ 7 เดือน นอกจากนั้นใช้บริการของ Ericsson โดยเฉพาะระบบ Radio System โดยเฉพาะ Ericsson’s Baseband 6630
การปรับโครงข่ายครั้งนี้ เป็นโครงสร้างที่รองรับความปลอดภัยอย่างถูกวิธี ซึ่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับหน่วยงานความมั่นคงได้อย่างแน่นอน