Seekster ย้ำจุดยืนเป็นแพลตฟอร์มบริการทำความสะอาดและงานซ่อมแซม ทั้งการซ่อมแอร์ ล้างแอร์ และแม่บ้านทำความสะอาด เพราะเป็นตลาดใหญ่และลูกค้านิยมมากสุด ล่าสุด Seekster ขยายธุรกิจเป็นผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการงานในชื่อ Workforce เพื่อที่จะนำระบบบริหารจัดการงานส่งต่อไปให้ธุรกิจอื่นได้ใช้ และยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยต่อยอดให้ภาพของ Seekster เติบโตเร็วขึ้นกว่าเดิม

ชัชนาท จรัญวัฒนากิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ของ Seekster เผย หนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้ Seekster เติบโตขึ้นมาได้อย่างมั่นคงคือ การมีเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีจะช่วยให้การทำงานสะดวกง่ายดายและแม่นยำ หากเทคโนโลยีออกแบบมาดีและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าตรงจุด จะช่วยติดสปีดการเติบโตในอัตราเร่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ทีเดียว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เทคโนโลยีพาร์ทเนอร์อย่าง dtac SME มาช่วยจัดการต้นทุนในการติดต่อสื่อสาร ด้วยการนำร่องแพ็กเกจ WorryFree มาใช้กับพนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นแพ็กเกจที่คิดมาจาก Insight คนทำธุรกิจโดยเฉพาะเพื่อลดทุกข้อกังวลใจของผู้ประกอบการที่มีอยู่ ซึ่งหลังจากใช้เพียงไม่กี่เดือนพบว่า ช่วยองค์กรลดต้นทุนด้านการสื่อสารได้อย่างมาก จึงมีแผนต่อยอดนำซิมดังกล่าวไปให้แม่บ้านระดับ Top Tier ใช้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยดึงดูดให้แม่บ้านทำงานอยู่กับบริษัทได้ยาวนาน

 
ปัจจุบัน Seekster เปิดให้บริการในตลาดมาเกือบ 4 ปี มีแม่บ้านให้บริการกว่า 10,000 คน และบริษัทที่เกี่ยวกับช่างแอร์อีกกว่า 10 บริษัท มีผู้ใช้บริการกว่า 150,000 คน แบ่งเป็นลูกค้ากลุ่มคอนโดและบ้านเดี่ยว 60% และอีก 40% เป็นกลุ่มนิติบุคคลและเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้งานเป็นประจำ และสร้างรายได้หลักให้กับ Seekster อีกด้วย โดยคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 60-70%

 
ในประเทศไทยมีผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อยู่จำนวนมาก แต่มีผู้ประกอบการ SMEs 1,400 รายเท่านั้นที่เข้ามาใช้บริการของ Seekster ขณะเดียวกันแนวคิดของผู้ประกอบการ SMEs ยุคใหม่เปลี่ยนไป หันมาใช้บริการแม่บ้านฟรีแลนซ์มากขึ้น เพราะแม่บ้านทำความสะอาดเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน จึงประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นเมื่อเทียบกับการจ้างแม่บ้านประจำ รวมถึงลูกค้ากลุ่มนี้ยังสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ ต่างจากลูกค้าคอนโดที่อาจจะใช้บริการเดือนละครั้งเท่านั้น ทำให้ Seekster เห็นโอกาสเติบโตในตลาดนี้ และต้องการขยายฐานสู่กลุ่ม SMEs มากขึ้น โดยการรุกตลาดได้นำเอาจุดเด่นในเรื่อง “คุณภาพ” การบริการที่แตกต่าง และ “ราคาที่คุ้มค่า” มาเป็นจุดขาย โดยจะมีแพ็กเกจให้ลูกค้าเลือกหลากหลายตรงกับการใช้งานมากที่สุด

ชัชนาท กล่าวเพิ่มเติมว่า “Seekster มีเป้าหมายจะเข้าไปเทรดในตลาดให้เร็วขึ้น โดยตั้งเป้าภายใน 8 ปี โดยดูจากจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังมีโอกาสในตลาดอีกมากและเริ่มเปลี่ยนมือการบริหารงานจากผู้บริหารรุ่นแรก ส่งต่อไปสู่ผู้บริหารธุรกิจรุ่นสอง ซึ่งผู้บริหารรุ่นใหม่นี้มีความเข้าใจและนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำธุรกิจ โดยปีหน้าจะเริ่มขยายฐานสู่ตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ฝันของ Seekster เข้าใกล้ความจริงยิ่งขึ้น”