ผู้ใช้บริการของสหรัฐอเมริกา โดยเฉลี่ยใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 18.7 MBps แต่ผู้ใช้บริการมากกว่า 100 ล้านคนยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วที่สูงกว่า 25 MBps ได้ โดยส่วนใหญ่ผู้ใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกาจะใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยการใช้บริการ Cable และ ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก
รองลงมาจากนั้นคือการใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบ 4G LTE ซึ่งเหมาะอย่างมากในการใช้บริการในพื้นที่ชนบทห่างไกลที่ไม่สามารถลากสาย Cable ไปให้บริการได้ ซึ่งตอนนี้ผู้ให้บริการต่างเริ่มนำการให้บริการ 5G มาให้บริการเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งตัวแปรที่สำคัญที่สุดของวงการอินเทอร์เน็ตคือการมาถึงของการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านช่องทางดาวเทียมในอนาคต โดยปัจจุบันมีหลายปัจจัยในการที่ผู้ใช้บริการจะเลือกใช้บริการ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Fiber ความเร็วที่ให้บริการ 50-1,000 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
Cable ความเร็วที่ให้บริการ 25 - 200 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
DSL ความเร็วที่ให้บริการ 5 - 45 Mbps
ราคาเริ่มต้น 40 - 80 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
Satellite ความเร็วที่ให้บริการ 10 - 30 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
4G LTE ความเร็วที่ให้บริการ 5 - 10 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 85 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
Dial-up ความเร็วที่ให้บริการ 0.4-0.5 Kbps
ราคาเริ่มต้น 5 - 20 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
5G ความเร็วที่ให้บริการ 200 - 4,000 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 70 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
โดยเทคโนโลยี Fiber
เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการให้บริการความเร็วในระดับ 1 Gbps ซึ่งสามารถรับ - ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ดี โดยพื้นที่ในการให้บริการครอบคลุมแล้ว 25% ของพื้นที่ในการให้บริการสหรัฐ รองรับการสตรีมมิ่งได้อย่างเต็มที่
ข้อดี
- ความเร็วสูง 1 Gbps
- รองรับการสตรีมมิ่งได้อย่างเต็มที่
ข้อเสีย
- ต้องติดตั้งอย่างมืออาชีพ
- ผู้ให้บริการน้อยลง ทั้ง AT&T, Comcast และ Verizon ยังไม่รวม Google Fiber , Atlanta, Charlotte, Kansas City
- ครอบคลุมพื้นที่แล้ว 25%
_____________________________
เทคโนโลยี Cable
ข้อดี
- การเชื่อมต่อเฉพาะแบบสแตนด์อโลนและเปิดตลอดเวลา
- เร็วกว่าและเชื่อถือได้มากกว่าระบบ DSL, ดาวเทียมหรืออินเทอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์
- เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่เน้นข้อมูลเช่น การสตรีมวีดีโอ มีส่วนลดเยอะ
ข้อเสีย
- แบนด์วิดท์น้อยและจะต้องแชร์กับคนอื่นๆ อาจเกิดอุปสรรคต่อความเร็วการเชื่อมต่อในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
- ค่าติดตั้งและบริการรายเดือนอาจมีราคาแพง
_____________________________
เทคโนโลยี Dial-up
ข้อดี
- ราคาถูกมาก
- ทำงานบนโทรศัพท์บ้าน
- มีผู้ให้บริการหลายราย
ข้อเสีย
- เป็นเทคโนโลยีสุดท้ายที่ผู้ใช้งานนึกถึง ถ้าหากไม่มีทางเลือก
- ความเร็วที่ได้รับช้า
- ต้องมีโทรศัพท์พื้นฐาน
_____________________________
เทคโนโลยี DSL
ข้อดี
- ความเร็วในการให้บริการสามารถทำงานได้แล้ว ท่องเว็บและส่งอีเมล์ได้ไม่มีปัญหา
- ค่าบริการที่ประหยัด
- มีผู้ให้บริการหลายราย
ข้อเสีย
- ความเร็วในการเชื่อมต่อต่ำโดยเฉพาะการอัพโหลดข้อมูล หรือเล่นเกม Online
- มีปัจจัยทางด้านสภาพอากาศเข้ามาทำให้อินเทอร์เน็ตช้า
_____________________________
เทคโนโลยี 4G LTE
ข้อดี
- เหมาะสมในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
- ไม่ต้องลากสายในการใช้บริการ
ข้อดี
- มีปัจจัยทางด้านสภาพอากาศและทางภูมิศาสตร์เข้ามาทำให้อินเทอร์เน็ตช้า
- อาจมีราคาแพงและ / หรือต้องมีสัญญาบริการหลายปี
- เวลาแฝงสูงกว่าบริการแบบมีสาย ทั้งสายเคเบิลและไฟเบอร์
_____________________________
เทคโนโลยี ดาวเทียม
ข้อดี
- ใช้งานได้อย่างกว้างขวางแม้ในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
- ผู้ให้บริการหลายแห่งมักจะส่งผลให้การกำหนดราคาแข่งขัน
- ความเร็วดีขึ้นจากปีที่ผ่านๆมา
ข้อเสีย
- อาจมีราคาแพงและ / หรือต้องมีสัญญาบริการหลายปี
- ต้องติดตั้งและรับสัญญาณดีๆ
- เวลาแฝงสูงกว่าบริการแบบมีสาย ทั้งสายเคเบิล, 4G LTE และไฟเบอร์
_____________________________
เทคโนโลยี 5G
ข้อดี
- ความเร็วเร็วกว่า 10 ถึง 100 เท่า เมื่อเทียมกับเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
- เครือข่าย 5G มีความหน่วงต่ำมาก
ข้อเสีย
- ยังเปิดให้บริการบางพื้นที
- ความแรงของสัญญาณเป็นที่น่าสงสัย
- ส่วนใหญ่ยังต้องแปลงสัญญาณอินเทอร์เน็ตเป็นระบบ Wi-Fi
ข้อมูล cnet