วรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพเด็กไทยให้มีความพร้อมทางทักษะแห่งอนาคต ตามวิสัยทัศน์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของซัมซุงทั่วโลก ในการมุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน (Together for Tomorrow! Enabling People) ที่สนับสนุนให้ทุกคนค้นพบศักยภาพของตัวเองและแสดงศักยภาพอย่างเต็มพลัง ซึ่งในปีนี้เราได้ดำเนินการผ่านโครงการ Samsung Innovation Campus เป็นปีที่ 2 หลังจากที่ได้เปิดโครงการตัวนำร่อง ในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา และได้เสียงตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วมโครงการ โดยนักเรียนเกินกว่า 70% มีความพึงพอใจต่อโครงการ ในปีนี้ เพื่อตอบรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน จะมีการยกระดับโครงการให้อยู่ในรูปของการอบรมออนไลน์ สอนการเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน รวมถึงให้ความรู้และวีธีการคิดพัฒนานวัตกรรม ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี”

โครงการ Samsung Innovation Campus ในปีนี้ได้มีการนำเอาข้อมูลที่ได้จากโครงการนำร่อง รวมถึงผลการตอบรับที่มีต่อโครงการในประเทศต่างๆ มาใช้พัฒนาต่อยอด เพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านของเนื้อหาโครงการ ที่ปรับในสัดส่วนของภาษาโค้ดดิ้งให้เหมาะสมกับผู้เริ่มต้นเรียนและนักเรียนมัธยมต้นที่ต้องการศึกษาพื้นฐานการเขียนโปรแกรม นอกจากนี้ ยังได้เสริมเนื้อหาความรู้ในส่วนของความเข้าใจในเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลง เครื่องมือของนวัตกรเบื้องต้นในการคิดพัฒนานวัตกรรม และเนื่องด้วยสถานการณ์เฝ้าระวังที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน  โครงการยังได้ร่วมมือกับทางสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่นในการปรับรูปแบบค่ายอบรมสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นครั้งแรกอีกด้วย

อาจารย์อดิศักดิ์ เสือสมิง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า “เนื้อหาของหลักสูตรออนไลน์ในครั้งนี้ เรามุ่งเน้นให้นักเรียนได้เข้าใจพื้นฐานการเขียนโปรแกรมผ่านสแครช (Scratch), และไพธอน (Python) ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจะต้องเรียนในวิชาวิทยาการคำนวณ โดยค่ายอบรมจะเน้นด้านเนื้อหาที่เรียนแบบต่อเนื่อง และเน้นการประยุกต์ความรู้เป็นชิ้นงานจริง นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มเนื้อหาภาษาซี (C-Programming) ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเขียนโค้ดหลากหลายภาษา โครงการคาดหวังว่าความรู้พื้นฐานที่นักเรียนได้รับ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจการเรียนการสอนในห้องเรียนมากขึ้น และสามารถต่อยอดความรู้ไปสู่การเขียนโปรแกรมในระดับที่สูงขึ้นในอนาคต สำหรับรุปแบบของค่ายอบรมที่ปรับมาอยู่ในรูปแบบของออนไลน์นั้น สถาบันฯ ในฐานะผู้พัฒนาหลักสูตรร่วมกับซัมซุง และเป็นผู้สอนเนื้อหาให้กับนักเรียน ได้เตรียมแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยในการจัดการเรียนการสอน รวมถึง ทีมผู้ช่วยสอนที่จะให้คำปรึกษาแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับนักเรียนตลอดจนจบโครงการ เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนจะได้รับความรู้และคำแนะนำในการเรียนไม่ต่างจากการเรียนในรูปแบบปกติ และยังสามารถทำกิจกรรมร่วมกันผ่านทางออนไลน์ได้อย่างน่าสนใจ”

“ในปีนี้ โครงการ Samsung Innovation Campus หลักสูตรการเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐานได้รับการตอบรับที่ดีจากเยาวชนทั่วประเทศ โดยมีผู้สมัครเข้ามากว่า 500 คน และมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2-3 ทั้งสิ้น 55 คน จาก 11 จังหวัด ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมอบรมกับโครงการเป็นระยะเวลา 70 ชั่วโมง ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ ซัมซุงคาดหวังว่า โครงการนี้จะป็นจุดเริ่มต้นให้เยาวชนไทยได้ทำความคุ้นเคยกับการเขียนโปรแกรม พร้อมช่วยให้นักเรียนได้ค้นพบความสนใจของตนเอง และช่วยจุดประกายให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดพัฒนาตนเองเป็นสุดยอดนวัตกรรุ่นเยาว์ เพื่อสร้างประโยชน์ต่อตนเองและชุมชนต่อไป” วรรณากล่าวสรุป