12 ก.พ. 2563 1,347 0

depa จับมือภาคเอกชน ภาคประชาชน และสตาร์ทอัพ เดินหน้าแก้ปัญหาเมืองอัจฉริยะ

depa จับมือภาคเอกชน ภาคประชาชน และสตาร์ทอัพ เดินหน้าแก้ปัญหาเมืองอัจฉริยะ

หนึ่งในภาคส่วนที่ depa ให้ความสำคัญคือการสนับสนุน ภาคประชาชนผ่านตัวแทนจังหวัด และภาคเอกชนอย่างสตาร์ทอัพ ผ่านโครงการ depa Accelerator 2019 โดยคำนึงอยู่เสมอว่า การพัฒนาเมืองไม่สามารถทำได้เพียงภาคส่วนเดียวแต่ต้องร่วมมือกันระหว่างภาคประชาชนผู้อยู่ในพื้นที่ ภาครัฐ และภาคเอกชน

ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โครงการ depa Accelerator 2019 ได้เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพ เข้าร่วมโครงการ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้าง “เมืองอัจฉริยะ” และได้คัดเลือกจนเหลือ 20 ทีมสุดท้าย ซึ่งตอนนี้โครงการได้มีการจัดกิจกรรมทุกสัปดาห์เพื่อเสริมสร้างความรู้และเตรียมตัวสร้างโซลูชั่น ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเสวนา Smart City Development กับตัวแทนจังหวัดจากเมืองอัจฉริยะ 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และภูเก็ต ที่มาเล่าถึงปัญหาและความต้องการในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันให้แก่สตาร์ทอัพ ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อที่จะเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการพัฒนาโซลูชั่น เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริง 

เริ่มต้นที่ จังหวัดชลบุรี ในจังหวัดชลบุรีมีโมเดลการพัฒนาหลายโครงการ รวมถึงงบประมาณที่พร้อมลงมือทำในด้าน Logistic ซึ่งคือ “เรือ, รถ, ราง” ให้ถูกนำมาพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดแต่สิ่งที่ทางจังหวัดยังขาดคือ บุคลากรหรือสตาร์ทอัพในการคิดแก้ปัญหา รวมถึงมาพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้จริง 

ส่วนที่ จังหวัดเชียงใหม่ จากการที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้คนเชียงใหม่ต้องการความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามารวมถึงประชาชนที่อยู่ในจังหวัด อีกหนึ่งปัญหาคือด้านการจราจร เนื่องจากเมืองเชียงใหม่บริเวณคูเมืองซึ่งเป็นพื้นที่เก่า ถนนค่อนข้างแคบทำให้เกิดรถติดจากปริมาณคนที่เข้ามามากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาการจอดรถบริเวณถนนเส้นหลักในคูเมืองที่มีคนจอดรถทำให้รถติด, ปัญหาสิ่งแวดล้อม ฝุ่น PM 2.5, ชุมชนหลักในเมืองที่เป็นผู้สูงอายุและเด็กต้องการการดูแลสุขภาพ

ด้านจังหวัดขอนแก่นที่ตอนนี้มีการพัฒนาขนส่ง มี Smart Bus ซึ่งทำได้แล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น ด้านสุขภาพทางโรงพยาบาลขอนแก่นอยากเก็บข้อมูลสุขภาพบุคคลเพื่อนำข้อมูลมาสร้างสุขภาวะที่ดีให้คนขอนแก่น ซึ่งโซลูชั่นด้านนี้ก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ขอนแก่นเช่นกัน นอกจากนี้จากการที่สถานที่รองรับการท่องเที่ยวและการจัดประชุม เป็นส่วนที่ยังไม่พัฒนามากนัก ทางจังหวัดจึงกำลังผลักดันเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งทางจังหวัดยังต้องการสตาร์ทอัพที่มีโซลูชั่นเข้ามาร่วมกันช่วยกันทำงาน

และปิดท้ายที่จังหวัดภูเก็ต ที่กำลังมุ่งเน้นการยกระดับการขนส่งสาธารณะของจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีไม่มากนัก ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูง ประเด็นด้านความปลอดภัยที่ต้องการโซลูชั่นมาช่วยตำรวจหรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมถึงการขนส่งทางน้ำด้วย อีกด้านที่กำลังมุ่งเน้นคือด้านพลังงาน จากสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะและมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้พลังงานมีไม่เพียงพอ และสุดท้ายคือด้านการท่องเที่ยวที่ปัจจุบันยังไม่มีโซลูชั่นเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว

นอกจากการพูดคุยกับตัวแทนแต่ละจังหวัดแล้ว ทางโครงการยังได้นำภาคเอกชน คือ siri ventures มาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในส่วนของ Digital Solution ที่เข้ามาตอบโจทย์ Smart Living ของคนกรุงเทพ ซึ่ง siri ventures มีแกนหลักที่อยากพัฒนา การลงทุนในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของคน เช่น ด้านของการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ ด้านการดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ซึ่ง siri ventures มองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการได้โซลูชั่นใหม่ๆ จากสตาร์ทอัพของโครงการ

หลังจากได้รับฟังเสียงตัวแทนจาก 4 จังหวัดและประสบการณ์จากภาคเอกชนสตาร์ทอัพ ทั้ง 20 ทีม ที่เข้าร่วมโครงการ depa Accelerator 2019 จะนำโจทย์สำคัญจากข้อมูลที่ได้มาต่อยอดว่าโซลูชั่นที่แต่ละทีมมีอยู่นั้นว่าจะตรงกับปัญหาของจังหวัดไหนหรือสามารถนำมาใช้ในการพัฒนางานของตนได้หรือไม่ 

สุดท้ายแล้วสตาร์ทอัพ ทีมใดจะถูกเลือกและตอบโจทย์ปัญหาในจังหวัดใดคงต้องมารอลุ้นกันต่อในรอบ Demo Day ที่จะจัดขึ้นใน วันที่ 13 มีนาคม 2020 นี้ (รายละเอียด เวลา และสถานที่ โปรดติดตามได้ที่เพจ Techsauce เร็วๆ นี้) โดยงานนี้เปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาฟังการนำเสนอผลงานรอบตัดสินพร้อมลุ้นกันว่าทีมใดจะเป็น The Winner ของโครงการ depa Accelerator 2019 

COMMENTS