ล่าสุดหน่วยงาน The Federal Communications Commission หรือ FCC ทำหน้าที่ดูแลกิจการโทรคมนาคม หรือคล้ายกับ กสทช. ของประเทศไทย สนับสนุนการให้บริการ C-V2X บนคลื่น Wi-Fi ย่าน 5.9 MHz เป็นจำนวน 75 MHz โดยปฏิเสธการใช้งาน C-V2X บนคลื่น 5G ที่กำลังจะให้บริการทั่วประเทศ ส่งผลดีต่อระบบการขนส่งยานยนต์อัตโนมัติ 3.0 (AV 3.0)
ซึ่งการให้บริการ C-V2X ผ่านคลื่น Wi-Fi ย่าน 5.9 MHz เป็นจำนวน 75 MHz ประชาชนทั่วไปสามารถใช้งานบนคลื่นที่ไม่ต้องมีใบอนุญาต ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถใช้ร่วมกับโครงข่ายได้ทันที
ต่างกับการให้บริการ C-V2X ผ่านคลื่น 5G อุปกรณ์ต่างต้องผูกติดกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้น ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิการใช้
ที่ผ่านมา Wi-Fi ย่าน 5.9 MHz เป็นจำนวน 75 MHz ได้ถูกนำมาใช้ในเทคโนโลยี Dedicated Short-Range Communications (DSRC) ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีการใช้งานเพื่อเชื่อมต่อระบบการขนส่งได้อย่างแพร่หลาย
โดยในอนาคตจะมีการปรับสัดส่วนคลื่นความถี่ที่มีความล้ำค่าและเป็นที่ต้องการของตลาดนั้น จะทำการแบ่งรายละเอียดของคลื่น 5.9 MHz จำนวน 75 MHz ได้แก่
1. การให้บริการ Wi-Fi ในรูปแบบไม่มีใบอนุญาต (unlicensed) เป็นจำนวน 45 MHz (5.85-5.895 GHz)
2. การให้บริการ C-V2X ในรูปแบบไม่มีใบอนุญาต (unlicensed) เป็นจำนวน 20 MHz (5.905-5.925 GHz)
3. การให้บริการ DSRC ในรูปแบบไม่มีใบอนุญาต (unlicensed) เป็นจำนวน 10 MHz
ซึ่ง FCC จะทำการพิจารณาในขั้นตอนต่อไป เทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง โดยเฉพาะในวงความถี่ 5.9 GHz รองรับอุปกรณ์ทั้งระบบการขนส่งในรูปแบบอัตโนมัติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพขั้นสูง
ซึ่งฝ่ายต่อต้านกล่าวว่า หากเปลี่ยนมาเป็นการใช้เทคโนโลยี 5G จะทำให้มีคลื่นความถี่ในการให้บริการสูงขึ้นถึง 170MHz
โดยทั้งหมดนี้รอการลงคะแนนเสียงในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ในเวลาประเทศสหรัฐอเมริกา
ข้อมูล venturebeat gotechdaily cnet fiercewireless gotechdaily