จากคะแนนรวม True Move H คว้ารางวัลอันดับ 1 แต่คู่แข่งก็ตีตื้นขึ้นมาสูสีกัน โดยอันดับที่ 2 คือ AIS ตามด้วย Dtac ซึ่งนับจากแต้มคะแนน nPoints แต่เราอยากให้ดูตรงเรื่องคะแนนในแต่ละประเภทของการทดสอบ คือการดาวน์โหลด dtac ดีที่สุด (fastest download speed) ส่วนผลโดยรวมนั้น True Move H ได้รางวัล best global mobile performance โดยตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้งานปัจจุบันคือ good streaming performance (81.6%) และ good browsing performance (55.5%) นั่นหมายความว่า ปัจจุบันเราไม่ได้มองแค่ Speed Test การดาวน์โหลด อัพโหลด แค่นั้น แต่เรามอง Experience ประสบการณ์ในการใช้งานมากกว่า ซึ่งพฤติกรรมคนปัจจุบันก็คือ เข้าเว็บ และดูสตริมมิ่ง
ผลทดสอบ แต่ละค่าย เด่นแต่ละด้าน แตกต่างกัน nPerf วัดความเร็วอินเทอร์เน็ต สะท้อนประสบการณ์ในการใช้งาน (user experience) โดยแบ่งการทดสอบเป็น speed, latency, Browsing และ streaming บน YouTube ซึ่งเป็นการประมาณค่าคุณภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของประเทศ
แต่ละค่าย ไม่ได้ดีหรือเด่นกว่ากัน แต่จะเก่งคนละด้าน Dtac ได้ best download speed บนเครือข่ายไร้สายของประเทศไทย โดย Dtac มีค่าเฉลี่ย average download speed อยู่ที่ 21,04 Mb/s ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ ในครึ่งปีแรกของปีนี้ ถึงแม้จะเด่น Download แต่ก็ควรปรับปรุงในด้านอื่น โดยเฉพาะ upload และ Latency ซึ่งยังตามหลัง AIS และ True Move H
ค่ายที่น่าจับตาคือ AIS ! โอเปอเรเตอร์ที่ขยับเข้ามาก้าวสู่อันดับ 1 ทำคะแนนได้ดีใกล้เคียงกับ True Move H โดยตีคู่มากับทรู เรื่อง download speed, best upload speed และมีค่า latency ใกล้เคียงกับ True move H แต่ AIS จะต้องปรับปรุงเรื่อง browsing performance ให้ดีขึ้น เพื่อให้ปลายปี จะได้คะแนนดีขึ้น
หมายเหตุ
นับตั้งแต่ 1 มกราคม 2019 ทาง nPerf ได้ปรับค่า nPerf score ใหม่ เพื่อวัดประสิทธิภาพตามประสบการณ์การใช้งานจริงของผู้ใช้ โดยสูตรคำนวณใหม่นี้ เอาค่า latency มาคิด และให้ความสำคัญกับค่า upload และ user experience (browsing, streaming) มาคำนวณด้วย
ซึ่งการวัดผลนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 คะแนนใหม่นี้ ไม่สามารถเปรียบเทียบกับคะแนนในปีที่ผ่านมา
Summary
วัดจากคะแนน nPoints เก็บข้อมูลการทดสอบ 1 มกราคม 2019 - 30 มิถุนายน 2019 (ค่าสูงกว่า เท่ากับดีกว่า)
ผลทดสอบ กรองจากการเชื่อมต่อผ่านเครื่องที่รองรับ 4G
ผลทดสอบ Overall 2G/3G/4G ทดสอบบนเครื่องที่รองรับ 4G ผ่านแอปพลิเคชั่น nPerf โดยแอปมีให้เลือก full test หรือทดสอบแยก ช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2019 ถึง 30 มิถุนายน 2019 จำนวน 585,216 การทดสอบ
ถ้าแยกตาม ISP ที่กดเข้ามาทดสอบบนแอป nPerf แยกได้ดังนี้
Success rate 2G/3G/4G หมายถึง อัตราการทดสอบที่สำเร็จ สมบูรณ์ ไม่ถูกขัดจังหวะหรือขัดข้อง
ถ้ามองเรื่อง success rate แล้ว ผู้ใช้ Dtac กดทดสอบสำเร็จมากที่สุดในครึ่งปีแรก (best overall success rate)
Download speed 2G/3G/4G
Dtac ทำคะแนนในส่วนของการดาวน์โหลดได้ดีที่สุด (best internet download speed) ในครึ่งปีแรกของปี 2019
ในขณะที่ Download bitrate โดยเฉลี่ย dtac ทำได้ดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา และก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 1 โดยมาจากการได้คลื่นและเพิ่มเสา
Upload speed 2G/3G/4G
ทางด้านการ Upload นั้น AIS ทำได้ดีที่สุด ในครึ่งปีแรกของปี 2019
Latency 2G/3G/4G
ค่า Latency สำคัญที่สุด เพราะตอนนี้เรา เล่นเกม ดูสตริมมิ่ง ดังนั้น ค่าความหน่วงเวลาน้อย ยิ่งดี
ค่า Latency ยิ่งน้อย ยิ่งดี True Move H และ AIS มีค่าหน่วงเวลาน้อย best internet latency ในครึ่งปีแรกของปี 2019 โดยทั้ง True Move และ AIS ต่างทำความสามารถในการหน่วงเวลา latency โดยเฉลี่ย ต่ำลงอีก 5 ms เมื่อเทียบกับปี 2018 จากกราฟ เอาจริงๆ True Move H และ AIS ต่างกันหลักทศนิยมนิดเดียวเอง ส่วน dtac ยังตามหลัง
Browsing test 2G/3G/4G
เทียบการเข้า 5 เว็บไซต์ยอดนิยม ของผู้ใช้คนไทย (ยกเว้น YouTube)
ครึ่งปีแรกของปี 2019 Dtac ได้คะแนนนำ best Internet browsing performance ส่วน True Move H ทำได้ใกล้เคียง
Streaming test 2G/3G/4G
วัดประสิทธิภาพการรับชมวีดีโอผ่าน YouTube
TrueMove H ดีที่สุด best Internet video streaming performance ตามมาด้วย dtac และ AIS
4G connection rate
อัตราการเข้าถึง การเชื่อมต่อ 4G และ 4G + บนแอป nPerf เพื่อทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต
เงื่อนไขของการทดสอบนี้ ในแต่ละผู้ให้บริการ มีจำนวนการทดสอบบนการเชื่อมต่อ 4G หรือ 4G+ นับจากจำนวนการเชื่อมต่อเครือข่าย cellular โดยแยกเฉพาะเครื่องที่จับสัญญาณ 4G แต่ไม่สามารถอ้างอิงจำนวนเครื่องที่ทดสอบในเชิงพาณิชย์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม นี่คือผลการทดสอบ บางคนอาจจะไม่มีแพ็กเกจ 4G แต่ใช้เครื่องที่รองรับ 4G แต่เราก็จะไม่นับรวม สถิติ ทดสอบ 366,689 ครั้ง บนอุปกรณ์ 4G (ดูรายการอุปกรณ์ 4G ในภาคผนวกที่ nperf.com
AIS เด่นเรื่อง best 4G connection rate ในครึ่งปีแรกของปี 2019
สรุปผลทดสอบ nPerf
ทั้ง 3 ค่ายใหญ่ในไทย ปรับตัว พยายามหาคลื่นเพิ่ม ลงเสาเพิ่ม เพื่อชิงความเป็น best networks performance เพื่อให้คนไทยได้ใช้เน็ตลื่นๆ แรงๆ โดยรวมแล้ว ประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศไทยโดยรวมเพิ่มขึ้น โดย True Move H ยังคงเป็นอันดับ 1 แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะ AIS กำลังตามหลังมาติดๆ แล้ว อีก 6 เดือน มาดูผลกันอีกที
ดูผลทดสอบอย่างละเอียด (PDF)