ความพิเศษของโปรเซสเซอร์ BCM4389 อยู่ตรงที่รองรับรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6E รายแรก รองรับการใช้แบนด์วิดท์ 6 GHz ซึ่งคลื่นดังกล่าวเป็นคลื่นที่มีความกว้างของสัญญาณสูงและหลากหลายช่องสัญญาณ (wider channel bandwidth) ระดับ 1200MHz เมื่อเทียบเท่ากับ 500MHz ในย่าน 5GHz เพียงพอสำหรับช่องสัญญาณ 160MHz จำนวนเจ็ดช่อง รองรับการใช้ช่องสัญญาณสมาร์ทโฟนในรุ่นต่อไป
โดยออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงและอุปกรณ์อื่นที่ต้องการรับสัญญาณ Wi-Fi 6E และเทคโนโลยี AR อีกด้วย นอกจากนี้ปรับความถี่ระดับกลาง multi-radio technology ปรับปรุงความสามารถของ Bluetooth ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
ซึ่งใช้เทคนิคพิเศษอย่าง new tri-band simultaneous (TBS) โดยเอา Wi-Fi radios และ MIMO Bluetooth มาปรับใช้ ทำให้ความสามารถของการจับคู่อุปกรณ์ Bluetooth มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าอยู่ในสภาวะของคลื่นที่รบกวนสูงก็สามารถรับส่งสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
BCM4389 กลายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นความถี่ระดับ full range สำหรับ home routers ซึ่งพร้อมกับตลาด ในสหรัฐอเมริกาในปี 2563
ความสามารถพิเศษของ ซิปรุ่นนี้
- Support for 2 streams of Wi-Fi 6E
- Multi-Radio Bluetooth 5 with antenna beamforming
- Tri-Band Simultaneous (TBS) architecture including a dedicated background scan radio
- Simultaneous Dual-Band operation
2.63 Gbps PHY Rate
- Operation in 2.4GHz and 5.1-7.125GHz unlicensed band
- 160 MHz Channel Bandwidth
- 1024-QAM Modulation
- OFDMA
- MU-MIMO
Ajit Pai ประธาน The Wi-Fi Alliance กล่าวว่า Wi-Fi 6E เป็นเทคโนโลยีที่เป็นทางด่วนของระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีช่องสัญญาณที่มีความหลากหลาย มีแบนด์วิดท์ที่กว้าง และเป็นที่ยอมรับของหน่วยงาน FCC หน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของประเทศสหรัฐอเมริกา ไฟเขียวเปิดคลื่นความถี่ 6GHz
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ซิปรุ่นนี้จะเป็นรุ่นต่อไปของ Iphone ซึ่งจะต้องรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6E หลังจากที่ Broadcom ได้เซ็นสัญญาในการส่งมอบซิปให้กับ APPLE เป็นระยะเวลา 3.5 ปี
ข้อมูล arstechnica venturebeat cnet