ในปีนี้ เราได้ยินข่าวโอเปอเรเตอร์มือถือ พัฒนาบริการ 5G และเริ่มทดลองใช้งานจริงในหลายพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และ 5G มีประโยชน์ ใช้งานได้จริง เปลี่ยนโลกการสื่อสาร กับการเชื่อมต่อแบบ ultra-fast connectivity ค่า latency ต่ำ และตอบสนองการเชื่อมต่อไร้พรมแดน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญต่างบอกกันว่ายังไม่ถึงเวลาของ 5G เพราะลำพัง 3GPP นั้นยังกำหนดมาตรฐานคลื่นใหม่ เทคโนโลยีใหม่ยังไม่ลงตัว สรุปก็คือยังไม่ Final แม้จะคาดว่าใช้งานได้สมบูรณ์เต็มใบในต้นปี 2020 ก็ตาม แต่นั่นก็ยังอยู่ใน U.S. ซึ่งมี pre-standard รองรับอยู่แล้ว
ตามที่เราเห็นตามข่าว ยังจำกัดพื้นที่ ในบางเมือง สัญญาณ 5G ยังไม่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ หลักๆ คือทดสอบ ทดลองในหัวเมือง สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่ง 5G ยังมีเรื่องมาตรฐาน ที่จะต้องเคาะกันอีกที โดยเฉพาะในบางคลื่นความถี่ รวมไปถึงการใช้ LTE เดิม ที่ยังรอการสรุปไฟนอล
Babak Beheshti กรรมการบริหาร IEEE มองว่าการพัฒนา 5G ในปี 2020 จะเป็นเพียงการพัฒนาเครือข่ายส่วนตัวใช้ในกลุ่มเล็กๆ ย่อยๆ เท่านั้น โดยบริษัทสามารถใช้ pre-standard versions ของ 5G ในการสร้างปัจจัยการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็ว, low-latency ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มี โดยมีเวนเดอร์อย่าง Ericsson และ Nokia ที่พร้อมจำหน่ายอุปกรณ์ และเครือข่าย private 5G โดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม
แต่สิ่งสำคัญของการเชื่อมต่อคือเรื่องความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูล โดยเฉพาะการเชื่อมต่อไร้สาย ซึ่งจะต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
Beheshti ยังระบุด้วยว่า มีแนวทางในการใช้ private 5G ซึ่งมองเรื่องต้นทุนและปัจจัยความเป็นจริงในการพัฒนาเพื่อใช้งานกับ access points โดยใช้บนคลื่นความถี่สูง
ในขณะที่ Glenn O’Donnell รองประธานของ Forrester Research มองเรื่องของการจัดการ การบริโภคพลังงาน เมื่อเทียบกับเครือข่าย Wi-Fi 6 ที่มี capacity เหมือนกัน
เราต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว สำหรับองค์กร ต้องการเครือข่ายที่ low-latency แต่ยังปลอดภัย เราไม่ได้บอกว่า เราต้องการ 5G แต่เราต้องการ เครือข่ายในเทคโนโลยีอะไรก็ได้ ที่ตอบโจทย์เราได้ O’Donnell มองว่า โรงงานอุตสาหกรรม โกดัง และ logistics สนใจ private 5G เพื่อเชื่อมโยงกับ IoT และการพัฒนาอื่นๆ และเทคโนโลยี Wi-Fi
เมื่อเทียบเรื่องต้นทุน ค่าใช้จ่ายแล้ว เราก็มองเรื่องผลตอบแทนที่คืนกลับมา ถ้าไม่มี private wireless หรือมีเครือข่าย private wireless เล็กๆ หรือมี infrastructure
แต่สิ่งสำคัญของการเติบโตของ 5G ในปี 2020 คือเรื่องอุปกรณ์ที่รองรับในตลาด และใช้งานร่วมกับคลื่นหรือเทคโนโลยี 5G เดียวกันได้
ซึ่งตอนนี้ 5G เองก็ยังมีหลายมาตรฐาน อุปกรณ์ก็รองรับมาตรฐานที่แตกต่างกันอีก ตามที่ O’Donnell ได้บอกคือ การใช้ software-defined คลื่น 5G ที่ใช้งานบนมือถือ Samsung รุ่นที่รองรับ และรุ่นที่ผลิตในจีน อาจจะต้องมีการตั้งค่าและอัพเดต OTA ให้กับ mesh กับมาตรฐานที่ final แล้วบนเทคโนโลยี millimeter-wave ซึ่งให้บริการ 5G ด้วยความเร็วที่สูง แต่ก็ไม่การันตี
ถ้าเทียบกับวงดนตรีใหม่ ขึ้นไปแสดงบนเวที แล้วกลับไม่มีใครสนใจเขาเลย นั่นก็คือการเปิดตัวที่พังมาก
เราต้องยอมรับว่าปี 2020 เรายังไม่สามารถทำทุกอย่างให้เสร็จสมบูรณ์ได้ทัน ด้วยข้อจำกัดต่างๆ และมี use case จำกัด สำหรับ private implementations ของเทคโนโลยี 5G
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปยัง 5G ซึ่งต้องใช้เวลาและใช้เงินมหาศาล
