ก่อนหน้านี้ เน็ตบ้าน เร็วกว่าเน็ตมือถือ ซึ่งหลายๆ คนก็ติดเน็ตบ้าน (เรียกว่า Cable) แต่เมื่อ เน็ตมือถือ 5G เข้ามา โดย Verizon, AT&T และ T-Mobile ผู้ให้บริการ เน็ตมือถือ 5G มีแผนเสนอแพ็กเกจ Home Broadband เป็นครั้งแรก เมื่อเทียบกับบริการ Cable Internet เดิม ถ้าเทียบให้เข้าใจง่ายๆ บ้านเรามี เน็ตมือถือ กับเน็ตบ้าน (ไฟเบอร์เคเบิล) ในขณะที่ผู้บริหาร บริการเคเบิล รู้สึกหวั่นใจกับการให้บริการ 5G ในรูปแบบ Home Broad ของโอเปอเรเตอร์ค่ายมือถือ
Dexter Goei ทาง CEO ของ Altice USA ผู้ให้บริการเคเบิลของ USA มองว่า ยอมรับเทคโนโลยี 5G ว่าเวิร์คจริง แต่ไม่เชื่อว่าจะเข้ามาแทนธุรกิจบรอดแบนด์บ้านได้
ก่อนหน้านี้ เน็ตบ้านเติบโตจาก โทรศัพท์พื้นฐาน ทีวีดาวเทียม อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่า บริการโทรศัพท์พื้นฐาน และบริการทีวีดาวเทียม ถูกยกเลิกตามยุคสมัย ด้วยการมาของ บริการสตรีมมิ่ง Disney+, Apple TV+ และ HBO Max ทำให้การแข่งขันเหลือเพียง อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
แต่นักลงทุนไม่กังวลเรื่องนี้ เพราะบริการเคเบิลอินเทอร์เน็ตมีกำไรสูง และเติบโตจนอยู่ตัวแล้ว อย่างในสหรัฐ ทั้ง Comcast และ Charter ต่างก็ได้ลูกค้าเยอะและมียอดขายสูงสุด โดย Comcast มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 379,000 ครัวเรือน ในการใช้บริการบรอดแบนด์ความเร็วสูงในไตรมาสที่ผ่านมา ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในรอบทศวรรษ
ถ้าเอาจริงๆ 5G ไม่ได้มาทดแทนอินเทอร์เน็ตเคเบิล เพราะลำพัง 4G เราก็ดู Netflix ได้สบายๆ แล้ว ทั้ง 4G และ 5G เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ ที่รวดเร็ว บางรายเพิ่ม 4G + LTE (long-term evolution) ต่อยอดความเร็วเน็ต
ส่วน 5G เน้นการใช้งานกับ Internet of Things (IoT) เน้นค่าหน่วงเวลา โดย Verizon บอกว่า 5G เร็วกว่า 4G LTE ปัจจุบัน 200 เท่า
มาดู 3 เหตุผลหลัก ว่าทำไม 5G มาแทนบรอดแบนด์ไม่ได้
1) อุปกรณ์ที่รองรับ
ถ้าจะใช้ 5G ต้องมีอุปกรณ์ที่รองรับ ส่วน บรอดแบนด์ใช้ Wi-Fi ได้ทุกเครื่อง (ความเร็วก็ว่ากันไปตามอุปกรณ์ที่ใช้งาน) ยังไง Wi-Fi ก็ใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์มากกว่า
2) ความปลอดภัย และความครอบคลุม
Broadband ปลอดภัยกว่า ในการรับส่งไฟล์ direct peer-to-peer และธุรกิจยังต้องการ secure Wi-Fi บน local area network (LAN) การเปลี่ยนไปใช้ Cellular น่าจะยาก เพราะ Wi-Fi ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่ Cellular นั้นจะต้องขึ้ออยู่กับการวางเสา เช่น small cell
3) ค่า TIMING
แม้ว่า Small cell และ DAS จะแก้ปัญหาเรื่อง coverage ได้ แต่การติดตั้งใช้เวลานานกว่า และกว่า 5G จะครอบคลุม ในปี 2020 โดยผู้ให้บริการต้องเร่งขยายสัญญาณให้ครอบคลุม 5G อีกอย่างคือ การใช้งานในอาคาร โดยไม่มีปัญหาสัญญาณรบกวน
อีกเรื่องคือ บางพื้นที่ห่างไกล 5G เข้ามาช่วยให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต
5G ให้บริการในพื้นที่ห่างไกล ในพื้นที่ไฟเบอร์เข้าไม่ถึง แต่บางสถานที่ 5G ไม่ครอบคลุม เน็ตมือถือไม่ครอบคลุม ก็ได้เน็ตบ้านเข้ามาช่วย และนี่อาจเป็นแรงกดดันให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตวางสายเคเบิลในพื้นที่ชนบท หรือพื้นที่ห่างไกล ไม่งั้น 5G ครอบคลุมนี่แข่งกันหนักแน่นอน (ถ้าเร้าเตอร์ 5G ปล่อย Wi-Fi)