13 พ.ย. 2562 5,206 177

สหรัฐ 2020 คนใช้เน็ต Gbps เริ่มไป 5G และดาวเทียม พร้อมสรุปค่าใช้บริการ 2562 พบ Fiber และ 4G คุ้มค่ามากที่สุด

สหรัฐ 2020 คนใช้เน็ต Gbps เริ่มไป 5G และดาวเทียม พร้อมสรุปค่าใช้บริการ 2562 พบ Fiber และ 4G คุ้มค่ามากที่สุด



ผู้ใช้บริการของสหรัฐอเมริกา โดยเฉลี่ยใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 18.7 MBps แต่ผู้ใช้บริการมากกว่า 100 ล้านคนยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วที่สูงกว่า 25 MBps ได้ โดยส่วนใหญ่ผู้ใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกาจะใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยการใช้บริการ Cable และ ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก

รองลงมาจากนั้นคือการใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบ 4G LTE ซึ่งเหมาะอย่างมากในการใช้บริการในพื้นที่ชนบทห่างไกลที่ไม่สามารถลากสาย Cable ไปให้บริการได้ ซึ่งตอนนี้ผู้ให้บริการต่างเริ่มนำการให้บริการ 5G มาให้บริการเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งตัวแปรที่สำคัญที่สุดของวงการอินเทอร์เน็ตคือการมาถึงของการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านช่องทางดาวเทียมในอนาคต โดยปัจจุบันมีหลายปัจจัยในการที่ผู้ใช้บริการจะเลือกใช้บริการ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Fiber ความเร็วที่ให้บริการ 50-1,000 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
Cable ความเร็วที่ให้บริการ 25 - 200 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
DSL ความเร็วที่ให้บริการ 5 - 45 Mbps
ราคาเริ่มต้น 40 - 80 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
Satellite ความเร็วที่ให้บริการ 10 - 30 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
4G LTE ความเร็วที่ให้บริการ 5 - 10 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 85 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
Dial-up ความเร็วที่ให้บริการ 0.4-0.5 Kbps
ราคาเริ่มต้น 5 - 20 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
5G ความเร็วที่ให้บริการ 200 - 4,000 Mbps
ราคาเริ่มต้น 50 - 70 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน



โดยเทคโนโลยี Fiber
เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการให้บริการความเร็วในระดับ 1 Gbps ซึ่งสามารถรับ - ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ดี โดยพื้นที่ในการให้บริการครอบคลุมแล้ว 25% ของพื้นที่ในการให้บริการสหรัฐ รองรับการสตรีมมิ่งได้อย่างเต็มที่

ข้อดี
- ความเร็วสูง 1 Gbps
- รองรับการสตรีมมิ่งได้อย่างเต็มที่

ข้อเสีย
- ต้องติดตั้งอย่างมืออาชีพ
- ผู้ให้บริการน้อยลง ทั้ง AT&T, Comcast และ Verizon ยังไม่รวม Google Fiber , Atlanta, Charlotte, Kansas City
- ครอบคลุมพื้นที่แล้ว 25%



_____________________________
เทคโนโลยี Cable
ข้อดี
- การเชื่อมต่อเฉพาะแบบสแตนด์อโลนและเปิดตลอดเวลา
- เร็วกว่าและเชื่อถือได้มากกว่าระบบ DSL, ดาวเทียมหรืออินเทอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์
- เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่เน้นข้อมูลเช่น การสตรีมวีดีโอ มีส่วนลดเยอะ
ข้อเสีย
- แบนด์วิดท์น้อยและจะต้องแชร์กับคนอื่นๆ อาจเกิดอุปสรรคต่อความเร็วการเชื่อมต่อในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
- ค่าติดตั้งและบริการรายเดือนอาจมีราคาแพง
_____________________________
เทคโนโลยี Dial-up
ข้อดี
- ราคาถูกมาก
- ทำงานบนโทรศัพท์บ้าน
- มีผู้ให้บริการหลายราย
ข้อเสีย
- เป็นเทคโนโลยีสุดท้ายที่ผู้ใช้งานนึกถึง ถ้าหากไม่มีทางเลือก
- ความเร็วที่ได้รับช้า
- ต้องมีโทรศัพท์พื้นฐาน
_____________________________
เทคโนโลยี DSL
ข้อดี
- ความเร็วในการให้บริการสามารถทำงานได้แล้ว ท่องเว็บและส่งอีเมล์ได้ไม่มีปัญหา
- ค่าบริการที่ประหยัด
- มีผู้ให้บริการหลายราย

ข้อเสีย
- ความเร็วในการเชื่อมต่อต่ำโดยเฉพาะการอัพโหลดข้อมูล หรือเล่นเกม Online
- มีปัจจัยทางด้านสภาพอากาศเข้ามาทำให้อินเทอร์เน็ตช้า
_____________________________

เทคโนโลยี 4G LTE
ข้อดี
- เหมาะสมในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
- ไม่ต้องลากสายในการใช้บริการ
ข้อดี
- มีปัจจัยทางด้านสภาพอากาศและทางภูมิศาสตร์เข้ามาทำให้อินเทอร์เน็ตช้า
- อาจมีราคาแพงและ / หรือต้องมีสัญญาบริการหลายปี
- เวลาแฝงสูงกว่าบริการแบบมีสาย ทั้งสายเคเบิลและไฟเบอร์
_____________________________
เทคโนโลยี ดาวเทียม
ข้อดี
- ใช้งานได้อย่างกว้างขวางแม้ในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
- ผู้ให้บริการหลายแห่งมักจะส่งผลให้การกำหนดราคาแข่งขัน
- ความเร็วดีขึ้นจากปีที่ผ่านๆมา
ข้อเสีย
- อาจมีราคาแพงและ / หรือต้องมีสัญญาบริการหลายปี
- ต้องติดตั้งและรับสัญญาณดีๆ
- เวลาแฝงสูงกว่าบริการแบบมีสาย ทั้งสายเคเบิล, 4G LTE และไฟเบอร์
_____________________________



เทคโนโลยี 5G
ข้อดี
- ความเร็วเร็วกว่า 10 ถึง 100 เท่า เมื่อเทียมกับเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
- เครือข่าย 5G มีความหน่วงต่ำมาก
ข้อเสีย
- ยังเปิดให้บริการบางพื้นที
- ความแรงของสัญญาณเป็นที่น่าสงสัย
- ส่วนใหญ่ยังต้องแปลงสัญญาณอินเทอร์เน็ตเป็นระบบ Wi-Fi

ข้อมูล  cnet

COMMENTS