ที่ผ่านมาเครือข่ายบรอดแบนด์ของประเทศออสเตรเลีย มีมีผู้ใช้งานด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น 11 เท่าจากที่ผ่านมา ซึ่งอาศัยซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
Chris Meissner ดำรงตำแหน่ง telstra Transport IP Core and Edge Engineering Executive ระบุว่า โครงข่ายพื้นฐานใหม่จะต้องปรับปรุงโครงข่ายใหม่ให้มีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่เพิ่มความจุของ optical network ให้สามารถโอนย้ายข้อมูลจากโครงข่ายเดิมและโครงข่ายใหม่ได้อย่างอัตโนมัติ ( fibre break ) และสลับเส้นทางได้
การกำหนดให้โครงข่ายสามารถรับส่งข้อมูลได้นั้น จะทำให้ลดความเสี่ยงของโครงสร้างพื้นฐานและลดความเสี่ยงโดยรวมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความผิดพลาดอีกด้วย เพราะหากเกิดอะไรเกิดขึ้นกับโครงข่าย จะต้องใช้ระยะเวลาหลายวันเพื่อแก้ไขข้อผิดผลาดที่เกิดขึ้น
ที่ผ่านมาทางโครงข่ายได้เสนอโปรโมชั่น 15GB, 60GB, 100GB และ 150GB หากใช้งานเกินความเร็วก็จะลดลงเช่น 1.5 Mbps เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันผู้ใช้งานมีการใช้อินเตอร์เน็ตปริมาณสูงขึ้น แบนด์วิดท์ก็ต้องพัฒนาขึ้น อย่างน้อยผู้ใช้งาน 1 คนจะสามารถใช้อินเทอร์เน็ตปริมาณ 150GB ต่อเดือน
สิ่งที่เกิดขึ้นอีกอย่าง คือผู้ให้บริการประกาศรับสมัครตำแหน่งงานใหม่ 1500 คน ส่วนใหญ่เป็นงานวิศวกรรมซอฟต์แวร์และความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต เพื่อให้สามารถดูแลโครงข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ