AT&T ผู้นำอันดับ 1 ของผู้ให้บริการโทรคมนาคมของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับความเร็วของ Optical จากเดิม 100 Gbps เป็นความเร็ว 400 Gbps ซึ่งเป็นความเร็วที่มากเพียงพอต่อการใช้งานของลูกค้า โดยต้องมีความยึดหยุ่นในการให้บริการ ท่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ดัลลัสและแอตแลนตาเป็นจุดแรก
โดยใช้ระบบ Ultra Long Haul (ULH) และการควบคุมสัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วย Manage, Control และ Plan (MCP) แล้วหลังจากนั้นก็จะถูกควบคุมโดยการจัดการและควบคุม ONAP ของ AT&T โดยใช้ Application Programming Interface (API) จาก Open ROADM Multi-Source Agreement (MSA) นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เฟซ 10 x 400G interfaces on a 2RU “pizza box”
ซึ่งเทคนิคดังกล่าวสามารถส่งสัญญาณให้ลูกค้าได้ในระยะ 2 กิโลเมตรจากสาย Fiber บนจุดให้บริการ
การปรับโครงข่ายทั้งหมดของ AT&T เกิดจากการที่ผู้ให้บริการเห็นถึงอัตราการก้าวกระโดดของผู้ใช้งานซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การให้บริการ 5G ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการดาวน์โหลดเกมสตรีม, ภาพยนตร์, การเล่นเพลงและเชื่อมต่ออุปกรณ์นับล้าน
ซึ่งได้รับความร่วมมือทั้ง Ciena, UfiSpace, Broadcom และ InnoLight ในการบริหารจัดการความเร็วอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึง 400 Gbps รองรับการใช้งาน 5G ทันภายในครึ่งปีแรก และจะเริ่มอัพเกรดอุปกรณ์
โดยจะเริ่มเห็นโปรโมชั่นใหม่ ภายในกลางปี 2562 เป็นต้นไป
ข้อมูล att.com telecompetitor att.com