โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ ความยั่งยืนและการเข้าถึงพลังงาน อาคารในอนาคต โรงงานในอนาคต และโครงข่ายไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งประเทศไทยมีนักศึกษาเข้าร่วมนำเสนอผลงานจำนวนมาก แต่ที่มีคะแนนสูงจากกรรมการซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญมี 3 อันดับ ได้แก่
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่โครงการ Hybrid Wind Solar จากทีม Changer ประกอบด้วย นภชล ดอกไม้เพ็ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ พัชรพร กาญจโนภาส มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยแนวคิดของโครงการคือการนำโซลูชั่นแผงพลังแสงอาทิตย์ควบคู่กับกังหันรับพลังงานลมที่ได้จากรถวิ่งผ่าน ทำให้เกิดพลังงานถึง 2 แหล่งที่มา ให้กับไฟถนน จากเดิม ไฟถนนที่ติดเฉพาะแผงโซลา มักเกิดปัญหาพลังงานไม่เพียงพอสำหรับใช้ในช่วงเวลากลางคืน หรือ ในบางช่วงฤดูกาลที่แสงแดดน้อย
รองชนะเลิศอันดับ 1 โครงการ PM2.5 Spray: Save the world, save the bill จากทีม DoubleT ญาณพัฒน์ เพลงเกษม และ ณัฐปัณชญา จิรทีปต์กุลเมธ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งเป็นสเปรย์ที่ช่วยจับ PM2.5 ให้ตกลงสู่พื้น
รองชนะเลิศอันดับ 2 โครงการ Air Humidifier Water จากทีม MIT ดรัสพงศ์ อินทรปัญญา และ กาญจน์รพี ศิวาพรเสถียร จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นการดึงเอาไอน้ำในอากาศออกมาใช้ประโยชน์ในการอุปโภค-บริโภค
โครงการ Schneider Go Green ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นการแข่งขันนานาชาติด้านพลังงานระดับโลก สำหรับนักศึกษาที่มีแนวคิดช่วยโลกในการอนุรักษ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อช่วยให้เมืองต่างๆ มีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะเฟ้นหาแนวคิดที่สร้างสรรค์และทำได้จริงมากที่สุด โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการประกวดต้องเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยและแต่ละทีมต้องมีสมาชิกเป็นผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในเรื่อง Schneider Electric’s Policy of Promoting Diversity and Inclusion ซึ่งเป็นการสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศและความหลากหลาย
โดยน้องๆ จากทีม Changer ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเทศไทย เจ้าของผลงาน Hybrid Wind Solar จะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีระดับโลกของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อต่อยอดแนวคิดก่อนแข่งรอบชิงชนะเลิศระดับอาเซียนกับอีก 8 ประเทศ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ชไนเดอร์ อิเลคทริค #SchneiderGoGreen #WhatsYourBoldIdea #Meaningful #Inclusive #Empowered